สมัครบัตรเครดิตต้องรู้ วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร

• วงเงินบนบัตรเครดิต หมายถึง จำนวนเงินสูงสุดที่ธนาคารอนุมัติให้ใช้
• เจ้าของบัตรเครดิตที่มีสุขภาพการเงินแข็งแรงย่อมหมั่นเช็ก อัตราการใช้บัตรเครดิตของตัวเองอยู่เสมอ

 

เป็นเรื่องธรรมดาที่ก่อนจะสมัครบัตรเครดิตสักใบ หลายคนก็ย่อมต้องชั่งใจในความต่างระหว่างการใช้บัตรเครดิต กับ ใช้จ่ายด้วยเงินสด

สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ บัตรเครดิต คือเครื่องมือทางการเงินให้เราสามารถซื้อสิ่งจำเป็นได้ในเวลาที่ต้องการและมีความยืดหยุ่นมากกว่าเงินสด สามารถแบ่งจ่ายเป็นรายเดือนได้ พร้อมทั้งยังได้รับส่วนลด เครดิตเงินคืน และคะแนนสะสม หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ ตามประเภทของบัตรเครดิต และที่สำคัญ บัตรเครดิตจะมาพร้อมวงเงินที่สูงกว่าเงินเดือนที่เรามี ดังนั้นก่อนสมัครบัตรเครดิตจึงต้องเข้าใจให้ดีก่อนว่า วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร และควรใช้จ่ายบัตรเครดิตอย่างไรให้สุขภาพการเงินไม่พังในภายหลัง

วงเงินบัตรเครดิตคืออะไร

บัตรเครดิตแต่ละใบจะมีลิมิตให้ใช้รูดจ่ายหรือซื้อสินค้าได้เท่าไหร่ก็คืออยู่กับวงเงินที่มีบนบัตรใบนั้น เมื่อสมัครบัตรเครดิตไปแล้วนั้น เราจะได้รับอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตให้ใช้ได้เท่าไหร่ก็จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่ เงินเดือนหรือรายได้ ประวัติการชำระเงินที่ผ่านมา เครดิตทางการเงิน (Credit Score) ยิ่งมีเครดิตที่น่าเชื่อถือยิ่งทำให้มีวงเงินบัตรเครดิตที่สูง รวมถึง ประวัติการชำระเงิน และ หนี้สินอื่นๆ

วงเงินบัตรเครดิตจากเงินเดือน คิดอย่างไร

กรณีที่พิจารณาจากรายได้ของผู้สมัครบัตรเครดิต ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับวงเงินที่ได้รับอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้

วงเงินบนบัตรเครดิต กับ วงเงินการใช้บัตรเครดิตต่างกันอย่างไร

เมื่อสมัครบัตรเครดิตใบแรก เชื่อว่าหลายคนอาจสับสนกับความแตกต่างระหว่าง วงเงินบัตรเครดิต (Credit Limit) กับ วงเงินการใช้บัตรเครดิต (Credit Usage) ซึ่งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน หากพูดอย่างง่ายๆ วงเงินบัตรเครดิต หมายถึง ลิมิตของวงเงินที่สามารถใช้จ่ายได้มีจำกัดสูงสุดเท่าไหร่ เช่น First Jobber เงินเดือน 15,000 บาท อาจได้รับอนุมัติวงเงินบัตรเครดิตสูงสุด 25,000 บาท เป็นต้น ส่วนวงเงินการใช้บัตรเครดิต หมายถึง ยอดรวมวงเงินทั้งหมดที่ใช้ไปแล้วบนบัตรเครดิต ซึ่งจะแสดงให้เห็นบนแอปพลิเคชันในทันทีหลังทำรายการผ่านบัตรเครดิต

แน่นอนว่า แม้บัตรเครดิตจะให้วงเงินที่สูงกว่ารายได้ที่มีต่อเดือนอยู่หลายเท่า แต่ก็เป็นเรื่องที่เจ้าของบัตรอย่างเราๆ ต้องระวังไม่ให้ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงจนเกินไป โดยเฉพาะเมื่อสมัครบัตรเครดิตใบแรกใหม่ๆ อาจเผลอใจรูดซื้อสิ่งของต้องใจจนสุขภาพทางการเงินปั่นป่วนได้ ดังนั้นแล้ว หากอยากเป็นเจ้าของบัตรเครดิตที่มีสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง ก็ควรต้องหมั่นเช็ก อัตราการใช้บัตรเครดิตของตัวเองอยู่เสมอ

อัตราการใช้บัตรเครดิต (Credit Utilization Ratio) คืออะไร

อัตราการใช้บัตรเครดิต (Credit Utilization Ratio) คือ สัดส่วนการใช้บัตรเครดิตเมื่อเทียบกับวงเงินบัตรเครดิตที่มี ซึ่งเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เรารู้ได้ในทันทีว่ากำลังใช้จ่ายบัตรเครดิตจนเกินไปหรือไม่ โดยมีวิธีคำนวณด้วยตัวเองง่ายๆ เพียงนำ ยอดวงเงินการใช้บัตรเครดิตทั้งหมด หารด้วย วงเงินบัตรเครดิตทั้งหมด จากนั้นคูณด้วย 100% ก็จะได้อัตราการใช้บัตรเครดิตในหนึ่งเดือน

ยกตัวอย่างวิธีการคำนวณอัตราการใช้บัตรเครดิต เช่น กรณี First Jobber เงินเดือน 15,000 บาท ได้รับอนุมัติวงเงินบัตรเครดิต 25,000 บาท และใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 8,000 บาท จะได้ว่า 8,000 / 25,000 x 100 = 32%

อัตราการใช้บัตรเครดิตที่ดี ควรจะไม่เกินไปกว่า 30% เพราะเป็นการบ่งบอกว่าเรากำลังแบกรับภาระหนี้สินบัตรเครดิตอยู่เท่าไหร่ ทั้งยังถูกนำมาคิดคะแนนโดยมีน้ำหนักเป็น 30% ของ FICO Scoring Model ซึ่งเป็นรูปแบบการให้คะแนนเครดิตโดย Fair Isaac Corporation (FICO) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการให้คะแนนเครดิตชั้นนำในสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ประเมินความเสี่ยงในการให้สินเชื่อของแต่ละบุคคล

แต่ถึงอย่างนั้น ความจำเป็นทางการเงินของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป เช่น ในบางเดือนที่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายเรื่องสำคัญ อย่างเช่น การจองตั๋วเครื่องบิน การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ หรือเบี้ยประกันรถยนต์ อัตราการใช้บัตรเครดิต จึงเป็นสิ่งที่สามารถยืดหยุ่นได้ และเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่จะบอกถึงของสุขภาพทางการเงินทั้งหมด แน่นอนว่าตราบใดที่เราสามารถชำระคืนยอดบัตรเครดิตทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนตรงเวลา ก็เท่ากับว่า เรามีความแข็งแกร่งทางการเงินมากพอ และสามารถสร้างประวัติทางการเงินที่ดีไว้ได้

อยากรู้ว่าวงเงินเหลือเท่าไหร่ดูอย่างไร

นอกเหนือจากวงเงินบัตรเครดิต (Credit Limit) แล้วนั้น เราสามารถตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตที่คงเหลืออยู่ (Credit Balance) ได้ตลอดเวลา ด้วยการเช็กวงเงินบัตรเครดิต ttb ผ่านแอปพลิเคชัน ttb touch เพื่อรู้ทันนิสัยการใช้เงินของตัวเอง และสามารถวางแผนการใช้งานบัตรเครดิตได้ดียิ่งขึ้น เพราะคุมงบได้ง่ายและคำนวณได้ทันทีว่ามียอดชำระบัตรเครดิตที่ต้องจ่ายเท่าไหร่ ทั้งยังช่วยให้ไม่เสียดอกเบี้ยจากการชำระบัตรเครดิตล่าช้า เพราะมีการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนนั่นเอง

มีสติเมื่อใช้จ่าย ปรับลดวงเงินเองทำอย่างไร

ท้ายที่สุด การควบคุมกิเลสของใจบางครั้งก็ต้องอาศัยผู้ช่วย เช่น แอปพลิเคชัน ttb touch ที่คอยช่วยให้คนมีบัตรเครดิต ttb คุมงบและคุมใจการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น เพราะมีบริการปรับลดวงเงิน ตั้งค่าบัญชีและเลือกปรับวงเงินบัตร ให้อยู่ในระดับที่พอใจ เพียงเท่านี้ก็ช่วยคุมลิมิตการใช้จ่ายบัตรเครดิตด้วยตัวเองได้ง่ายๆ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม การใช้บัตรเครดิต ttb ควร "ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี"

หากต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต ttb และการขอเพิ่มวงเงินบัตรเครดิตเพิ่มเติมสามารถติดต่อ ttb contact center 1428 หรือ 02-241-1428 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง