Suggest Keywords
คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่
https://www.ttbbank.com/
การส่งเสริมด้านความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงินจะส่งผลประโยชน์แก่สังคมได้เป็นอย่างมาก ธนาคารตระหนักถึงบทบาทในการสร้างจิตสำนึกและให้ความรู้ดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนในสังคมมีศักยภาพและความพร้อมในการบริหารจัดการเงิน แม้ต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจสังคม ซึ่งจะส่งผลให้สังคมมีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีในท้ายที่สุด
ธนาคารได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการของของธนาคารและปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางเงินและปรับปรุงการให้บริการโดยรวม โดยธนาคารสนับสนุนให้เกิดสังคมที่ไร้เงินสด (Cashless Society) และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) โดยเปิดบริการชำระเงินด้วย QR (Quick Response) Code และ PromptPay ผ่าน ttb touch และช่องทางดิจิทัลอื่นๆ
ในปี 2560 การให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของกรอบการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ธนาคารได้ริเริ่มโครงการ Financial Literacy Program เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ของธนาคารซึ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด (need-based) จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการให้บริการคำปรึกษาแก่ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย แผนงานดังกล่าวเน้นการดำเนินงานใน 2 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานด้านความรู้ความเข้าใจการเงินขั้นพื้นฐาน และการร่วมให้ความรู้ทางการเงินในภาคอุตสาหกรรมธนาคารโดยครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พนักงาน ลูกค้า ชุมชนและหน่วยงานกำกับดูแล
สำหรับแผนงานขั้นแรกในการให้ความรู้ทางการเงินนั้น ธนาคารจะสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งตลอดจนเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้กับลูกค้า โดยพัฒนากิจกรรมและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อสร้างความผูกพันบนพื้นฐานของความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ระดับของวุฒิภาวะที่แตกต่างกันและกฎเกณฑ์เบื้องต้นที่จะไม่ทำการ Cross sells กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2562 ธนาคารได้ริเริ่มแผนงานใหม่ภายใต้โครงการ ttb Financial Literacy Program โดยกำหนดให้พนักงานใหม่ทุกคนต้องผ่านการอบรมด้านการให้ความรู้ทางการเงินซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฐมนิเทศ ในขณะเดียวกัน ธนาคารได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภายในเพื่อเสริมทักษะของพนักงานในด้านการให้ความรู้ทางการเงิน การสร้างทัศนคติและพฤติกรรม เช่นการเรียนรู้ผ่านระบบ e-learning ในรูปแบบหนังสั้น โดยมีชุดคำถามและกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การประเมินผล ธนาคารเชื่อว่าพนักงานต้องมีความรู้ด้านการเงินก่อนที่จะสามารถให้บริการทางการเงินหรือมีส่วนร่วมกับกลุ่มอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในฐานะที่ธนาคารเป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการประสานความร่วมมือระหว่างธนาคารชั้นนำในประเทศกับองค์กรภาครัฐเพื่อกำหนดและดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ สมาคมธนาคารไทยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านการเงิน อันสะท้อนให้เห็นจากแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของสมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์หลัก 7 ประการดังนี้
สมาชิกทุกรายของสมาคมธนาคารไทยให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามแผนทั้ง 7 ประการข้างต้น โดยธนาคาร มีบทบาทเป็นผู้นำในด้านการส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคมไทยโดยเฉพาะ
ธนาคารเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเงินและการมีวินัยทางการเงิน เช่น การรู้จักออม เป็นก้าวแรก ที่จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดี ธนาคารจึงได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน ttb touch ให้มีฟีเจอร์ใหม่ ในการตั้งเป้าหมายการออม(Savings Goal) และการแจ้งเตือนการออม (Savings Alarm) เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถเริ่่มออมเงินได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีต่อไป
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการของลูกค้า ธนาคารมุ่งหวังที่จะมอบการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน ครอบคลุม และง่ายต่อลูกค้า นอกนี้ธนาคารพัฒนาโมเดลการทำงานแบบ Digital First ซึ่งมุ่งใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการเสนอบริการผ่านช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ธนาคารสนับสนุนการใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความสะดวกสบายของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม รวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศได้ ด้านล่างนี้คือโครงการริเริ่มของการเข้าถึงทางการเงิน
การส่งเสริมด้านความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงินจะส่งผลประโยชน์แก่สังคมได้เป็นอย่างมาก ธนาคารตระหนักถึงบทบาทในการสร้างจิตสำนึกและให้ความรู้ดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนในสังคมมีศักยภาพและความพร้อมในการบริหารจัดการเงิน แม้ต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจสังคม ซึ่งจะส่งผลให้สังคมมีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีในท้ายที่สุด
ธนาคารได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการของของธนาคารและปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางเงินและปรับปรุงการให้บริการโดยรวม โดยธนาคารสนับสนุนให้เกิดสังคมที่ไร้เงินสด (Cashless Society) และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) โดยเปิดบริการชำระเงินด้วย QR (Quick Response) Code และ PromptPay ผ่าน ttb touch และช่องทางดิจิทัลอื่นๆ
ในปี 2560 การให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของกรอบการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ธนาคารได้ริเริ่มโครงการ Financial Literacy Program เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ของธนาคารซึ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด (need-based) จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการให้บริการคำปรึกษาแก่ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย แผนงานดังกล่าวเน้นการดำเนินงานใน 2 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานด้านความรู้ความเข้าใจการเงินขั้นพื้นฐาน และการร่วมให้ความรู้ทางการเงินในภาคอุตสาหกรรมธนาคารโดยครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พนักงาน ลูกค้า ชุมชนและหน่วยงานกำกับดูแล
สำหรับแผนงานขั้นแรกในการให้ความรู้ทางการเงินนั้น ธนาคารจะสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งตลอดจนเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้กับลูกค้า โดยพัฒนากิจกรรมและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อสร้างความผูกพันบนพื้นฐานของความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ระดับของวุฒิภาวะที่แตกต่างกันและกฎเกณฑ์เบื้องต้นที่จะไม่ทำการ Cross sells กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2562 ธนาคารได้ริเริ่มแผนงานใหม่ภายใต้โครงการ ttb Financial Literacy Program โดยกำหนดให้พนักงานใหม่ทุกคนต้องผ่านการอบรมด้านการให้ความรู้ทางการเงินซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฐมนิเทศ ในขณะเดียวกัน ธนาคารได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภายในเพื่อเสริมทักษะของพนักงานในด้านการให้ความรู้ทางการเงิน การสร้างทัศนคติและพฤติกรรม เช่นการเรียนรู้ผ่านระบบ e-learning ในรูปแบบหนังสั้น โดยมีชุดคำถามและกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การประเมินผล ธนาคารเชื่อว่าพนักงานต้องมีความรู้ด้านการเงินก่อนที่จะสามารถให้บริการทางการเงินหรือมีส่วนร่วมกับกลุ่มอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในฐานะที่ธนาคารเป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการประสานความร่วมมือระหว่างธนาคารชั้นนำในประเทศกับองค์กรภาครัฐเพื่อกำหนดและดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ สมาคมธนาคารไทยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านการเงิน อันสะท้อนให้เห็นจากแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของสมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์หลัก 7 ประการดังนี้
สมาชิกทุกรายของสมาคมธนาคารไทยให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามแผนทั้ง 7 ประการข้างต้น โดยธนาคาร มีบทบาทเป็นผู้นำในด้านการส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคมไทยโดยเฉพาะ
ธนาคารเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเงินและการมีวินัยทางการเงิน เช่น การรู้จักออม เป็นก้าวแรก ที่จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดี ธนาคารจึงได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน ttb touch ให้มีฟีเจอร์ใหม่ ในการตั้งเป้าหมายการออม(Savings Goal) และการแจ้งเตือนการออม (Savings Alarm) เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถเริ่่มออมเงินได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีต่อไป
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการของลูกค้า ธนาคารมุ่งหวังที่จะมอบการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน ครอบคลุม และง่ายต่อลูกค้า นอกนี้ธนาคารพัฒนาโมเดลการทำงานแบบ Digital First ซึ่งมุ่งใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการเสนอบริการผ่านช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ธนาคารสนับสนุนการใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความสะดวกสบายของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม รวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศได้ ด้านล่างนี้คือโครงการริเริ่มของการเข้าถึงทางการเงิน
การส่งเสริมด้านความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงินจะส่งผลประโยชน์แก่สังคมได้เป็นอย่างมาก ธนาคารตระหนักถึงบทบาทในการสร้างจิตสำนึกและให้ความรู้ดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนในสังคมมีศักยภาพและความพร้อมในการบริหารจัดการเงิน แม้ต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจสังคม ซึ่งจะส่งผลให้สังคมมีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีในท้ายที่สุด
ธนาคารได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการของของธนาคารและปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางเงินและปรับปรุงการให้บริการโดยรวม โดยธนาคารสนับสนุนให้เกิดสังคมที่ไร้เงินสด (Cashless Society) และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) โดยเปิดบริการชำระเงินด้วย QR (Quick Response) Code และ PromptPay ผ่าน ttb touch และช่องทางดิจิทัลอื่นๆ
ในปี 2560 การให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของกรอบการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ธนาคารได้ริเริ่มโครงการ Financial Literacy Program เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ของธนาคารซึ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด (need-based) จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการให้บริการคำปรึกษาแก่ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย แผนงานดังกล่าวเน้นการดำเนินงานใน 2 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานด้านความรู้ความเข้าใจการเงินขั้นพื้นฐาน และการร่วมให้ความรู้ทางการเงินในภาคอุตสาหกรรมธนาคารโดยครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พนักงาน ลูกค้า ชุมชนและหน่วยงานกำกับดูแล
สำหรับแผนงานขั้นแรกในการให้ความรู้ทางการเงินนั้น ธนาคารจะสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งตลอดจนเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้กับลูกค้า โดยพัฒนากิจกรรมและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อสร้างความผูกพันบนพื้นฐานของความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ระดับของวุฒิภาวะที่แตกต่างกันและกฎเกณฑ์เบื้องต้นที่จะไม่ทำการ Cross sells กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2562 ธนาคารได้ริเริ่มแผนงานใหม่ภายใต้โครงการ ttb Financial Literacy Program โดยกำหนดให้พนักงานใหม่ทุกคนต้องผ่านการอบรมด้านการให้ความรู้ทางการเงินซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฐมนิเทศ ในขณะเดียวกัน ธนาคารได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภายในเพื่อเสริมทักษะของพนักงานในด้านการให้ความรู้ทางการเงิน การสร้างทัศนคติและพฤติกรรม เช่นการเรียนรู้ผ่านระบบ e-learning ในรูปแบบหนังสั้น โดยมีชุดคำถามและกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การประเมินผล ธนาคารเชื่อว่าพนักงานต้องมีความรู้ด้านการเงินก่อนที่จะสามารถให้บริการทางการเงินหรือมีส่วนร่วมกับกลุ่มอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในฐานะที่ธนาคารเป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการประสานความร่วมมือระหว่างธนาคารชั้นนำในประเทศกับองค์กรภาครัฐเพื่อกำหนดและดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ สมาคมธนาคารไทยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านการเงิน อันสะท้อนให้เห็นจากแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของสมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์หลัก 7 ประการดังนี้
สมาชิกทุกรายของสมาคมธนาคารไทยให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามแผนทั้ง 7 ประการข้างต้น โดยธนาคาร มีบทบาทเป็นผู้นำในด้านการส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคมไทยโดยเฉพาะ
ธนาคารเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเงินและการมีวินัยทางการเงิน เช่น การรู้จักออม เป็นก้าวแรก ที่จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดี ธนาคารจึงได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน ttb touch ให้มีฟีเจอร์ใหม่ ในการตั้งเป้าหมายการออม(Savings Goal) และการแจ้งเตือนการออม (Savings Alarm) เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถเริ่่มออมเงินได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีต่อไป
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการของลูกค้า ธนาคารมุ่งหวังที่จะมอบการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน ครอบคลุม และง่ายต่อลูกค้า นอกนี้ธนาคารพัฒนาโมเดลการทำงานแบบ Digital First ซึ่งมุ่งใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการเสนอบริการผ่านช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ธนาคารสนับสนุนการใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความสะดวกสบายของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม รวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศได้ ด้านล่างนี้คือโครงการริเริ่มของการเข้าถึงทางการเงิน
การส่งเสริมด้านความรู้ทางการเงินและการเข้าถึงบริการทางการเงินจะส่งผลประโยชน์แก่สังคมได้เป็นอย่างมาก ธนาคารตระหนักถึงบทบาทในการสร้างจิตสำนึกและให้ความรู้ดังกล่าวเพื่อให้ทุกคนในสังคมมีศักยภาพและความพร้อมในการบริหารจัดการเงิน แม้ต้องรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจสังคม ซึ่งจะส่งผลให้สังคมมีคุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดีในท้ายที่สุด
ธนาคารได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการของของธนาคารและปรับปรุงประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางเงินและปรับปรุงการให้บริการโดยรวม โดยธนาคารสนับสนุนให้เกิดสังคมที่ไร้เงินสด (Cashless Society) และระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) โดยเปิดบริการชำระเงินด้วย QR (Quick Response) Code และ PromptPay ผ่าน ttb touch และช่องทางดิจิทัลอื่นๆ
ในปี 2560 การให้ความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของกรอบการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน ธนาคารได้ริเริ่มโครงการ Financial Literacy Program เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ของธนาคารซึ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุด (need-based) จะดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการให้บริการคำปรึกษาแก่ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย แผนงานดังกล่าวเน้นการดำเนินงานใน 2 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานด้านความรู้ความเข้าใจการเงินขั้นพื้นฐาน และการร่วมให้ความรู้ทางการเงินในภาคอุตสาหกรรมธนาคารโดยครอบคลุม 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ พนักงาน ลูกค้า ชุมชนและหน่วยงานกำกับดูแล
สำหรับแผนงานขั้นแรกในการให้ความรู้ทางการเงินนั้น ธนาคารจะสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งตลอดจนเสริมสร้างทักษะทางการเงินให้กับลูกค้า โดยพัฒนากิจกรรมและแนวทางดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อสร้างความผูกพันบนพื้นฐานของความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ระดับของวุฒิภาวะที่แตกต่างกันและกฎเกณฑ์เบื้องต้นที่จะไม่ทำการ Cross sells กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2562 ธนาคารได้ริเริ่มแผนงานใหม่ภายใต้โครงการ ttb Financial Literacy Program โดยกำหนดให้พนักงานใหม่ทุกคนต้องผ่านการอบรมด้านการให้ความรู้ทางการเงินซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฐมนิเทศ ในขณะเดียวกัน ธนาคารได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมภายในเพื่อเสริมทักษะของพนักงานในด้านการให้ความรู้ทางการเงิน การสร้างทัศนคติและพฤติกรรม เช่นการเรียนรู้ผ่านระบบ e-learning ในรูปแบบหนังสั้น โดยมีชุดคำถามและกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อนำไปสู่การประเมินผล ธนาคารเชื่อว่าพนักงานต้องมีความรู้ด้านการเงินก่อนที่จะสามารถให้บริการทางการเงินหรือมีส่วนร่วมกับกลุ่มอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในฐานะที่ธนาคารเป็นสมาชิกของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ในการประสานความร่วมมือระหว่างธนาคารชั้นนำในประเทศกับองค์กรภาครัฐเพื่อกำหนดและดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจและการเงินที่สำคัญ สมาคมธนาคารไทยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมธนาคารในประเทศและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านการเงิน อันสะท้อนให้เห็นจากแผนยุทธศาสตร์ 5 ปีของสมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์หลัก 7 ประการดังนี้
สมาชิกทุกรายของสมาคมธนาคารไทยให้ความร่วมมือในการดำเนินงานตามแผนทั้ง 7 ประการข้างต้น โดยธนาคาร มีบทบาทเป็นผู้นำในด้านการส่งเสริมการให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคมไทยโดยเฉพาะ
ธนาคารเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเงินและการมีวินัยทางการเงิน เช่น การรู้จักออม เป็นก้าวแรก ที่จะนำไปสู่คุณภาพชีวิตทางการเงินที่ดี ธนาคารจึงได้ปรับปรุงแอปพลิเคชัน ttb touch ให้มีฟีเจอร์ใหม่ ในการตั้งเป้าหมายการออม(Savings Goal) และการแจ้งเตือนการออม (Savings Alarm) เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถเริ่่มออมเงินได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดีต่อไป
ธนาคารมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธนาคารปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการของลูกค้า ธนาคารมุ่งหวังที่จะมอบการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมกัน ครอบคลุม และง่ายต่อลูกค้า นอกนี้ธนาคารพัฒนาโมเดลการทำงานแบบ Digital First ซึ่งมุ่งใช้ดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการเสนอบริการผ่านช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ธนาคารสนับสนุนการใช้บริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความสะดวกสบายของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม รวมทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศได้ ด้านล่างนี้คือโครงการริเริ่มของการเข้าถึงทางการเงิน
รบกวนให้คะแนนเราหน่อยนะ