การรีไฟแนนซ์บ้าน เป็นการย้ายสินเชื่อบ้านจากธนาคารเดิม ไปยังธนาคารใหม่ เพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถูกลง หรือยอดผ่อนชำระต่อเดือนลดลง ช่วยลดภาระค่างวด และผ่อนได้สบายขึ้น ส่งผลให้หลายคนเมื่อผ่อนบ้านครบ 3 ปี หันมาทำสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ที่เป็นทางเลือกที่ดีให้กับใครหลายๆคน
แต่ รีไฟแนนซ์บ้านเสียค่าอะไรบ้าง? และ ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์ บ้าน เหล่านี้คุ้มค่ากับผลประโยชน์ที่จะได้รับหรือไม่? เราไปดูค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 กันเลย
รีไฟแนนซ์บ้านเสียค่าอะไรบ้าง
การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นมี ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์ บ้าน ที่เราควรคำนึงถึง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนหลัก ๆ ดังนี้
ค่าใช้จ่ายในการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน
- ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ : ประมาณ 3,000 - 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและที่ตั้งของบ้าน โดยธนาคารจะส่งผู้ประเมินมาตรวจสอบสภาพและมูลค่าของบ้านเพื่อกำหนดวงเงินสินเชื่อ ทั้งนี้บางธนาคารมีโปรโมชันยกเว้นค่าธรรมเนียมส่วนนี้ให้
- ค่าอากรแสตมป์ : 0.05% ของวงเงินกู้ (สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท) เช่น หากเรากู้ 2 ล้านบาท ค่าอากรแสตมป์จะอยู่ที่ 1,000 บาท
- ค่าจดทะเบียนจำนอง : 1% ของวงเงินกู้จำนอง (สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท) เช่น หากวงเงินกู้จำนอง 2 ล้านบาท ค่าจดทะเบียนจำนองจะอยู่ที่ 20,000 บาท ทั้งนี้บางธนาคารมีโปรโมชันจ่ายค่าจำนองให้ หรือจ่ายให้บางส่วนขึ้นกับเงื่อนไขธนาคาร
- ค่าประกันอัคคีภัย : เป็นการทำประกันเพื่อคุ้มครองทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน อัตราเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับมูลค่าทรัพย์สินและระยะเวลาคุ้มครอง มูลค่าประมาณ 1,000 บาทต่อปี ต่อราคาบ้าน 1 ล้านบาท
- ค่าปรับกรณีไถ่ถอนหลักประกันก่อนกำหนด : บางธนาคารอาจมีค่าปรับกรณีไถ่ถอนหลักประกันก่อนกำหนด ซึ่งอาจคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดหนี้คงเหลือ เช่น 1-3% ของยอดหนี้คงเหลือ ตัวอย่างเช่น หากยอดหนี้คงเหลือ 1.5 ล้านบาท และธนาคารคิดค่าปรับ 2% เราอาจต้องจ่ายค่าปรับถึง 30,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น : เช่น ค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ค่าทำประกันวงเงินคุ้มครองสินเชื่อ เป็นต้น
รีไฟแนนซ์บ้านเสียค่าอะไรบ้าง ? เมื่อรวมทั้งหมดแล้ว ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 อาจอยู่ที่ประมาณ 1-2% ของวงเงินกู้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร ยกตัวอย่างเช่น หากเรารีไฟแนนซ์บ้านด้วยวงเงิน 2 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจอยู่ที่ประมาณ 20,000 - 40,000 บาท
เคล็ดลับรีไฟแนนซ์ให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
แม้ว่าค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 อาจดูเยอะ แต่ก็มีวิธีที่จะช่วยให้เราประหยัดได้มากขึ้น เช่น
1. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารหลาย ๆ แห่ง
ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้าน ต้องเสียค่าอะไรบ้าง ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยและเงื่อนไขที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ไม่ควรดูแค่อัตราดอกเบี้ยเท่านั้น แต่ควรพิจารณาถึงระยะเวลาผ่อนชำระ ค่าธรรมเนียม และโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆด้วย
ตัวอย่างเช่น ธนาคาร A อาจเสนออัตราดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี แต่ต้องจ่ายค่าจดจำนอง ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยเอง ในขณะที่ธนาคาร B เสนออัตราดอกเบี้ย 2.25% ต่อปี แต่มีโปรโมชัน ฟรี ค่าจดจำนอง ฟรี ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ฟรี ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ให้ ในกรณีนี้เราต้องคำนวณดูว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น ในระยะยาวแล้วธนาคารไหนจะช่วยให้เราประหยัดได้มากกว่า
2. หลีกเลี่ยงค่าปรับกรณีไถ่ถอนหลักประกันก่อนกำหนด
ตรวจสอบเงื่อนไขสัญญาเดิมว่ามีค่าปรับหรือไม่ และพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรีไฟแนนซ์เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับนี้ บางธนาคารอาจมีระยะเวลาล็อกสัญญา เช่น 3 ปีแรก หากเราไถ่ถอนในช่วงนี้อาจต้องเสียค่าปรับ
หากเราอยู่ในช่วงที่ต้องเสียค่าปรับ ให้คำนวณดูว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการรีไฟแนนซ์คุ้มค่ากับค่าปรับหรือไม่ บางกรณีแม้ต้องเสียค่าปรับ แต่ดอกเบี้ยที่ลดลงในระยะยาวอาจคุ้มค่ากว่า
3. งดก่อหนี้เพิ่ม
การมีหนี้สินน้อยจะช่วยให้เราได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า และอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์ บ้านได้ ธนาคารมักจะพิจารณาอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt-to-Income Ratio หรือ DTI) ในการอนุมัติสินเชื่อ
ตัวอย่างเช่น หากเรามีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน และมีภาระหนี้รวม (รวมค่าผ่อนบ้าน) 20,000 บาทต่อเดือน DTI ของเราจะอยู่ที่ 40% ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ธนาคารยอมรับได้ แต่หากเรามีหนี้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 บาทต่อเดือน DTI จะเพิ่มเป็น 60% ซึ่งอาจทำให้เราได้รับข้อเสนอที่แย่ลงหรือถูกปฏิเสธการรีไฟแนนซ์ได้
สรุปค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน
การรีไฟแนนซ์บ้าน ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีในการลดภาระค่าใช้จ่ายระยะยาว แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านที่ต้องจ่ายในตอนแรก แต่หากวางแผนอย่างรอบคอบและเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เราก็สามารถประหยัดดอกเบี้ยไปได้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจ รีไฟแนนซ์บ้าน ควร ศึกษาข้อมูลให้ดี เปรียบเทียบโปรโมชันกับหลาย ๆ ธนาคาร และอย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจของเราจะนำไปสู่สถานะทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะยาว
สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี พร้อมตอบโจทย์ด้วย ดอกเบี้ยหลากหลายทางเลือก
- สำหรับสายโปะ/สายชัวร์ ดอกเบี้ยหน้าต่ำ 3 ปีแรก เริ่มต้นปีแรก 1.90%ต่อปี สำหรับคนที่ชอบรีไฟแนนซ์เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต่ำๆ และ ดำเนินการทุก 3 ปี
- หรือสำหรับสายเป๊ะ หรือ สายผ่อนดี และไม่อยากยุ่งวุ่นวายในการรีไฟแนนซ์ทุก 3 ปี หรืออยากเซฟค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ย้ายมารีไฟแนนซ์บ้านครั้งสุดท้ายผ่านโปรแกรม "ผ่อนดีมีรางวัล"*เพื่อรับดอกเบี้ยพิเศษ เรทเดียวตลอดสัญญา ผ่อนดี ปีที่ 4 ไม่ปรับขึ้น เหมาะกังวลเรื่องดอกเบี้ยปีที่ 4 ได้เลย อีกทั้งช่วยประหยัดเวลากับค่าใช้จ่ายได้เยอะ
- พร้อมฟรี! ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ และทางเลือกฟรีค่าจดจดจำนอง*
- ผ่อนสบาย เลือกผ่อนได้นานสูงสุด 35 ปี
- วงเงินอนุมัติสูงสุด 100% หรือสูงสุด 50 ล้านบาท
- ผ่อนอยู่ กู้เพิ่มได้ ใช้รวบหนี้ ต่อเติมซ่อมแซมบ้าน เป็นทุนเปิดร้าน หรือขยายกิจการ
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว: อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 3.34% - 5.216% ต่อปี • สมมติฐานการคํานวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 16 พ.ค. 68 = 7.555% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com