เทคนิคการออมเงินจาก fintips ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ลงมือ ‘ออม’ พิชิตเป้าหมายการออมได้ในที่สุด ไม่ว่าจะเพื่อซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ให้คนที่รัก หรือออมเพื่อจุดประสงค์ใด เพียงกำหนดเป้าหมาย ระยะเวลา และความสามารถในการออมให้เหมาะสม พร้อมลงมือออมเงินตั้งแต่วันนี้
เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสพิเศษ ในชีวิต วันนี้ fintips มีเคล็ดลับการออมเงินที่ช่วยให้ทุกสามารถทำตามได้ เพราะการออมเงินนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก แต่เราเชื่อว่าหากทำตามที่เราแนะนำนั้น เพื่อน ๆ จะต้องทำได้อย่างแน่นอน
กำหนดเป้าหมาย แน่นอนว่าการตั้งใจจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ อย่างแรกเราต้องมากำหนดเป้าหมายกันก่อน ตัวอย่างเป้าหมาย เช่น ของขวัญชิ้นใหญ่ราคาสูง ที่อยากซื้อให้ตัวเองหรือคนที่รักให้ปีหน้า หรืออาจจะเป็นการพาครอบครัว คนที่รักไปเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการท่องเที่ยว รับประทานอาหาร หรือแม้กระทั่งแพ็คเกจตรวจสุขภาพประจำปี ก็เป็นของขวัญที่ดีมากเช่นกัน แต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้เงินไปกับของขวัญรูปแบบไหนดี การตั้งงบประมาณโดยกำหนดจำนวนเงินเอาไว้ก่อน เรียกว่า กำหนดเป้าหมาย เอาไว้ เพื่อให้เราไม่ไขว้เขว และพยายามต่อไปเรื่อย ๆ จนสามารถไปถึงปลายทางนั้นได้ในที่สุด
กำหนดระยะเวลา เพราะเป้าหมายที่ไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจน จะกลายเป็นเป้าหมายที่เลื่อนลอย ไม่รู้ว่าวันใดจะทำได้สำเร็จ หรือต่อให้ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร ดังนั้น การมีขอบเขตระยะเวลา ช่วยให้เราขับเคลื่อนตัวเองไปใกล้ความต้องการที่ปลายทางนั้นได้อย่างใจจดจ่อ เช่น หากตั้งใจว่าจะซื้อของขวัญให้คนที่รักในปีหน้า เราก็จะเหลือเวลาอีกประมาณ 12 เดือน ในการเก็บออมและวางแผน เพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนั้น สำหรับใครที่เริ่มต้น เพื่อน ๆ อาจลองกำหนดเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้โดยใช้เวลาเพียงสั้น ๆ เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี เพราะเป้าหมายที่ไกลหรือใช้เวลานานจนเกินไป อาจทำให้ท้อและถอดใจล้มเลิกกลางทางได้ง่าย ๆ
กำหนดจำนวนเงิน โดยพิจารณารายรับ-รายจ่าย จากรายได้ทั้งหมด เรามีรายจ่ายที่จำเป็นอะไรบ้าง เรียกว่า พิจารณาเงินส่วนที่เหลือจากจากรายได้ที่มีหลังหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว เช่น รายได้ประจำเดือนสุทธิ – ค่าเช่าบ้าน, ค่าน้ำ/ไฟ, ค่าเดินทาง, ค่าอาหาร เป็นต้น เพื่อประเมินความเป็นไปได้และความสามารถในการออมเงินในแต่ละเดือน ช่วยให้เราออมเงินในจำนวนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและระยะเวลาที่มี
เพื่อให้บรรลุตามที่ตั้งใจไว้ เป้าหมาย ระยะเวลา และจำนวนเงินออม ทั้งสามสิ่งนี้ควรมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินว่าเราควรออมเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้ ในบางช่วงเวลาที่เป้าหมายการออมเงินของเรามีมากกว่า 1 อย่าง เราอาจจำเป็นต้องออมเงินเพิ่มขึ้นเป็น 10-30% ของรายได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ควรให้เบียดเบียนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากจนเกินไป เรียกว่าออมได้ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเป้าหมายอาจถูกปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการหรือความเหมาะสมตามเวลาและโอกาส ถึงอย่างไรเงินก็ยังอยู่ในบัญชีของเราไม่หายไปไหน
กำหนดบัญชี เพื่อไม่ให้พลั้งมือใช้เงินส่วนของเงินออม หลายครั้งการแยกบัญชีใช้จ่ายปกติออกจากเงินออมจึงเป็นเรื่องที่ควรทำ โดยอาจแบ่งบัญชีเงินออมออกเป็น 4 บัญชี ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ได้แก่ บัญชีฉุกเฉิน บัญชีเงินออมระยะสั้น/ระยะยาว และบัญชีเพื่อการลงทุน หรือวิธีการที่ง่ายกว่านั้น คือการมีตัวช่วยออมเงิน แม้ไม่ต้องแยกบัญชี ก็สามารถออมเงินตามเป้าหมายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง การแยกหลายบัญชีอาจจะทำให้สับสนและไม่เห็นเงินออมในแต่ละเป้าหมายของเราได้ชัดเจน เราขอแนะนำให้เลือกเก็บเงินกับบัญชีออมทรัพย์ ที่ง่ายต่อการจัดการอย่างบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ บัญชีที่ช่วยให้เราสามารถแยกเก็บเงินได้หลายเป้าหมาย ไม่ต้องแยกหลายบัญชี และยังได้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่บาทแรกอีกด้วย กับบริการตั้งเป้าการออม (savings goal)
การพิชิต savings goal ของเราไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพียงมีบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ ก็สามารถ “เริ่มตั้งเป้าหมายการออม” ในแอป ttb touch ได้ทันที โดยสามารถเลือกประเภทเป้าหมาย และจำนวนเงินเพื่อการออมได้ สูงสุด 30 เป้าหมาย เหมือนมีกระเป๋าสตางค์หลายใบเอาไว้ใช้ในโอกาสที่แตกต่างกัน จึงสามารถจัดการเงินออมได้อย่างเป็นระเบียบ สามารถกดเลือกโอนเพื่อเก็บ หรือเก็บเงินอัตโนมัติล่วงหน้าเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายปี ให้เพื่อน ๆ บรรลุเป้าหมายการออมทั้งระยะสั้น และระยะยาวได้แบบไม่ยุ่งยาก ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนเป้าหมายได้ตามความต้องการ เงินไม่หาย ได้ดอกเบี้ยเหมือนเดิม
ลงมือ ‘ออม’ ตั้งแต่วันนี้ เมื่อมีเป้าหมายและตัวช่วยออมเงินที่ดีแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวคือลงมือทำ การออมเงินไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเมื่อพร้อม แต่ต้องลงมือทำทันที ซึ่งอาศัยความตั้งใจและวินัยอย่างมาก โดยควรออมไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อได้เงินมา ควรจัดสรรเงินไว้ในบัญชีเงินออมเป็นอันดับแรกก่อนจะนำไปใช้จ่ายกับเรื่องอื่น ๆ เรียกว่า ‘ออมก่อนใช้ทีหลัง’
ทั้งนี้เมื่อเริ่มออมเงินแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะติดตามจำนวนเงินออมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเตือนตัวเองว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกไม่ใกล้ไม่ไกลก็จะสามารถทำได้สำเร็จ ไม่ว่าเป้าหมายการออมของทุกคนคืออะไร Fintips ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนพิชิตเป้าหมายนั้นได้ในที่สุด
ที่มา
วางแผนเงินออม, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย