บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งความสุข ความทรงจำของเราและครอบครัว แต่การเก็บเงินซื้อบ้านอาจยากเกินไปสำหรับหลายคน โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่า หากเรารู้วิธีเก็บเงินซื้อบ้านที่ถูกต้องและการวางแผนที่ดี ความฝันนี้ไม่ไกลเกินเอื้อมอย่างแน่นอน พร้อมแล้วหรือยังที่จะเริ่มต้นเส้นทางสู่การมีบ้านในฝัน? มาเริ่มกันเลย!
เริ่มต้นวางแผนเก็บเงินซื้อบ้าน
การเก็บเงินซื้อบ้านที่มีประสิทธิภาพต้องเริ่มต้นด้วยการวางแผนที่ดี ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญดังนี้
กำหนดเป้าหมายและระยะเวลาที่ชัดเจน
ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่าต้องการบ้านแบบไหน เช่น คอนโด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ หรือ บ้านเดี่ยว เป็นต้น รวมทั้งประเมินราคาว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ และกำหนดเป้าหมายว่าต้องการซื้อภายในเมื่อไหร่ เพราะการมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงจูงใจในการเก็บเงินซื้อบ้านมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าเมื่อเวลาผ่านไป ราคาบ้านที่เรามองไว้ อาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ต้องวางแผนทางการเงินให้พร้อมเมื่อราคาบ้านปรับเพิ่มขึ้น
ประเมินรายรับ-รายจ่ายปัจจุบัน
การรู้จักรายรับและรายจ่ายของเราในปัจจุบัน จะช่วยให้เรามองเห็นโอกาสในการเก็บเงินซื้อบ้านหลังแรก โดยเริ่มจากการจดบันทึกทุกการใช้จ่ายในแต่ละเดือน แล้ววิเคราะห์ว่ามีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่สามารถลดได้บ้าง หรือหากยังไม่พออาจต้องหาทางเพิ่มรายได้
คำนวณจำนวนเงินที่ต้องเก็บต่อเดือน
เมื่อเรารู้แล้วว่าต้องการเงินเท่าไหร่และภายในกี่ปี ให้คำนวณว่าต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้ถึงเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น หากต้องการเก็บ 1 ล้านบาทใน 5 ปี เราจะต้องเก็บเดือนละประมาณ 16,700 บาท
แต่ถ้าหากเราวางแผนจะขอสินเชื่อบ้านร่วมด้วย ควรประเมินว่าหากต้องจ่ายเงินดาวน์ จะต้องใช้เงินก้อนเท่าไหร่ ซึ่งเงินดาวน์บ้านควรมี 10-20% ของราคาบ้าน และประเมินความสามารถในการผ่อนชำระค่าบ้าน ซึ่งไม่ควรเกิน 30-40% ของรายได้ นอกจากนี้ควรศึกษาเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การคำนวณดอกเบี้ยบ้าน เพราะอัตราดอกเบี้ยนี้จะมีผลต่อจำนวนเงินที่เราต้องผ่อนชำระในอนาคต การเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้เราวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านได้แม่นยำยิ่งขึ้น และอาจช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าควรเก็บเงินดาวน์มากขึ้นหรือไม่ เพื่อลดภาระการผ่อนในระยะยาว นอกจากนี้ควรศึกษาโปรโมชันของแต่ละธนาคารร่วมด้วย รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องจ่ายในการขอสินเชื่อ เพราะเป็นเงินก้อนอีกส่วนหนึ่งที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมในการซื้อบ้านและขอสินเชื่อบ้าน
หลายคนอาจสงสัยว่าเงินเดือน 30000 ซื้อบ้านได้ไหม ซึ่งคำตอบจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ราคาบ้าน ระยะเวลาผ่อน และภาระหนี้สินอื่น ๆ ดังนั้น การคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระและการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
เทคนิคการเก็บเงินซื้อบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อวางแผนเรียบร้อยแล้ว มาดูเทคนิคการเก็บเงินซื้อบ้านที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
เริ่มต้นจากการตรวจสอบค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและลดสิ่งที่ไม่จำเป็น เช่น การซื้อของฟุ่มเฟือยหรือการทานอาหารนอกบ้านเป็นประจำ โดยเงินที่ประหยัดได้ให้นำไปเก็บเงินซื้อบ้านแทน
สร้างรายได้เสริม
หารายได้พิเศษนอกเหนือจากงานประจำ เช่น รับจ้างทำงานออนไลน์ หรือขายของมือสอง รายได้เสริมเหล่านี้จะช่วยเร่งการเก็บเงินซื้อบ้านของเราได้
ใช้กฎ 50/30/20 ในการจัดสรรเงิน
แบ่งรายได้ออกเป็น 3 ส่วน โดย 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว และ 20% สำหรับการออมและการลงทุน วิธีนี้จะช่วยให้เรามีวินัยในการเก็บเงินสร้างบ้านมากขึ้น
การลงทุนระยะสั้นเพื่อเพิ่มเงินออม
หากเรามีเป้าหมายในการเก็บเงินซื้อบ้านในระยะยาว การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น กองทุนรวม พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ อาจช่วยเพิ่มเงินออมของเราได้มากขึ้น
การเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อบ้าน
ในการเป็นเจ้าของบ้านหลังแรก หากวิธีเก็บเงินซื้อบ้าน เงินสดยังไม่ใช่ตัวเลือกที่เป็นไปได้ ก็สามารถใช้วิธีการขอสินเชื่อบ้านกับธนาคาร และผ่อนชำระกับธนาคารแทนได้ โดยการเลือกธนาคารเพื่อขอสินเชื่อนั้น
- ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ธนาคาร เพราะยิ่งอัตราดอกเบี้ยต่ำ ก็จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก และยังช่วยให้จำนวนเงินที่คุณชำระคืนแต่ละเดือน ถูกนำไปหักในส่วนเงินต้นได้เยอะขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถผ่อนชำระคืนหมดได้เร็วขึ้นนั่นเอง
- เปรียบเทียบวงเงินอนุมัติ โดยให้เลือกธนาคารที่ให้วงเงินสินเชื่อได้เต็ม 100%
- ดูเงื่อนไขโปรโมชันและระยะเวลาการกู้ ถ้าระยะเวลาการกู้ได้นาน ก็ช่วยทำให้ผ่อนต่อเดือนได้น้อยลง
- คำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดขึ้น เช่น ค่าประเมินราคา ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย เป็นต้น ซึ่งบางธนาคารจะมีโปรโมชันให้ฟรีค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้ ซึ่งถือว่าประหยัดก้อนได้พอสมควร
- ดูเงื่อนไขระยะเวลาในการขอรีไฟแนนซ์บ้าน โดยปกติเมื่อผ่อนบ้านครบ 3 ปี จะต้องรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดดอกเบี้ย ดังนั้นควรดูเงื่อนไขของธนาคารที่จะขอสินเชื่อด้วยว่าย้ายไปรีไฟแนนซ์บ้านกับที่ใหม่ได้ ต้องผ่อนมาแล้วกี่ปี
เป็นเจ้าของบ้านหลังแรกด้วยสินเชื่อบ้านทีทีบี
และสำหรับใครที่อยากทำตามฝัน สินเชื่อบ้านทีทีบี มีบริการที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการ เป็นเจ้าของบ้าน-คอนโด หลังแรก
- ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนต่อเดือนสบาย
- ให้วงเงินสูง 100%
- ผ่อนสบายๆ ได้นานสูงสุด 35 ปี
- ฟรี! ค่าประเมินหลักทรัพย์ – ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 50 ล้านบาท
หากคุณสนใจขอสินเชื่อบ้านหลักแรกจากสินเชื่อบ้านทีทีบี สามารถทำการกรอกข้อมูล เพื่อขอคำแนะนำด้านสินเชื่อ และให้เจ้าหน้าที่ธนาคารติดต่อกลับ >>> ได้ที่นี่
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านใหม่-คอนโดใหม่อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.89% - 5.95% ต่อปี •สินเชื่อบ้านมือสองอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5.64% - 6.73% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ย MRR = 7.83%ต่อปี ณ วันที่ 3 ต.ค.66• อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ •เงื่อนไขการสมัคร และอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
สรุป
การเก็บเงินซื้อบ้านเป็นเป้าหมายที่สำคัญและท้าทาย แต่ด้วยวิธีเก็บเงินซื้อบ้านที่เหมาะสม การวางแผนที่ดี และความมุ่งมั่น เราก็สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ไม่ว่าจะเลือกเก็บเงินซื้อบ้านด้วยเงินสดหรือใช้บริการสินเชื่อบ้าน สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้
สินเชื่อบ้านทีทีบี พร้อมเคียงข้างคุณในทุกก้าวของการเป็นเจ้าของบ้าน เพื่อให้คุณสามารถย้ายเข้าบ้านใหม่ได้ในวันที่ใช่ เราพร้อมให้คำแนะนำ เพราะเราเชื่อว่าบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความสุขและความสำเร็จในชีวิตของคุณ