การเตรียมเอกสารกู้บ้านเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการยื่นกู้ซื้อบ้านราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังแสดงถึงความพร้อมของคุณ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อบ้านได้ง่ายอีกด้วย ทีทีบีขอพาทุกคนไปเรียนรู้กันว่ามีเอกสารอะไรบ้างที่ไม่ควรมองข้าม
เอกสารกู้บ้านใช้อะไรบ้าง
การเตรียมเอกสารยื่นกู้ซื้อบ้าน หลัก ๆ แล้วจะประกอบไปด้วยเอกสาร 3 ประเภท คือ เอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน มีรายละเอียดที่ต้องรู้ ดังนี้
1. เอกสารส่วนตัว
เป็นหลักฐานที่ใช้ยืนยันตัวตนและสถานะของผู้กู้ ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ธนาคารต้องการเพื่อเริ่มกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ ประกอบด้วยเอกสารดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
- สำเนาทะเบียนสมรส หรือใบหย่า (ถ้ามี)
2. เอกสารแสดงรายได้
เป็นหลักฐานสำคัญที่ธนาคารใช้พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยแบ่งตามอาชีพและลักษณะรายได้ ซึ่งธนาคารจะแบ่งอาชีพที่มีรายได้ต่างกันเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
กรณีพนักงานประจำ
- สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
- หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 91)
กรณีเจ้าของกิจการ / ธุรกิจส่วนตัว
- สำเนาบัญชีธนาคารที่ใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด
- สำเนาใบอนุญาตประกอบธุรกิจที่ออกโดยหน่วยงานราชการ ได้แก่
- กรณีบริษัท สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน) และสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด (อายุไม่เกิน 3 เดือน)
- กรณีร้านค้า สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์/ ทะเบียนการค้า
- บัญชีรับ - จ่าย (ถ้ามี) ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด/ งบการเงิน/ กรณีเป็นนิติบุคคล ใบเสร็จภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.30) ย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุด
- แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90 หรือ 91)
- รูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพพร้อมแผนที่ตั้งโดยสังเขป
3. เอกสารหลักประกัน
เป็นหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่จะใช้ค้ำประกันเงินกู้อย่างบ้านหรือที่ดินที่ซื้อไว้ ประกอบด้วยเอกสารดังนี้
- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 ก.
- สัญญาจะซื้อจะขาย
- แบบแปลนบ้าน และใบอนุญาตก่อสร้าง
- รายงานประเมินราคาทรัพย์สิน
- หนังสือยินยอมให้ตรวจสอบข้อมูลเครดิต
ผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม เตรียมเอกสารยื่นกู้บ้านเหมือนกันไหม?
ผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วมต้องเตรียมเอกสารยื่นกู้บ้านคล้ายกัน แต่อาจมีบางส่วนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับบทบาทของแต่ละคน ดังนี้
- เอกสารส่วนตัว ทั้งผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วมต้องเตรียมเหมือนกัน เพื่อยืนยันตัวตนและสถานะทางกฎหมาย
- เอกสารแสดงรายได้ ทั้งสองฝ่ายต้องแสดงหลักฐานรายได้ แต่อาจมีน้ำหนักต่างกัน โดยผู้กู้หลักมักต้องแสดงความสามารถในการชำระหนี้ที่ชัดเจนกว่า
- เอกสารหลักประกัน โดยทั่วไป ผู้กู้หลักจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการเตรียมเอกสารส่วนนี้ แต่ผู้กู้ร่วมอาจต้องลงนามในเอกสารบางชุด
- ทะเบียนสมรส นำมาแสดงในกรณีที่ผู้กู้ร่วมเป็นคู่สมรส
การเตรียมเอกสารกู้บ้าน ส่งผลต่อการอนุมัติสินเชื่อยังไง?
การเตรียมเอกสารยื่นกู้บ้านอย่างครบถ้วนและถูกต้องมีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นอย่างมาก เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่ธนาคารใช้ประเมินคุณสมบัติของผู้กู้ โดยมีเหตุผลดังนี้
- เจ้าหน้าที่สามารถประเมินคุณสมบัติผู้กู้ได้เร็วขึ้น ลดเวลาในการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทำให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อดำเนินไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- แสดงความสามารถในการชำระหนี้ ทำให้ธนาคารมั่นใจในศักยภาพของตัวผู้ยื่นกู้ได้มากยิ่งขึ้น
- แสดงถึงความรับผิดชอบและความใส่ใจในรายละเอียดของผู้ยื่นกู้ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในการพิจารณาอนุมัติ
5 ขั้นตอนยื่นกู้ซื้อบ้านฉบับเข้าใจง่าย
เมื่อได้ทราบรายละเอียดของเอกสารยื่นกู้บ้านครบถ้วนแล้ว ทีทีบีขอแนะนำขั้นตอนการยื่นกู้บ้านเพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและสามารถเตรียมตัวได้อย่างมั่นใจ ก่อนเดินหน้าสู่การมีบ้านในฝัน
1. เช็กความพร้อมทางการเงินของตัวเอง
ก่อนตัดสินใจยื่นกู้บ้าน การประเมินสถานะทางการเงินของตนเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีความสามารถในการผ่อนชำระและไม่กระทบต่อสภาพคล่องในระยะยาว โดยมีหัวใจสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้
- เช็กเครดิตบูโร เริ่มต้นด้วยการตรวจสุขภาพทางการเงินของตนเองผ่านรายงานข้อมูลเครดิต เพื่อตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ทั้งหมด หากมีประวัติล่าช้าหรือคงค้าง ควรรีบจัดการให้เรียบร้อยล่วงหน้า
- ประเมินรายรับ-รายจ่าย สำรวจรายได้ทั้งหมดหักลบด้วยรายจ่ายและภาระหนี้สินที่มีอยู่ เพื่อคำนวณหาความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ต่อเดือน โดยทั่วไปแล้วภาระผ่อนทั้งหมดไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ เพื่อให้คุณยังมีเงินเหลือพอสำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเงินออม
- เตรียมเงินดาวน์ การมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20% ของราคาบ้าน จะช่วยลดภาระยอดหนี้ที่ต้องกู้ลงได้มาก ทำให้ค่างวดผ่อนต่อเดือนไม่สูงเกินไป และยังเป็นเครื่องยืนยันความพร้อมทางการเงินที่น่าเชื่อถือในสายตาของธนาคารอีกด้วย
2. เลือกสินเชื่อบ้านที่ “ใช่” สำหรับคุณ
ถัดมา ให้ศึกษาเงื่อนไขของสินเชื่อบ้านและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและโปรโมชันจากธนาคารต่าง ๆ อย่ามองแค่ตัวเลขดอกเบี้ยในปีแรกเพียงอย่างเดียว แต่ให้พิจารณาอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีประกอบการตัดสินใจ รวมทั้งโปรโมชันฟรีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สำคัญ ลองเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารที่สนใจ เพื่อขอคำแนะนำและทำการประเมินวงเงินกู้เบื้องต้น (Pre-approve) ซึ่งจะช่วยให้คุณทราบงบประมาณในการเลือกซื้อบ้านได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. เตรียมเอกสารและยื่นกู้กับธนาคาร
เมื่อเลือกโครงการบ้านและสินเชื่อที่ถูกใจได้แล้ว ก็ถึงขั้นตอนการรวบรวมเอกสารยื่นกู้บ้านทั้งหมดตามที่ธนาคารกำหนด ไม่ว่าจะเป็นเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารหลักประกัน ควรตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของเอกสารทั้งหมดให้ดี เพื่อให้การยื่นกู้เป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่มีสะดุด
4. รอฟังผลการพิจารณาและประเมินหลักทรัพย์
หลังจากยื่นเรื่องและเอกสารยื่นกู้บ้านเรียบร้อยแล้ว ธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้กู้ ควบคู่ไปกับการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินมูลค่าของบ้านหรือคอนโดที่คุณต้องการซื้อ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาอนุมัติวงเงินสินเชื่อ โดยขั้นตอนนี้โดยทั่วไปจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
5. ทำสัญญาและโอนกรรมสิทธิ์
เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ธนาคารจะนัดหมายคุณเพื่อทำสัญญาเงินกู้ (เซ็นสัญญา) และหลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย คือการเดินทางไปที่กรมที่ดินพร้อมกับผู้ขายและเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้านให้เป็นของคุณอย่างสมบูรณ์ ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการขอกู้บ้าน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเอกสารยื่นกู้บ้าน
กรณีไม่มีสลิปเงินเดือน ใช้เอกสารอะไรแทนได้บ้าง?
สำหรับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน เช่น กลุ่มอาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการ สามารถใช้เอกสารทางการเงินอื่นเพื่อยืนยันรายได้ได้ เช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) สำหรับรายได้ในปีล่าสุด, รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6-12 เดือน หรือเอกสารแสดงการประกอบธุรกิจ เช่น ทะเบียนการค้า หรือสัญญาจ้างงาน เพื่อให้ธนาคารใช้พิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ
สเตทเม้นท์ (Bank Statement) ต้องเป็นฉบับล่าสุดไม่เกินกี่เดือน?
โดยทั่วไปแล้ว ธนาคารจะกำหนดให้ใช้รายการเดินบัญชีหรือสเตทเม้นท์ (Bank Statement) ที่เป็นฉบับล่าสุด ย้อนหลังต่อเนื่องกัน 6 เดือน และต้องมีอายุของเอกสาร ณ วันที่ยื่นกู้ไม่เกิน 1-2 เดือน เพื่อให้ข้อมูลรายรับ-รายจ่ายมีความน่าเชื่อถือและเป็นปัจจุบันมากที่สุด การเตรียมเอกสารส่วนนี้ให้พร้อมจะช่วยให้การพิจารณาเอกสารยื่นกู้บ้านของคุณรวดเร็วยิ่งขึ้น
ผู้กู้ร่วมทำอาชีพอิสระ ต้องใช้เอกสารอะไรเพิ่มเติมบ้าง?
กรณีที่ผู้กู้ร่วมเป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ นอกจากเอกสารส่วนตัวและเอกสารหลักประกันแล้ว จะต้องเตรียมเอกสารแสดงรายได้เช่นเดียวกับผู้กู้อิสระทั่วไป ซึ่งได้แก่ รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6-12 เดือน, ภาพถ่ายกิจการ, ใบทะเบียนการค้า (ถ้ามี) และหลักฐานการเสียภาษี เพื่อให้ธนาคารนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินความสามารถในการชำระหนี้ร่วมกัน
สรุปเกี่ยวกับเอกสารยื่นกู้บ้านที่ต้องรู้
การเตรียมเอกสารกู้บ้านอย่างครบถ้วนและถูกต้องถือเป็นก้าวแรกสู่ในการขอสินเชื่อบ้าน ช่วยเพิ่มโอกาสการอนุมัติและทำให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่น ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการจัดเตรียมเอกสารยื่นกู้บ้านอย่างรอบคอบก่อนเริ่มกระบวนการขอสินเชื่อ หากไม่มั่นใจหรือมีข้อสงสัยในเกี่ยวกับการเตรียมตัว ขอแนะนำให้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรงเพื่อความถูกต้องของเอกสารกู้บ้าน
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสินเชื่อบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการ สินเชื่อบ้านทีทีบี มีบริการสินเชื่อบ้านแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น
สนใจสินเชื่อกู้บ้านจาก ttb สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครได้ที่สาขา ttb ทั่วประเทศ แอป ttb touch หรือเว็บไซต์ของธนาคาร เพื่อก้าวสู่การมีบ้านในฝันของคุณ
*หมายเหตุ : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว สินเชื่อบ้านใหม่-บ้านมือสอง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4% - 7% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.680% ถึง MRR-0.780% ต่อปี • สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 3%-6% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-4.215% ถึง MRR-1.680% ต่อปี • สินเชื่อบ้านแลกเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5% - 11% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-2.155% ถึง MRR+2.770% ต่อปี •โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 15 ส.ค. 68 = 7.305% • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com