หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้สินที่ทำให้หมุนเงินไม่ทัน ไม่รู้จะจัดการอย่างไร และกำลังคิดว่าจะกู้เงินปิดหนี้ แต่ก็กังวลว่าอาจเป็นการเพิ่มภาระหนี้สินให้มากขึ้นจนกลายเป็นหนี้ที่ไม่มีวันจบสิ้น ไม่ต้องกังวลไป เพราะการขอสินเชื่อปิดหนี้ ไม่ใช่ทางออกสุดท้าย แต่เป็นจุดเริ่มต้นในการจัดการปัญหาการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไปทำความรู้จักและเรียนรู้กับการกู้เงินเพื่อปิดหนี้กัน
การกู้เงินเพื่อปิดหนี้ คืออะไร?
การกู้เงินเพื่อปิดหนี้ คือการกู้ยืมเงินก้อนใหม่ เพื่อนำไปชำระหนี้เก่าที่มี สามารถเปรียบได้กับการรวมหนี้หลาย ๆ ก้อนให้เหลือเพียงก้อนเดียว โดยการขอสินเชื่อเพื่อปิดหนี้นี้ มักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และระยะเวลาผ่อนชำระที่นานขึ้น ทำให้ภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือนลดลง
เช่น หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต 3 ใบ และสินเชื่อส่วนบุคคลอีก 1 บัญชี แทนที่จะต้องจ่ายหนี้ 4 ที่แยกกัน คุณสามารถกู้เงินก้อนใหม่มาเพื่อปิดหนี้ทั้ง 4 รายการนั้นได้แล้ว ยังสามารถผ่อนชำระเพียงที่เดียวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ทำให้การบริหารจัดการหนี้ง่ายขึ้น วางแผนการเงินและประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องกู้เงินเพื่อปิดหนี้แล้ว
การตัดสินใจกู้เงินเพื่อปิดหนี้ก็มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยสามารถประเมินสถานการณ์การเงินได้เบื้องต้น เช่น
- มีหนี้หลายก้อน หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อส่วนบุคคลหลายรายการ ทั้งหมดล้วนแต่มีอัตราดอกเบี้ยสูง การรวมหนี้อาจและยื่นขอสินเชื่อปิดหนี้ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และอัตราดอกเบี้ยโดยรวมได้
- รายจ่ายมากกว่ารายรับ หากอัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ทั้งหมดสูงเกินกว่า 50% ของรายได้ต่อเดือน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเข้าสู่ภาวะหนี้เกินตัว โดยสามารถคำนวณได้ตามสูตรดังนี้ ภาระหนี้รายเดือน ÷ รายได้ต่อเดือน × 100 = อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ เพราะฉะนั้น หากปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการกู้เงินก้อนปิดหนี้อาจช่วยให้ค่างวดลดลงได้ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ คำนวณผลประโยชน์ที่จะได้รับ และวางแผนการเงินในระยะยาวก่อนตัดสินใจกู้เงินเพื่อปิดหนี้
- จ่ายบัตรขั้นต่ำทุกบัตรติดต่อกันมาหลายงวด เป็นหนึ่งในสัญญาณภาระค่าใช้จ่ายตึงมือ เริ่มหมุนเงินไม่ทัน ควรรวมหนี้มาไว้เป็นก้อนเดียว เพื่อลดภาระดอกเบี้ย เสริมสภาพคล่องในชีวิตประจำวัน
กู้เงินเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตได้ไหม
ถ้าถามว่าการขอวงเงินเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ ! และเป็นหนึ่งในวิธีที่หลาย ๆ คนนิยมใช้ในการจัดการหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูง โดยทั่วไป การขอวงเงินเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตมักจะทำผ่านขอสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะจะได้ค่างวดที่ถูกลงสามารถเลือกผ่อนได้แบบเท่ากันทุกเดือน และกำหนดระยะเวลาชำระคืนที่แน่นอน ทำให้สามารถบริหารจัดการหนี้ และง่ายต่อการวางแผนการเงินอีกด้วย
ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ดีอย่างไร
อย่างที่เกริ่นไปในตอนต้นว่าการกู้เงินปิดหนี้ ไม่ใช่ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อถึงทางตัน แต่จริง ๆ แล้วถือว่าเป็นการจัดการหนี้ที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการการเงินได้ดีขึ้น โดยการขอสินเชื่อปิดหนี้มีข้อดี ดังนี้
- ลดอัตราดอกเบี้ยโดยรวม หากคุณสามารถหาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าหนี้เดิม จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
- ง่ายต่อการจัดการ การรวบหนี้ให้เหลือเพียงก้อนเดียวก็จะช่วยให้จัดการได้ง่ายขึ้น
- ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ เนื่องจากการรวมหนี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการง่ายแล้ว ยังสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระของคุณ โดยจะสามารถเลือกผ่อนชำระแบบเท่ากันทุกเดือนได้
- รักษาเครดิตบูโร ถ้าชำระตรงเวลาตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ประวัติเครดิตดีขึ้น ทำให้คุณมีโอกาสได้รับสินเชื่อในเงื่อนไขที่ดีกว่า และลดความเสี่ยงการถูกปฏิเสธสินเชื่อจากประวัติหนี้เสียในอนาคต
- เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน การมีแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจนช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้สิน
ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้แบบไหนถึงจะคุ้มค่า?
การมีหนี้หลายก้อน ไม่เพียงแต่สร้างความยุ่งยากในการจัดการเรื่องวันชำระและยอดจ่ายแต่ละเดือน หากยังเพิ่มภาระดอกเบี้ยจนหนี้ยิ่งพอกพูน หลายคนจึงเลือก “การรวมหนี้” (Debt Consolidation) เป็นทางออก เพื่อรวมยอดให้เหลือเพียงก้อนเดียว ผ่อนนานขึ้นในอัตราดอกเบี้ยที่เบาลง
ก่อนตัดสินใจรวมหนี้ ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
- อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยรายเดือนและรวมตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระ
- ระยะเวลาการผ่อนชำระที่เหมาะสม ไม่สั้นหรือยาวเกินไป เพื่อให้ยอดผ่อนรายเดือนพอรับได้และไม่เป็นภาระหนัก
- รูปแบบการผ่อนชำระแบบลดต้นลดดอก เพื่อให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป และช่วยให้หนี้หมดเร็วขึ้น
- ค่าธรรมเนียมแฝงอื่น ๆ ที่อาจตามมา เช่น ค่าปรับ ค่าธรรมเนียมเปิดบัญชีหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจซ่อนอยู่
- วงเงินครอบคลุมหนี้ทั้งหมด มั่นใจว่าย้ายมารวมหนี้แล้ว จะได้วงเงินที่ครอบคลุม เพื่อไม่จะได้ต้องกู้เพิ่มหรือแบกภาระหนี้หลายก้อนอีกครั้ง
ซึ่งการกู้ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ที่คุ้มค่าที่สุด คือการขอสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะถือว่าเป็นสินเชื่อที่สมัครง่าย อนุมัติไว และยังได้รับเงินก้อนใหญ่ ซึ่งสามารถนำไปใช้จ่ายได้อย่างอิสระ และหากคุณกำลังมองหาการกู้เงินเพื่อปิดหนี้ ทีทีบี มีบริการสินเชื่อส่วนบุคคล ให้คุณได้นำเงินไปจัดการภาระในชีวิตได้อย่างสบาย ดังนี้
สินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก
ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ต้องสินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก สมัครง่าย อนุมัติไว ได้เงินสดไปใช้จ่าย จัดการปัญหาต่าง ๆได้เลย ไม่ว่าจะค่าใช้จ่ายจำเป็น ค่ากินใช้ หรือปิดหนี้บัตรก็ทำได้
- วงเงินสูงสุดถึง 2 ล้านบาท หรือ 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
- สามารถเลือกผ่อนได้นานสูงสุดถึง 72 เดือน พร้อมรับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี (กรณีที่ใช้คู่กับผลิตภัณฑ์ที่กำหนด)
- อัตราดอกเบี้ย 18% - 25% ต่อปี กู้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนไหว
บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช
อีกหนึ่งบริการสินเชื่อบุคคล จาก ทีทีบี บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช เป็นสินเชื่อปิดหนี้ที่จะให้คุณได้มีเงินก้อนใหญ่ ใช้เป็นเงินสำรอง เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือแม้แต่ใช้เคลียร์หนี้บัตรเครดิตให้เบาลงก็ทำได้เช่นกัน
- ในกรณีเป็นหนี้หลายก้อน บริหารจัดการหนี้ไม่ไหวก็สามารถโอนยอดหนี้จากที่อื่นมาอยู่กับ ทีทีบี ได้ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียงแค่ 15% ต่อปีเท่านั้น
- ผ่อนนานสูงสุด 99 เดือน หลังจากนั้นอัตราดอกเบี้ย 22% ต่อปี
- พิเศษอย่างยิ่งกับร้านค้าที่ร่วมรายได้ สามารถผ่อนสินค้า ดอกเบี้ย 0% สูงสุดถึง 60 เดือน
- สามารถเบิก-ถอนเงินสดผ่านตู้ ATM และแอปพลิเคชัน ttb touch ได้ตลอด 24 ชม.
- ให้คุณได้สบายกระเป๋าด้วยการเลือกผ่อนได้แบบเท่ากันทุกเดือน หรือสามารถผ่อนขั้นต่ำแค่ 3%
- ไม่มีค่าธรรมเนียมเบิกเงินสด ค่าแรกเข้า และรายปี
ทำไมสินเชื่อส่วนบุคคลถึงคุ้มค่ากว่าการจ่ายหนี้เดิม?
เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดขึ้นว่า ทำไมการกู้เงินเพื่อมาปิดหนี้ด้วยสินเชื่อส่วนบุคคลถึงคุ้มค่า ยกตัวอย่างเช่น คุณมีหนี้บัตรกดเงินสด 3 ใบ รวมเป็น 150,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 25% ต่อปี ต้องจ่ายขั้นต่ำรวมเดือนละ 8,000 บาท ทำให้เงินสดหมุนเวียนติดขัดและไม่สามารถเก็บออมได้เลย
หลังจากศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบสินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงินแล้ว คุณตัดสินใจกู้สินเชื่อส่วนบุคคลวงเงิน 150,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 36 เดือน ผลลัพธ์ที่ได้คือ ค่างวดลดลงเหลือ 6,042 บาทต่อเดือน
ให้คุณบริหารหนี้ได้ง่ายขึ้น จ่ายที่เดียว ไม่ต้องจำหลายบัตร มีเงินสดเหลือไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่ต้องก่อหนี้เพิ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นเลยว่า การกู้สินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อปิดหนี้ สามารถช่วยลดภาระทางการเงินและช่วยวางแผนการเงินได้ดีขึ้นจริง ๆ
ข้อควรระวังก่อนขอวงเงินเพื่อปิดหนี้
ก่อนจะกู้ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ ทีทีบี มีคำแนะนำมาเป็นตัวช่วยพิจารณาก่อนจะตัดสินใจขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อปิดหนี้ ดังนี้
- ตรวจสอบเครดิตบูโรก่อนยื่นขอสินเชื่อ เพื่อให้ทราบถึงสถานะเครดิตของตัวเอง โดยจะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดีขึ้น และอาจช่วยในการเจรจาต่อรองเงื่อนไขสินเชื่อได้
- เปรียบเทียบข้อเสนอ ศึกษาข้อมูลบริการสินเชื่อจากหลายสถาบันการเงิน เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม และเงื่อนไขอื่น ๆ อ่านเงื่อนไขสัญญาและข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจขอสินเชื่อ
- ความสามารถในการชำระหนี้ ถึงแม้ค่างวดที่จะควรชำระต่อเดือนจะลด แต่ควรคำนึงถึงต้นทุนรวม อัตราดอกเบี้ยที่จะต้องเสียตลอดอายุสัญญาด้วย
- เตรียมเอกสารให้พร้อม ขั้นตอนการเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สลิปเงินเดือน เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารยืนยันตัวตนให้พร้อมเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาขอกู้เงินปิดหนี้
- วางแผนการเงินระยะยาว การขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนการจัดการการเงินที่ครอบคลุม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ชักหน้าไม่ถึงหลัง จนต้องตกอยู่ในวังวนหนี้
- ควรระวังมิจฉาชีพ หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมกับบุคคล หรือองค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการขอวงเงินสินเชื่อเพื่อปิดหนี้ กับบริการสินเชื่อส่วนบุคคล จาก ทีทีบี สามารถสมัครง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์ ttb แอปพลิเคชัน ttb touch หรือเข้ารับคำปรึกษาและแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ ttb ทุกสาขา
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องขอวงเงินเพื่อปิดหนี้แล้ว
เพราะการเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่การเป็นหนี้มากเกินไป หรือเป็นหนี้เสียก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสภาพทางการเงินแน่นอน ทั้งนี้ ทีทีบี มีวิธีการคำนวณหนี้สินง่าย ๆ ว่าควรใช้จ่ายเท่าไหร่ เพื่อจะให้หนี้ของเราอยู่ในสถานะที่ปลอดภัย
หนี้รายเดือน ÷ รายได้ต่อเดือน x 100 = อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้รวม
โดยวิธีนี้เป็นการคำนวณภาระหนี้ที่เราจำเป็นต้องจ่าย หักลบกับรายได้ที่เราได้ในแต่ละเดือน โดยรายได้ต่อเดือนจะรวมถึงค่าจ้างอื่น ๆ ด้วย นับเป็นรายได้ที่เราได้รับเป็นประจำทุกเดือน ซึ่งจะช่วยให้คำนวณได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ได้รับรายได้ต่อเดือน 28,000 บาท หนี้รายเดือนที่ต้องจ่าย 8,000 บาท โดยจะนำ 8,000 ÷ 28,000 = 28.57% หรือสรุปได้ง่าย ๆ ว่า ทุก ๆ 100 ที่ได้รับมา ต้องแบ่งมาชำระหนี้ 28.57 บาทนั่นเอง หรือหากอัตราส่วนที่คำนวณออกมาแล้วได้
- ไม่เกิน 36% ถือว่าสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ดี
- 37% - 42% มีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ได้ดีเช่นกัน
- 43% - 49% ถือว่าเป็นอัตราภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง หากใครลองคำนวณแล้วผลลัพธ์อยู่ในช่วงนี้ ควรต้องระวังเรื่องการใช้เงินเป็นพิเศษ และไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม
- 50% ขึ้นไป นับเป็นอัตราภาระหนี้ที่ถือเป็นครึ่งหนึ่งของเงินเดือนเลย ส่งผลให้ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน อาจจะต้องรีบเจรจาเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ หยุดก่อนหนี้เพิ่มทันที
เพราะการคำนวณ และวางแผนจัดการหนี้อย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ ว่าการกู้เงินปิดหนี้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ของคุณหรือไม่ และช่วยให้คุณมีแผนการชำระหนี้ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้แล้วต้องทำยังไงต่อ? แผนการจัดการเงินหลังปิดหนี้
การขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ไม่ใช่ทางออกสุดท้ายสำหรับปัญหาหนี้สิน แต่เป็นโอกาสในการตั้งตัวใหม่ทางการเงิน ให้คุณสามารถใช้เงินได้อย่างชาญฉลาด และมีความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น โดยการขอสินเชื่อปิดหนี้จะช่วยจัดการภาระหนี้สิน ลดความเครียดทางการเงิน และเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงินที่ดีขึ้นอีกด้วย แต่ถึงแม้จะกู้เงินก้อนมาปิดหนี้แล้วก็ควรใช้จ่ายอย่างระมัดระวังด้วย ไม่ควรก่อนหนี้สินเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตหรือขอสินเชื่อโดยไม่จำเป็น ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เพิ่มรักษาสถานะทางการเงินให้ดีขึ้นในระยะยาวได้
สรุปบทความ
อย่างไรก็ตาม การกู้ขอวงเงินเพื่อปิดหนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสำหรับทุกคน ก่อนตัดสินใจ ควรพิจารณาสถานะทางการเงินของคุณอย่างรอบคอบ เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายสถาบันการเงิน และประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของคุณในระยะยาวที่สำคัญที่สุด นอกจากนี้ การสร้างวินัยในการใช้จ่าย และการวางแผนการเงินที่รัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้ซ้ำและไม่ก่อหนี้สินเพิ่มอีก การมีอิสรภาพทางการเงินไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลจากการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและการลงมือทำอย่างต่อเนื่อง การกู้เงินก้อนเพื่อนำมาปิดหนี้อาจเป็นก้าวแรกของคุณสู่อนาคตทางการเงินที่มั่นคงและสดใสกว่าเดิม
**เงื่อนไขและการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
สินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก อัตราดอกเบี้ย 18% - 25% ต่อปี
บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช อัตราดอกเบี้ย *15% - 25% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25% ต่อปี
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์www.ttbbank.com