- หนี้บัตรเครดิตคืออะไร ? เปิดสาเหตุที่ทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิต
- แนะนำ 5 วิธีที่จัดการหนี้บัตรเครดิต
- จ่ายหนี้บัตรเครดิตไม่ไหว หากโดนฟ้องจะทำอย่างไร ?
หนี้บัตรเครดิตมาจากไหน แก้ไขอย่างไรถึงจะปิดหนี้ได้อยู่หมัด!
ในยุคนี้ แค่เปิดโทรศัพท์ก็เห็นสิ่งของล่อตาล่อใจมากมาย ทั้งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่หรืออาร์ตทอยตัวท็อป แต่จะให้ซื้อของทุกอย่างที่ต้องการด้วยเงินสดก็จ่ายไม่ไหว บางคนจึงตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต เพื่อซื้อของเหล่านี้อย่างไม่ยั้งคิดและนำไปสู่ปัญหาเป็นหนี้บัตรเครดิต จนใช้หนี้บัตรเครดิตไม่ไหว แต่ถ้าอยากเคลียร์หนี้ให้หมดมีวิธีการอย่างไร มาหาคำตอบกันได้เลย!
หนี้บัตรเครดิตคืออะไร?
การสมัครบัตรเครดิตทำให้เจ้าของบัตรได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรโมชันบัตรเครดิตในด้านต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิตเติมน้ำมัน เมื่อใช้แล้วจะได้รับเครดิตเงินคืนหรือส่วนลดบัตรเครดิตเมื่อเติมน้ำมันกับปั๊มที่เข้าร่วมรายการ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น แต่ถ้าได้บัตรเครดิตมาแล้วกลับบริหารเงินไม่ดี จ่ายบัตรเครดิตช้าเป็นประจำก็นำมาสู่ปัญหาการเป็นหนี้บัตรเครดิตเรื้อรังได้
เมื่อเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว ก็ควรเข้าสู่โครงการเคลียร์หนี้บัตรเครดิตเพื่อให้มีโอกาสปลดหนี้ได้ เพราะอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะคิดคำนวณเป็นรายวัน ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตยิ่งเพิ่มขึ้น และยอดคงค้างพร้อมดอกเบี้ยจะถูกนำไปคิดในงวดถัดไป ทำให้หลายคนหาทางชำระเงินคืนไม่ไหว จึงควรรีบปลดหนี้บัตรเครดิตให้เร็วที่สุด ดังจะเห็นได้จากสูตรคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต
ดอกเบี้ยบัตรเครดิต = (จำนวนเงินที่รูดบัตร x อัตราดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนวันนับตั้งแต่วันที่บันทึกรายการ) / 365
สาเหตุที่ทำให้เป็นหนี้บัตรเครดิต
นอกจากการไม่วางแผนบริหารเงินให้ดีและจ่ายหนี้บัตรเครดิตล่าช้าจะนำมาสู่ปัญหาการเป็นหนี้บัตรเครดิตแล้ว ยังมีอีกสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้สมัครบัตรเครดิต เป็นหนี้บัตรเครดิตยาวนานกว่า 10 ปี ดังนี้
- ใช้บัตรเครดิตเกินตัว
ผู้ที่ติดหนี้บัตรเครดิต มักมีทัศนคติการใช้บัตรเครดิตที่ว่า จ่ายไปก่อนค่อยชำระคืนภายหลัง ทำให้ใช้บัตรเครดิตเกินตัวจนเต็มวงเงิน ด้วยเหตุนี้จึงควรปรับมายด์เซ็ตการใช้บัตรเครดิตเสียใหม่ ด้วยการมองว่าเมื่อรูดบัตรเครดิตแล้วจะจ่ายเงินสดออกไปจริง ๆ เหมือนกับบัตรเดบิต - ใช้กดเงินสด
แม้บัตรเครดิตสามารถเบิกเงินสดจากตู้ ATM ได้ แต่อย่าลืมว่าเมื่อเบิกเงินออกมาแล้วจะเสียค่าธรรมเนียม 3% ของจำนวนเงินที่เบิกถอน และภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องเบิกเงินสดจากตู้ ATM เป็นประจำ หรือคิดว่ามีเรื่องจำเป็นที่จะต้องใช้เงินด่วน เงินฉุกเฉินจริงๆ ควรสมัครบัตรกดเงินสดแทนบัตรเครดิต เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียมในการเบิกเงินสดและภาษีมูลค่าเพิ่ม - ใช้บัตรเครดิตเป็นสินเชื่อทำธุรกิจ
บางคนนอกจากจะเบิกเงินสดด้วยบัตรเครดิตเพื่อนำมาใช้จ่ายแล้ว ยังกดเงินสดมาทำธุรกิจอีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีใช้บัตรเครดิตที่ไม่ถูกต้อง เพราะดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงกว่าสินเชื่อธุรกิจ ทำให้หนี้บัตรเครดิตยิ่งพอกพูนขึ้น หากใช้วงเงินจากบัตรเครดิตทำธุรกิจไปเรื่อย ๆ จะแก้หนี้บัตรเครดิตไม่ได้
5 วิธีทำอย่างไรให้ปิดหนี้บัตรเครดิตไวขึ้น
แม้หนี้บัตรเครดิตดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ทุกปัญหาล้วนมีทางออก ด้วย 5 วิธีที่จะทำให้คุณปิดหนี้บัตรเครดิตได้ ดังนี้
1. โฟกัสกับการปิดหนี้ทีละยอด
บางคนทำบัตรเครดิตไว้หลายใบ เช่น บัตรเครดิตเงินคืน เพราะอยากได้ส่วนลดในการซื้อของ และทำบัตรเครดิตใช้ต่างประเทศ เนื่องจากเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ เมื่อบิลบัตรเครดิตรายเดือนมา กลับเลือกจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ ไม่จ่ายเต็มจำนวน ส่งผลให้หนี้บัตรเครดิตทุกใบพอกพูนขึ้น ดังนั้นจึงควรโฟกัสกับการปิดหนี้บัตรเครดิตทีละใบให้หมด โดยอาจให้ความสำคัญกับบัตรเครดิตที่มีหนี้น้อยที่สุดก่อน เนื่องจากเคลียร์ง่าย เมื่อเคลียร์หนี้บัตรเครดิตยอดน้อยหมดแล้วค่อยชำระบัตรเครดิตที่มียอดหนี้จำนวนมากขึ้นตามลำดับ
2. ลดรายจ่ายไม่จำเป็น
หลังจากมีบัตรเครดิตสะสมคะแนน บางคนก็ใช้จ่ายอย่างไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ใช้จ่ายโดยไม่ได้คำนึงถึงรายรับ เพราะคิดว่ายิ่งรูดก็ยิ่งมีโอกาสได้ของที่ต้องการจากแต้มบัตรเครดิต จนรูดบัตรเครดิตเต็มวงเงินเป็นประจำ แต่ถ้าตั้งใจที่จะปิดหนี้บัตรเครดิต ควรลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เพียงเท่านี้ก็เข้าใกล้เป้าหมายปิดหนี้บัตรเครดิตได้เร็วขึ้น
3. เลี่ยงการจ่ายขั้นต่ำ จ่ายเต็มจำนวนเมื่อทำได้
แม้การจ่ายขั้นต่ำจะช่วยให้เจ้าของบัตรลดหนี้บัตรเครดิตรายเดือนได้ แต่อย่าลืมว่ายอดหนี้คงค้างจะถูกนำไปคิดคำนวณรวมกันในงวดถัดไป พร้อมดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่คิดเป็นรายวัน ส่งผลให้หนี้บัตรเครดิตงวดถัดไปสูงกว่าหนี้ก้อนเดิม ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรจ่ายขั้นต่ำให้น้อยครั้งที่สุด
4. ใช้วิธีการรวมหนี้ (Debt Consolidation)
หนึ่งในเทคนิคสำคัญที่จะช่วยผู้เป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบเคลียร์หนี้ได้นั่นคือ การรวมหนี้บัตรเครดิต วิธีนี้จะนำหนี้บัตรเครดิตทั้งหมดมารวมไว้เป็นสินเชื่อก้อนเดียว ทำให้แทนที่จะผ่อนหนี้บัตรเครดิตทีละใบก็มาผ่อนผ่านสินเชื่อรวมหนี้แทน ช่วยให้บริหารจัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปรับลดดอกเบี้ยหนี้บัตรเครดิตให้ต่ำลง และทาง ttb ก็ได้มีสินเชื่อรวมหนี้ที่ช่วยให้ลูกหนี้หาทางออกได้เช่นกัน
5. หมั่นติดตามรายรับรายจ่าย
หลังจากรวมหนี้เป็นก้อนเดียวแล้ว ก็ควรทำบัญชีรายรับรายจ่าย หรือตรวจสอบข้อมูลการใช้จ่ายย้อนหลังผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของเราว่าแต่ละเดือนใช้เงินไปทั้งหมดเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้ว จะช่วยให้เราเห็นปัญหาในการใช้จ่ายของตัวเองมากขึ้น ทำให้วางแผนการเงินเพื่อเก็บเงินทุกเดือนมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้
หนี้บัตรเครดิตเคลียร์ไม่ยาก ขอแค่มุ่งมั่นตั้งใจปิดหนี้
การเป็นหนี้บัตรเครดิตในช่วงแรกอาจเป็นเรื่องยากทั้งต้องเผชิญกับการโดนทวงหนี้บัตรเครดิตรายวัน และยอดคงค้างหนี้บัตรเครดิตก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ย จนเริ่มถอดใจว่าจะชำระเงินคืนไม่ไหว แต่หากมุ่งมั่นตั้งใจปิดหนี้แล้ว ไม่ว่ายอดหนี้จะเยอะแค่ไหน ก็หาทางปิดหนี้บัตรเครดิต เมื่อเข้าโครงการแล้วรับรองเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เครดิตทางการเงินกลับมาดีเยี่ยม!
ทั้งนี้ในการสมัครบัตรเครดิตไม่ว่าจะประเภทไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องรู้จักการใช้บัตรเครดิตให้เป็น เพราะหากคุณมีการใช้จ่ายอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ใช้จ่ายเกินตัว ไม่ได้ประเมินรายรับของตนเองให้ดี สิ่งนี้อาจทำให้คุณขาดสภาพคล่อง และมีโอกาสติดหนี้บัตรเครดิตได้ เพราะฉะนั้นก่อนการตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต ต้องศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของบัตรเครดิตแต่ละประเภทให้ถี่ถ้วน ประเมินความคล่องตัวทางการเงินของคุณก่อนเสมอ เพื่อป้องกันโอกาสในการเกิดหนี้บัตรเครดิตในอนาคต
เงื่อนไขและการพิจารณาบัตรเครดิตเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิต ttb สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ของ ttb หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี