เมื่อรายรับไม่พอกับรายจ่าย หนี้สินที่เคยจัดการได้กลับเริ่มบานปลาย หลายคนอาจรู้สึกเครียด วิตกกังวล ไม่รู้จะหาทางออกยังไงดี แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือการประนอมหนี้ ซึ่งเป็นวิธีช่วยให้คุณสามารถกลับมาควบคุมภาระหนี้ได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องหนีหรือหลบเลี่ยงเจ้าหนี้ ดังนั้น ในบทความนี้ fin tips by ttb จะพาคุณมาดูกันว่าทางเลือกนี้จะช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง
การประนอมหนี้ คืออะไร?
การประนอมหนี้ คือการเจรจาตกลงกับเจ้าหนี้ เพื่อปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถในการจ่ายของลูกหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่างวด ยืดระยะเวลาการชำระหรือพักชำระหนี้บางส่วนชั่วคราว จุดประสงค์หลัก คือการลดภาระทางการเงินและช่วยให้ลูกหนี้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่ได้อย่างมีระบบ โดยไม่ปล่อยให้หนี้สะสมจนสายเกินแก้
เช็กสัญญาณเตือน! เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มจ่ายหนี้ไม่ไหว
หลายครั้งปัญหามักเริ่มต้นจากสัญญาณเล็ก ๆ ที่เราอาจมองข้ามไป ลองสำรวจตัวเองว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่ เช่น
- เริ่มจ่ายขั้นต่ำทุกเดือน หากคุณเริ่มจ่ายแค่ขั้นต่ำของค่างวดต่อเดือน แสดงว่าคุณอาจกำลังมีปัญหาสภาพคล่อง และหนี้อาจพอกพูนจากดอกเบี้ยที่สะสมต่อเนื่องได้
- ต้องยืมเงินหมุนเพื่อจ่ายหนี้ก้อนอื่น หากคุณเริ่มใช้สินเชื่อหรือบัตรใบอื่น เพื่อจ่ายหนี้ที่มีอยู่เดิม นั่นเป็นสัญญาณว่า รายรับอาจไม่พอรายจ่ายในแต่ละเดือน
- เริ่มใช้เงินเก็บหรือกองทุนฉุกเฉินมาจ่ายหนี้ เงินสำรองที่ควรเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินกลับถูกนำมาใช้หนี้ แสดงว่าคุณอาจกำลังเข้าสู่ภาวะขาดสภาพคล่อง
- ค่างวดเริ่มจ่ายไม่ตรงเวลา การจ่ายหนี้ล่าช้า ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต ผ่อนรถหรือผ่อนบ้าน ก็ถือเป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนแล้วว่าคุณอาจเริ่มควบคุมหนี้ไม่ได้แล้ว
- รู้สึกเครียด วิตกกังวลกับการเงินอยู่ตลอดเวลา ภาวะทางจิตใจก็เป็นตัวบ่งชี้ได้ดี หากคุณเริ่มนอนไม่หลับ เครียดกับเรื่องเงิน หรือรู้สึกหมดหนทางในการจัดการหนี้ นั่นคือสัญญาณว่าคุณควรหาทางออกโดยเร็ว
ข้อดีของการประนอมหนี้
การเลือกเจรจาประนอมหนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ มีข้อดีหลายอย่างที่จะช่วยให้คุณกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง เช่น
- ปิดโอกาสดอกเบี้ยโหด เมื่อประนอมหนี้ได้สำเร็จ ดอกเบี้ยค้างชำระหรือดอกเบี้ยผิดนัดบางส่วนอาจถูกลดลงหรือยกเว้น ช่วยลดภาระรวมของหนี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ทำให้สามารถวางแผนการเงินได้ดี เงื่อนไขใหม่ที่เหมาะสมกับรายได้ เช่น ลดค่างวดหรือยืดระยะเวลาผ่อน ทำให้สามารถวางแผนทางการเงินได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องเครียดกับหนี้ทุกสิ้นเดือน
- ไม่เสียประวัติทางการเงิน หากรู้ตัวแล้วว่า ไม่สามารถจ่ายหนี้ที่มีอยู่ไหว การขอประนอมหนี้ก่อนจะเกิดสถานะผิดนัดชำระ จะช่วยให้ไม่เสียเครดิตบูโรและไม่ถูกมองว่าเป็นหนี้เสีย ซึ่งจะเป็นผลดีในระยะยาว หากต้องการขอสินเชื่ออีกในอนาคต
ข้อควรระวังของการประนอมหนี้
แม้การประนอมหนี้จะเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนที่เริ่มรับมือกับหนี้ไม่ไหว แต่ก็มีเรื่องที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจด้วยเช่นกัน ดังนี้
- ดอกเบี้ยรวมอาจสูงขึ้น แม้ค่างวดจะลดลงในแต่ละเดือน แต่หากระยะเวลาผ่อนชำระถูกยืดออก ดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายตลอดสัญญาอาจมากกว่าการจ่ายหนี้ตามแผนเดิม
- อาจต้องมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม บางกรณีการประนอมหนี้อาจมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าปรับโครงสร้างหนี้ หรือค่าบริการเฉพาะทางที่ต้องเช็กให้ละเอียด
- หากผิดนัดชำระซ้ำอีก อาจเสียประวัติเครดิต การประนอมหนี้คือโอกาสครั้งใหม่ แต่หากยังผิดนัดชำระอีกครั้ง อาจทำให้เสียประวัติทางการเงิน และเจ้าหนี้อาจไม่ให้โอกาสอีกง่าย ๆ
(ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี)
4 วิธีการประนอมหนี้ จ่ายค่างวดเบาลง ดอกเบี้ยต่ำกว่า
1. รวบรวมข้อมูลหนี้ทั้งหมดที่มี
ขั้นตอนแรกคือการเผชิญหน้ากับความจริงอย่างตรงไปตรงมา เริ่มจากการรวบรวมข้อมูลหนี้สินทั้งหมดที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นหนี้ในระบบ เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต รถยนต์หรือบ้าน ลิสต์ออกมาให้ชัดเจนว่ามีเจ้าหนี้กี่ราย ยอดหนี้คงค้างแต่ละแห่งเท่าไหร่ และอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างไร พอทำแบบนี้ก็จะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของหนี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และพอจะประเมินได้ว่าหนี้ก้อนไหนที่ควรจัดการก่อน
2. ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง
เมื่อคุณมีข้อมูลหนี้ทั้งหมดแล้ว ขั้นต่อมาคือการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตัวเอง ควรเริ่มจากการคำนวณรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเดินทาง ค่าน้ำ-ไฟ หรือค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ออกไป จากนั้นลองพิจารณาดูว่า แต่ละเดือนคุณสามารถกันเงินไปจ่ายหนี้ได้กี่บาทโดยที่ยังพอใช้ชีวิตได้ ไม่ต้องกดดันเกินไป หากพบว่าต้องใช้เงินเกือบทั้งหมดไปกับการจ่ายหนี้จนไม่เหลือพอใช้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรรีบหาทางประนอมหนี้ทันที
3. ติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอเจรจา
เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าภาระหนี้หนักเกินรับไหว อย่ารอให้ถึงขั้นผิดนัดชำระ เพราะยิ่งปล่อยไว้นานจะยิ่งเสียประวัติเครดิต แนะนำให้รีบติดต่อธนาคารหรือเจ้าหนี้โดยตรง เพื่อแจ้งปัญหาและขอเจรจาประนอมหนี้ ซึ่งอาจรวมถึงการลดดอกเบี้ย ยืดระยะเวลาผ่อนชำระหรือปรับค่างวดต่อเดือนให้เบาลงได้
4. ชำระตามแผนใหม่อย่างเคร่งครัด
เมื่อจัดระเบียบหนี้ได้แล้ว ไม่ว่าจะผ่านการประนอมหนี้หรือการรวบหนี้ ควรมีวินัยทางการเงิน ด้วยการชำระหนี้ให้ตรงเวลาและหลีกเลี่ยงการก่อหนี้ใหม่ในช่วงฟื้นตัว หากคุณสามารถชำระตามแผนอย่างต่อเนื่อง หนี้จะค่อย ๆ ลดลง ภาระทางการเงินจะเบาลง และที่สำคัญคือช่วยให้คุณกลับมามีโอกาสใหม่ ๆ ทางการเงินในอนาคตได้อย่างมั่นคงอีกแน่นอน
หรืออีกหนึ่งทางเลือกที่จัดการได้ง่ายและครอบคลุม คือการรวมหนี้หลายก้อนให้กลายเป็นก้อนเดียว ด้วยสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อลดความซับซ้อน ไม่ต้องสับสันอีกต่อไปว่า หนี้ก่อนนี้จ่ายไปหรือยัง กับผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากทีทีบี สินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก เคลียร์หนี้ วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 2 ล้านบาท สามารถรวบหนี้ได้สูงสุดถึง 4 รายการ ไม่คิดภาระที่จะรวมหนี้ พร้อมรับเงินเสริมสภาพคล่องโอนเข้าบัญชี หากเหลือจากการเคลียร์หนี้แล้ว ผ่อนคืนได้สบาย เลือกได้แผนผ่อนชำระให้เหมาะกับความสามารถ โดยสามารถผ่อนได้นานสูงสุด 72 เดือน ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมีระบบมากขึ้น และมองเห็นเส้นทางหมดหนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เคล็ดลับจัดการหนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาติดกับดักอีก
การหลุดพ้นจากภาระหนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานทางการเงินที่มั่นคง แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางแผนเพื่อไม่ให้กลับไปติดกับดักหนี้อีกครั้ง สามารถเริ่มต้นจากวิธีการง่าย ๆ อย่างการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรู้ว่าเงินไปอยู่ที่ไหนบ้าง ตั้งงบประมาณการใช้จ่ายและใช้วินัยทางการเงินควบคู่กัน
นอกจากนี้ ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3 - 6 เท่าของรายได้ต่อเดือน ไว้รองรับเหตุไม่คาดฝัน และที่สำคัญ คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจใช้จ่ายก้อนใหญ่หรือใช้บัตรเครดิต โดยเฉพาะในสิ่งที่ไม่จำเป็น เพื่อป้องกันการเกิดหนี้ซ้ำโดยไม่ตั้งใจ
สรุปบทความ
การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การเพิกเฉยต่อปัญหาจนบานปลายอาจส่งผลเสียในระยะยาว การประนอมหนี้คืออีกทางเลือกที่จะช่วยให้คุณกลับมาควบคุมสถานการณ์ทางการเงินได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังเผชิญกับภาวะจ่ายไม่ไหว อย่าลังเลที่จะติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอคำปรึกษาและเริ่มต้นเจรจาเพื่อหาทางประนอมหนี้ เพราะการลงมือแก้ไขตั้งแต่วันนี้ คือก้าวแรกสู่อิสรภาพทางการเงินในวันข้างหน้า
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
สินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก อัตราดอกเบี้ย 18% - 25% ต่อปี
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนดจะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
เงื่อนไขการพิจารณาและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์www.ttbbank.com
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการประนอมหนี้ (FAQ)
การประนอมหนี้ ทำให้เสียประวัติเครดิตบูโรไหม?
การประนอมหนี้อาจส่งผลต่อประวัติเครดิตบูโรได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการชำระหนี้ก่อนและระหว่างการประนอมหนี้ หากผู้กู้เคยมีสถานะค้างชำระ หรือผิดนัดชำระมาก่อนแล้ว เครดิตบูโรจะมีการบันทึกข้อมูลอยู่ในระบบเป็นระยะเวลา 3 ปี (36 เดือน) ว่า อยู่ระหว่างการประนอมหนี้ ซึ่งอาจมีผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต แต่หากปฏิบัติตามข้อตกลงชำระอย่างเคร่งครัด ประวัติก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ
หากผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนอมหนี้ จะเกิดอะไรขึ้น?
หากผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้หลังจากที่ได้ทำสัญญาประนอมหนี้แล้ว ธนาคารหรือเจ้าหนี้อาจถือว่าผู้กู้ผิดเงื่อนไข และสามารถยกเลิกข้อตกลงเดิมได้ทันที ซึ่งหมายความว่า ผู้กู้จะกลับไปสู่สถานะหนี้เสียอีกครั้ง และอาจถูกดำเนินคดี ฟ้องร้องหรืออายัดทรัพย์สินเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังส่งผลลบต่อประวัติข้อมูลเครดิตบูโร ทำให้การขอสินเชื่อใหม่ในอนาคตเป็นไปได้ยากขึ้น
ประนอมหนี้แล้ว จะขอสินเชื่อใหม่ได้อีกหรือไม่?
สามารถขอสินเชื่อใหม่ได้ แต่จะขึ้นอยู่กับนโยบายของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง รวมถึงพฤติกรรมการชำระหนี้หลังจากประนอมหนี้ หากสามารถชำระหนี้ตามข้อตกลงได้ต่อเนื่อง ไม่มีการค้างชำระเพิ่มเติมและมีรายได้หรือหลักฐานการเงินที่ดีพอ อาจได้รับการพิจารณาให้กู้ใหม่ได้ในอนาคต แต่โดยทั่วไปควรรอให้มีประวัติการชำระที่ดีอย่างน้อย 12 เดือนขึ้นไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อใหม่