external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

มนุษย์เงินเดือนวางแผนลงทุนอย่างไร ? เมื่อได้ “โบนัสก้อนใหญ่”

30 มี.ค. 2565

  • กองทุนรวม คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ?
  • ทำไมถึงควรนำ “โบนัส” ไปลงทุน ? พร้อมตัวย่างการลงทุน

 

“โบนัส” เปรียบเหมือนเงินรางวัลพิเศษจากความตั้งใจทำงานมาตลอดทั้งปี นอกเหนือจากเงินเดือนปกติที่เราได้รับทุกเดือน เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน หลายคนใช้โบนัสเพื่อเติมเต็มความสุข ให้รางวัลกับตัวเองที่เหนื่อยจากการทำงานด้วยการช้อปปิ้ง, ท่องเที่ยว, สังสรรค์ เป็นต้น

แต่รู้ไหมว่า “โบนัส” แท้จริงนั้นเหมาะแก่การนำไปลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับชีวิตอย่างยิ่ง เนื่องจากโบนัสเปรียบเสมือนเงินเย็น เพราะ “ไม่มีต้นทุน ไม่มีดอกเบี้ยกู้ยืม ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ในยามปกติ” เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปลงทุนสร้างความมั่งคั่งไว้ใช้ยามเกษียณ เพราะร่างกายของเราไม่สามารถทำงานเพื่อหาเงินไปได้ตลอด เพราะฉะนั้นช่วงที่เรายังทำงานได้ จึงต้องสร้างพอร์ตการลงทุนเพื่อสร้าง Passive income ที่มาจากการลงทุน หรือสะสมไว้ใช้เมื่อยามเกษียณ

แต่คำถามคือ “เราควรจะลงทุนอย่างไรดี” เพราะเรื่องการลงทุนต้องมาพร้อมกับการวางแผนที่รอบคอบ ยิ่งต้องการผลตอบแทนที่สูง ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงรอบด้าน ดังนั้น หากไม่ได้มีความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ด้านการลงทุนมากพอ “กองทุนรวม” เป็นตัวช่วยที่เติมเต็มข้อจำกัดนี้ได้


กองทุนรวม คืออะไร ?

กองทุนรวม (Mutual Fund) คือ การนําเอาเงินของผู้ลงทุนทั่วไป รวมเป็นเงินก้อนใหญ่ จดทะเบียนนิติบุคคลแยกจากบริษัทจัดการ มีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพช่วยบริหารจัดการเงินให้เป็นไปตามนโยบายการลงทุนของกองทุน กองทุนรวมถือเป็นตัวช่วยเรื่องการลงทุนที่ดีสำหรับหลายคนที่มองว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัวเพราะไม่มีความรู้ หรือไม่มีเวลา ซึ่งการลงทุนในกองทุนรวมมีข้อดี ดังนี้

1.เงินน้อยก็ลงทุนได้

การลงทุนในกองทุนรวม หากมีเงินน้อยก็สามารถเริ่มลงทุนได้ ขั้นต่ำตั้งแต่ 1 บาท, 100 บาท, 500 บาท หรือ 1,000 บาท เป็นต้น สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ทั้งแบบก้อนเดียว หรือทยอยลงทุนด้วยเงินก้อนเล็ก ๆ จนสะสมเป็นเงินก้อนโตก็ได้


2. มีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้

กองทุนรวมมีมืออาชีพอย่าง “ผู้จัดการกองทุน” ที่มีความรู้ ประสบการณ์ และความสามารถในการบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งได้รับการอบรมและผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด คอยดูแลและจัดการกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และนโยบายการลงทุนที่ได้ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุน นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัย เพราะบริษัทที่จะจัดตั้งกองทุนรวมได้จะต้องได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจจากกระทรวงการคลัง และมีสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นผู้กํากับดูแลให้บริษัทนั้นดําเนินการภายใต้พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์


3. มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี

กองทุนรวมมีความหลากหลายมาก ผู้ลงทุนสามารถเลือกกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภทผ่านการลงทุนในกองทุนรวม เช่น ตราสารหนี้ ตราสารทุนในประเทศหรือต่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐาน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือผสมหลากหลายสินทรัพย์ และมีนโยบายการบริหารกองทุนให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการและระดับความเสี่ยงที่รับได้ของนักลงทุนที่ไม่เหมือนกัน


4.มีสภาพคล่องสูง

หากเลือกลงทุนกับกองทุนรวมเปิด เราสามารถขายคืนหน่วยลงทุนให้กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ โดยระยะเวลาที่เราจะได้รับเงินอาจจะเป็น 1 วัน 3 วัน หรือ 5 วัน ขึ้นอยู่กับแต่ละกองทุน


5. ได้สิทธิลดหย่อนภาษี

กองทุนรวมสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ โดยมีด้วยกัน 2 กอง คือ

  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุด ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) สามารถนำไปลดหย่อนภาษีสูงสุด ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท


ตัวอย่างของการลงทุน

1. ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น โดยนำเงินโบนัสมาลงทุนแบบก้อนเดียว (Lump sum) 200,000 บาท ระยะเวลา 10 ปี อัตราผลตอบแทน 8% ต่อปี จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

ลงทุนแบบก้อนเดียว Lump sum


จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าหากลงทุนแบบ Lump sum ที่ใช้เงินก้อนใหญ่ลงทุนครั้งดียว 200,000 บาท ในระยะเวลา 10 ปี จะได้ผลตอบแทนสูงถึง 115.89% ซึ่งการนำโบนัสมาลงทุนด้วยวิธีนี้ มีข้อดีคือ มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูง และตัวเราเองจะได้ไม่นำเงินไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ให้โบนัสทั้งก้อนได้ทำงานแทนเราจริง ๆ


2. อีกตัวอย่างหนึ่ง คือการลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) โดยนำเงินโบนัสมาทยอยลงทุนทุกปี ปีละ 200,000 บาท ระยะเวลา 10 ปี อัตราผลตอบแทน 8% ต่อปี จะได้ผลลัพธ์ดังนี้

ลงทุนแบบทยอยลงทุน DCA

จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าการลงทุนแบบ DCA โดยนำเงินโบนัสมาลงทุนทุกปี ปีละ 200,000 บาท เป็นเวลา 10 ปี จะได้ผลตอบแทนทั้งหมด 56.45% ทำให้เห็นว่าเราสามารถสร้างความมั่งคั่งจากการสะสมเงินโบนัสก้อนเล็กในทุก ๆ ปี จนงอกเงยกลายมาเป็นเงินก้อนใหญ่ได้ หากเรามีวินัยในการลงทุนที่มากพอ ซึ่งการนำโบนัสมาลงทุนด้วยวิธีนี้ นอกจากช่วยสร้างวินัยในการลงทุนแล้ว ยังเป็นการถัวเฉลี่ยต้นทุนให้มีเราโอกาสได้ต้นทุนที่ต่ำลงอีกด้วย

ด้วยโลกของการลงทุน ที่ใคร ๆ ก็อยากได้ผลตอบแทนสูง ๆ ความเสี่ยงต่ำ ๆ ด้วยกันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริง ความเสี่ยงกับผลตอบแทนเป็นของคู่กัน อยากได้ผลตอบแทนมากก็ต้องยอมเสี่ยงมาก อยากปลอดภัยก็ต้องยอมรับผลตอบแทนน้อย ๆ ดังนั้นก่อนที่เราจะนำเงินมาลงทุน เราควรประเมินความเสี่ยงของตัวเองก่อนว่า รับความเสี่ยงได้มาก - น้อยแค่ไหน เพราะกองทุนรวมแต่ละกองมีนโยบายการลงทุนและความเสี่ยงแตกต่างกัน ตั้งแต่ระดับ 1 - 8 จะได้รู้ว่าควรลงทุนที่ระดับความเสี่ยงเท่าไร


ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม

ระดับความเสี่ยงของกองทุนรวม


โดยความเสี่ยงของการลงทุน แบ่งได้เป็น 3 ระดับใหญ่ ๆ คือ

1.รับความเสี่ยงได้น้อย

หากใครที่ชอบการลงทุนที่มีความปลอดภัยสูง ถึงผลตอบแทนจะไม่มากแต่ต้องมีความผันผวนต่ำ ควรลงทุนในกองทุนรวมอย่างเช่น กองทุนรวมตลาดเงิน, กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล (กองทุน K-CASH, KTSTPLUS-A)


2. รับความเสี่ยงได้ปานกลาง

หากใครอยู่ในวัยทำงาน มีหน้าที่การงานมั่นคง รายได้สม่ำเสมอ ยอมรับความผันผวนได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่มากจนเกินไป เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากธนาคาร ควรลงทุนในสินทรัพย์ที่เน้นการเพิ่มมูลค่าในระยะยาว และมีความผันผวนปานกลาง อย่างเช่น กองทุนรวมผสม (กองทุน tsp3-balancer)


3. รับความเสี่ยงได้สูง

หากใครที่อายุยังน้อย อยู่ในวัยสะสมเงินทองเพื่อสร้างความมั่งคั่ง ไม่กังวลกับความผันผวนที่เกิดขึ้นระหว่างการลงทุน กล้าได้กล้าเสีย เพื่อให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง เหมาะกับลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นในระยะยาว อย่างเช่น กองทุนรวมตราสารทุน, กองทุนรวมทางเลือก หรือกองทุนรวมต่างประเทศ (กองทุน TMBINDAE, TMB-ES-CHILL, tsp5-gogetter)

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าการนำโบนัสมาลงทุนแทนการซื้อความสุขให้ตัวเอง สามารถเพิ่มความมั่งคั่งแท้จริงในระยะยาวได้ เพราะการลงทุนคือการสร้าง passive income ให้โบนัสได้ทำงานแทนเรา แต่ต้องมีการประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุนเสมอ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง แต่จะเสี่ยงกว่านั้นถ้าไม่รู้จักลงทุน

“หากเราต้องการมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น แต่ยังทำสิ่งเดิม วิธีการเดิม ผลลัพธ์ก็จะไม่เปลี่ยนไป
แต่ถ้าเราเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน โดยมีการวางแผนมากขึ้น ก็จะสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์เส้นทางการเงินของเราให้ดีขึ้นได้”

และหากใครต้องการวางแผนการเงินด้วยกองทุนรวม แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นลงทุนกองไหนดี สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/personal/investment/mutual-funds/fund หรือสนใจลงทุนสามารถเปิดบัญชีกองทุนและลงทุนผ่านแอป ttb touch คลิก https://www.ttbbank.com/newtsp/invest สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ttb investment line หรือโทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)


หมายเหตุ:

  • ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด ที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
  • การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน /ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต /ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน /ผู้ลงทุนสามารถรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา หรือ ttb Investment Line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)