external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

ก่อนทำการค้ำประกันให้ใคร ต้องรู้อะไรบ้าง ttb มีคำตอบ

#fintips #เคล็ดลับการเงิน #ค้ำประกัน #สินเชื่อส่วนบุคคล #สินเชื่อส่วนบุคคลไม่ต้องมีคนค้ำ #สินเชื่อส่วนบุคคลทีทีบีแคชทูโก
30 ต.ค. 2568

การค้ำประกันเป็นเรื่องที่สำคัญและมีผลกระทบต่อผู้ค้ำประกันอย่างมาก หลายคนอาจไม่ทราบว่าการค้ำประกันไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือผู้อื่น แต่ยังเป็นการผูกพันให้เราต้องรับผิดชอบในหนี้สินหากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินใจค้ำประกันให้ใคร ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะหากเกิดปัญหา เราอาจต้องรับผิดชอบหนี้ก้อนใหญ่แทนผู้กู้


ผู้ค้ำประกัน คือใคร

อ้างอิงจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 ผู้ค้ำประกันคือบุคคลที่ตกลงรับผิดชอบชำระหนี้แทนลูกหนี้ โดยมีการทำสัญญาผูกพันกับเจ้าหนี้ว่าจะรับผิดชอบชำระหนี้แทน หากลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามข้อตกลงได้ ซึ่งผู้ที่จะเป็นผู้ค้ำประกันต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย กล่าวคือต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการทำนิติกรรมได้อย่างสมบูรณ์ เช่น บรรลุนิติภาวะ ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต และมีฐานะทางการเงินที่น่าเชื่อถือและมั่นคง ซึ่งเพียงพอต่อการรับภาระหนี้สินก้อนนั้น ๆ แทนลูกหนี้ได้ในอนาคต


หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน

หน้าที่หลักของผู้ค้ำประกัน คือรับผิดชอบต่อหนี้สินในกรณีที่ผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ค้ำประกันอาจต้องชำระหนี้ทั้งหมดแทนผู้กู้ รวมถึงดอกเบี้ยและค่าปรับต่าง ๆ ตามกฎหมายผู้ค้ำประกันฉบับปรับปรุง ปี 2558 ได้กำหนดว่า เมื่อลูกหนี้ผิดนัด เจ้าหนี้ต้องมีหนังสือบอกกล่าวไปยังผู้ค้ำประกันภายใน 60 วันนับแต่วันที่ลูกหนี้ผิดนัด หากเจ้าหนี้ไม่ทำหนังสือบอกกล่าวให้แก่ผู้ค้ำประกันภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นความรับผิดจากดอกเบี้ยและค่าสินไหมทดแทน เพราะฉะนั้น การตัดสินใจเป็นผู้ค้ำประกันจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะจะมีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของผู้ค้ำประกันอย่างมากเลยทีเดยว


ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจค้ำประกัน

ก่อนจะตัดสินใจเป็นผู้ค้ำประกัน มีหลายสิ่งที่เราควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจค้ำประกัน มีดังนี้

ประเมินความสามารถทางการเงินของตนเอง

การค้ำประกันให้ใคร เราต้องมั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถทางการเงินเพียงพอที่จะรับผิดชอบหนี้นั้นได้หากเกิดปัญหา ลองพิจารณาดังนี้

  • รายได้และค่าใช้จ่ายปัจจุบันของเรา
  • ภาระหนี้สินที่มีอยู่
  • เงินออมและสินทรัพย์ที่มี

หากพบว่าการค้ำประกันอาจทำให้เราเดือดร้อนในอนาคต ควรพิจารณาไม่รับค้ำประกัน เพื่อตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือของผู้กู้

เนื่องจากการค้ำประกันเป็นการยอมรับความเสี่ยงทางการเงินแทนผู้อื่น สิ่งสำคัญที่สุดคือการประเมินความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือของผู้กู้ยืมอย่างรอบคอบ ควรพิจารณาว่ารู้จักและไว้วางใจบุคคลนั้นมากน้อยเพียงใด เขามีประวัติทางการเงินและวินัยในการชำระหนี้ที่ดีหรือไม่ และที่สำคัญคือเขามีความสามารถทางการเงินที่มั่นคงเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ การไตร่ตรองคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินความเสี่ยงได้อย่างมีเหตุผลก่อนตัดสินใจค้ำประกัน

ศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันอย่างละเอียด

ก่อนลงนามในสัญญาค้ำประกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลงต่าง ๆ ให้เข้าใจอย่าง โดยควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับรายละเอียดเกี่ยวกับวงเงินค้ำประกันสูงสุด ระยะเวลาที่ต้องผูกพันตามสัญญาและเงื่อนไขที่ระบุว่า ผู้ค้ำประกันต้องเข้าชำระหนี้แทนลูกหนี้ในกรณีใดบ้าง หากพบข้อความส่วนใดที่ไม่ชัดเจนหรือมีข้อสงสัย ควรสอบถามเจ้าหน้าที่หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายทันที เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ศึกษาเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญาค้ำประกันอย่างละเอียด


ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการค้ำประกัน

แม้ว่าการค้ำประกันจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความปรารถนาดี แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงที่ผู้ค้ำประกันต้องตระหนักและยอมรับให้ได้ ซึ่งความเสี่ยงหลัก ๆ มีดังนี้

ภาระหนี้สินที่อาจต้องรับผิดชอบ

หากผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ เราในฐานะผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชอบภาระหนี้นั้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินต้น ดอกเบี้ย หรือค่าปรับต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของเราอย่างมาก

ผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือทางการเงิน

ในกรณีที่ผู้กู้ผิดนัดและผู้ค้ำประกันชำระหนี้ให้แทน แต่เราไม่สามารถชำระได้นั้น อาจจะส่งผลเสียโดยตรงต่อประวัติเครดิตบูโร ทำให้ความน่าเชื่อถือทางการเงินลดลง และอาจเป็นอุปสรรคสำคัญในการขอสินเชื่อหรือทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต

ความเสี่ยงต่อทรัพย์สินส่วนตัว

หนึ่งในความเสี่ยงที่น่ากังวลที่สุดของการค้ำประกัน คือการอาจต้องสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวไป หากภาระหนี้ที่ตกมาถึงเรานั้นสูงเกินกว่าจะชำระไหว ก็อาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องและบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ เพื่อนำไปขายทอดตลาดและชำระหนี้แทน

โดยเรื่องราวของคุณขาว พยาบาลท่านหนึ่งคือตัวอย่างที่สะท้อนความเสี่ยงนี้ได้เป็นอย่างดี เธอได้ค้ำประกันเงินกู้ 1 ล้านบาทให้เพื่อนร่วมงาน แต่สุดท้ายเพื่อนผิดนัดชำระหนี้ ทำให้คุณขาวต้องเผชิญกับการถูกบังคับคดียึดบ้านและที่ดินซึ่งเป็นมรดกมูลค่าถึง 4.5 ล้านบาท เคสนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้จะไว้ใจผู้กู้เพียงใด ความเสี่ยงที่จะต้องแบกรับภาระหนี้จนอาจสูญเสียทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดก็ยังคงอยู่

โชคดีที่คุณขาวได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯ (สคช.) ในการเจรจาไกล่เกลี่ย จนสามารถคลี่คลายปัญหาโดยชำระหนี้เพียง 200,000 บาท เรื่องนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สำคัญที่เตือนใจให้ทุกคนต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบที่สุดก่อนจะค้ำประกันให้ใคร และในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้ว่า หากเกิดปัญหาขึ้น ยังมีหน่วยงานรัฐที่พร้อมให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย


ป้องกันความเสี่ยงยังไงเมื่อเป็นผู้ค้ำประกัน

ถึงแม้การค้ำประกันจะผูกพันเรากับความเสี่ยงทางการเงินของผู้อื่น แต่เราสามารถจัดการและป้องกันความเสี่ยงเหล่านั้นได้แต่เนิ่น ๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมาในอนาคต โดยมีแนวทางปฏิบัติดังนี้

จำกัดวงเงินค้ำประกัน

วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการจำกัดวงเงินค้ำประกันตั้งแต่แรก โดยระบุในสัญญาให้ชัดเจนว่า เราจะค้ำประกันในวงเงินสูงสุดไม่เกินจำนวนที่เราสามารถรับผิดชอบไหวจริง ๆ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ไม่จำเป็นต้องค้ำประกันเต็มจำนวนหนี้เสมอไปหากสามารถเจรจาต่อรองได้

ติดตามการชำระหนี้ของผู้กู้อย่างสม่ำเสมอ

ควรสอบถามหรือติดตามการชำระหนี้ของผู้กู้อย่างใกล้ชิดเป็นระยะ หากเริ่มพบสัญญาณว่าผู้กู้มีปัญหาด้านการเงินหรืออาจผิดนัดชำระหนี้ การรีบเข้าไปพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน หรือเจรจากับสถาบันการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้หนี้สินกลายเป็นภาระของเราในอนาคตได้

พิจารณาทางเลือกอื่นแทนการค้ำประกัน

หากคุณยังคงรู้สึกไม่มั่นใจหรือประเมินแล้วว่าความเสี่ยงสูงเกินไป อาจลองพิจารณาทางเลือกอื่นเพื่อช่วยเหลือผู้กู้แทนการค้ำประกัน หรือแนะนำให้ผู้กู้ลองยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทที่ไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกันจากสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ ซึ่งอาจเป็นทางออกที่ดีกว่าสำหรับทุกฝ่าย

เช่น สินเชื่อบุคคล จากทีทีบีที่อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเงินก้อนใหญ่ สินเชื่อส่วนบุคคล ทีทีบี แคชทูโก รับเงินด่วนไปใช้จัดการเรื่องจำเป็นในชีวิต วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้หรือสูงสุดถึง 2 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืนได้นานสูงสุดตั้งแต่ 12-72 เดือน สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่จำเป็นต้องใช้หลักค้ำประกันอีกด้วย


กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกัน

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับแก้ไข) ได้ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ค้ำประกันมากขึ้น โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ ตามมาตรา 686/1 ถ้าลูกหนี้ผิดนัด เจ้าหนี้ต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ค้ำประกันภายใน 60 วันนับจากวันที่ลูกหนี้ผิดนัด และเจ้าหนี้ไม่สามารถเรียกให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้จนกว่าหนังสือจะถึงมือผู้ค้ำประกัน แต่ผู้ค้ำประกันสามารถเลือกชำระหนี้เองได้เมื่อหนี้ถึงกำหนด หากเจ้าหนี้ไม่ส่งหนังสือบอกกล่าวภายในเวลาที่กำหนด ผู้ค้ำประกันจะไม่ต้องรับผิดในส่วนดอกเบี้ย ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าภาระอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นหลังพ้นกำหนด 60 วัน เมื่อผู้ค้ำประกันมีสิทธิชำระหนี้หรือถูกเรียกให้ชำระหนี้ สามารถชำระได้ทั้งจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ตนต้องรับผิด ตามวิธีการและเงื่อนไขที่ลูกหนี้เคยมีสิทธิใช้กับเจ้าหนี้ก่อนผิดนัด ระหว่างที่ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ตามเงื่อนไขดังกล่าว เจ้าหนี้จะไม่สามารถเรียกดอกเบี้ยเพิ่มจากการผิดนัดของลูกหนี้ในช่วงนั้นได้ การชำระหนี้ของผู้ค้ำประกันตามมาตรานี้ก็ไม่กระทบสิทธิของผู้ค้ำประกันที่จะไปเรียกเงินคืนจากลูกหนี้ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ผู้ค้ำประกันจะรับผิดชอบหนี้เฉพาะในขอบเขตที่ตกลงไว้ในสัญญาค้ำประกัน และไม่ถือว่าผู้ค้ำประกันเป็นลูกหนี้ร่วมหรือผู้ก่อหนี้หลัก ตามมาตรา 875 เว้นแต่จะมีข้อความชัดเจนในสัญญา ซึ่งถ้าหากมีข้อตกลงให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดเหมือนลูกหนี้ร่วม ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกัน


สรุปเกี่ยวกับการค้ำประกัน

การค้ำประกันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของเราอย่างมาก ก่อนตัดสินใจค้ำประกันให้ใคร ควรพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งในด้านความสามารถทางการเงินของตนเอง ความสัมพันธ์กับผู้กู้ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

หากคุณกำลังพิจารณาเรื่องการค้ำประกันหรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคคลแคชทูโก ทีทีบีพร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอทางเลือกที่เหมาะสมกับคุณ ได้ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ ttb หรือบนมือถือได้สะดวกมากยิ่งขึ้นผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch หรือหากมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถเข้ารับคำแนะนำได้ที่ ttb ทุกสาขา

หมายเหตุ บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไปด้านการเงินและกฎหมายเบื้องต้น ไม่ใช่คำแนะนำทางกฎหมาย หากต้องการข้อมูลเฉพาะกรณีควรปรึกษาทนายความหรือเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินโดยตรง

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
สินเชื่อส่วนบุคคล ทีทีบี แคชทูโก อัตราดอกเบี้ย 18% - 25% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 25%ต่อปี
*เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง?

โดยหลักแล้ว ผู้ค้ำประกันมีหน้าที่ต้องชำระหนี้แทนลูกหนี้ในกรณีที่ลูกหนี้ผิดนัดหรือไม่ชำระหนี้ตามสัญญา อย่างไรก็ตาม ขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกันตามกฎหมายไทยได้มีการกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองผู้ค้ำประกันมากขึ้น ดังนี้ รับผิดชอบเฉพาะหนี้ที่ระบุไว้ในสัญญา เจ้าหนี้ต้องแจ้งผู้ค้ำประกันเมื่อลูกหนี้ผิดนัดและเจ้าหนี้ต้องเรียกร้องให้ลูกหนี้ชำระก่อน

กฎหมายใหม่เรื่องการค้ำประกันช่วยคุ้มครองอะไรบ้าง?

ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2557 เกี่ยวกับการค้ำประกัน ได้เพิ่มความคุ้มครองให้กับผู้ค้ำประกันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้

  • จำกัดความรับผิดของผู้ค้ำประกัน สัญญาค้ำประกันจะต้องระบุวงเงินสูงสุดที่ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดชอบไว้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดชอบในหนี้สินทั้งหมดอย่างไม่จำกัดเหมือนในอดีต
  • ห้ามกำหนดให้ผู้ค้ำประกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ข้อตกลงที่ให้ผู้ค้ำประกันต้องรับผิดในฐานะลูกหนี้ร่วม ซึ่งทำให้เจ้าหนี้สามารถเรียกเก็บหนี้จากผู้ค้ำประกันได้ทันทีโดยไม่ต้องไปไล่เบี้ยกับลูกหนี้ก่อนนั้น เป็นโมฆะ
  • สิทธิในการฟ้องไล่เบี้ยลูกหนี้ หลังจากที่ผู้ค้ำประกันได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ไปแล้ว ผู้ค้ำประกันมีสิทธิที่จะรับช่วงสิทธิของเจ้าหนี้ในการฟ้องร้องเรียกเงินคืนจากลูกหนี้ได้เต็มจำนวน พร้อมทั้งดอกเบี้ยและค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • การผ่อนผันหนี้ให้ลูกหนี้ หากเจ้าหนี้มีการผ่อนผันการชำระหนี้ให้กับลูกหนี้ เช่น การยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไป ผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิด เว้นแต่ผู้ค้ำประกันจะได้ตกลงยินยอมด้วยในการผ่อนผันนั้น

ถ้าไม่อยากค้ำประกัน มีสินเชื่อประเภทไหนที่ไม่ต้องใช้คนค้ำ?

หากไม่ต้องการใช้บุคคลค้ำประกัน ทีทีบี มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอย่าง สินเชื่อส่วนบุคคล แคชทูโก และบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว เพราะไม่จำเป็นต้องใช้คนค้ำ เพียงแค่เตรียมเอกสารประกอบการสมัครให้เรียบร้อย ช่วยลดภาระและความกังวลในการหาผู้มารับผิดชอบร่วม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการนำเงินไปใช้จ่ายตามความจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการหมุนเวียนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน การลงทุน หรือการใช้เพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัวอื่น ๆ

ข้อมูลอ้างอิงจาก
https://www.lawyerleenont.com/ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์/ค้ำประกัน.html
https://lawdivision.kku.ac.th/wp-content/uploads/2022/10/กฎหมายควรรู้ก่อนการเป็นผู้ค้ำประกัน.pdf
https://www.peesirilaw.com/ค้ำประกัน/ผู้ค้ำประกันรับผิดเสมือนลูกหนี้ร่วม.html
https://www.นพนภัสทนายความเชียงใหม่.com/ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์%20%20มาตรา%20680.html