external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

รู้ก่อนใช้ กดเงินสดจากบัตรเครดิต ต่างจากบัตรกดเงินอย่างไร

#ttb #fintips #ttbcreditcards #บัตรเครดิตttb #การกดเงินสดจากบัตรเครดิต
14 ก.ค. 2566

  • เมื่อไหร่ที่กดเงินสดออกจากบัตรเครดิตแล้วนั้น ยิ่งจ่ายคืนได้ไวยิ่งดี
  • การกดเงินออกจากบัตรเครดิตจะสามารถกดได้ตามจำนวนวงเงินที่มี

 

เพราะชีวิตมีเหตุผกผันทางการเงินได้ทุกเมื่อ เป็นเหตุให้ใครหลายคนต้องเลือกพึ่งพาตัวช่วยด่วนจี๋ที่อาจต้องแลกมาด้วยค่าธรรมเนียม อย่างการกดเงินสดจากบัตรเครดิต เพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเพราะการเจ็บป่วยกระทันหันต้องการค่ารักษา เกิดอุบัติเหตุจนมีเรื่องให้ซ่อมรถหรือต้องเสียค่าเสียหาย หรือตกงานอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเสียหลักทางการเงิน แม้การกดเงินจากบัตรเครดิตจะเป็นตัวช่วยชั่วคราวที่ไวและได้เงินสดทันเวลาและทันใจ แต่มีอะไรบ้างที่คนมีบัตรเครดิต ต้องรู้ก่อนเลือกกดเงินสดออกจากบัตรเครดิต

กดเงินสดออกจากบัตรเครดิตได้ไหม


กดเงินออกจากบัตรเครดิตได้ไหม

สิ่งแรกที่ต้องรู้เมื่อใช้บัตรเครดิตในชีวิตประจำวัน คือ บัตรเครดิตมีวงเงิน (Credit Limit) ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่สามารถใช้จ่ายได้ผ่านบัตรเครดิต โดยเงินส่วนนี้เมื่อใช้จะกลายเป็น Credit Balance หรือ ยอดเงินทั้งหมดที่ใช้ไป แน่นอนว่าการกดเงินออกจากบัตรเครดิตจะสามารถกดได้ตามจำนวนวงเงินที่มีคงเหลือ แต่ควรต้องไตร่ตรองให้แน่ใจก่อนเลือกใช้วิธีกดเงินออกจากบัตรเครดิต เพราะไม่เพียงต้องชำระคืนยอดเงินที่กดออกไป แต่ยังพ่วงเงื่อนไขค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยเพิ่มอีกด้วย ได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด (cash advance fee)
  • ภาษีมูลค่าเพิ่มของยอดบริการเงินสด (VAT)
  • ค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามอัตราที่ธนาคารกำหนดไว้
  • ดอกเบี้ยต่อวัน

การกดเงินสดจากบัตรเครดิต ต่างจากการกดเงินจากบัตรกดเงินสดที่เงื่อนไขค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยนี้เอง เพราะบัตรกดเงินสดไม่มีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด (cash advance fee) รวมทั้งใช้วิธีคำนวนอัตราดอกเบี้ยเป็นแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) โดยคำนวณเป็นรายวัน สามารถเลือกชำระคืนขั้นต่ำ 3 % ของยอดเงินตามใบแจ้งสรุปยอดบัญชีและสามารถผ่อนชำระแบบรายงวด งวดละเท่าๆ กัน

กดเงินสดจากบัตรเครดิตต้องจ่ายคืนอย่างไร


กดแล้วต้องจ่ายคืนยังไง

เมื่อไหร่ที่กดเงินสดออกจากบัตรเครดิตแล้วนั้น ยิ่งจ่ายคืนได้ไวเท่าไหร่ยิ่งช่วยลดทอนดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้น้อยลงเท่านั้น เพราะดอกเบี้ยจะถูกคิดทันทีเมื่อกดเงินจากบัตรออกมาใช้และจะถูกคิดวันต่อวันจนกว่าจะชำระคืนทั้งหมด โดยผู้มีบัตรเครดิต ttb สามารถเช็คยอดที่ต้องชำระและวงเงินคงเหลือของบัตรเครดิตได้อย่างสะดวกทุกที่ทุกเวลาผ่านแอป ttb touch ไม่มีค่าบริการ ตามขั้นตอนดังนี้

  1. ไปที่ “หน้าหลัก” ซึ่งจะแสดงบัญชีและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่เรามีกับธนาคาร
  2. เลือกบัตรเครดิตที่ต้องการ สามารถดูยอดที่ใช้ไป และวงเงินคงเหลือ ได้ทันที หรือสามารถเลือก “รายละเอียด” เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
  3. ที่หน้ารายละเอียดบัญชี สามารถดูรายละเอียดวันที่สรุปยอด วันครบกําหนดชําระ ยอดค้างชําระรวม ยอดขั้นต่ำที่ต้องชําระ

เมื่อต้องการ จ่ายบิล บัตรเครดิต ttb สามารถทำได้โดยกลับไปที่หน้าหลักบนแอป ttb touch ตามขั้นตอนดังนี้

  1. กดปุ่ม “จ่ายบิล”
  2. เลือกค้นหาบิล หรือ สแกนบิล เพื่อจ่ายบิลผ่านการสแกนบาร์โค้ดหรือคิวอาร์โค้ด
  3. ระบุข้อมูลของบิลที่ต้องการชำระและจำนวนเงิน จากนั้นกดปุ่ม ”ถัดไป”
  4. สามารถเปลี่ยนบัญชีที่ต้องการจ่ายบิลได้ผ่านแถบเลื่อนบัญชีด้านบน
  5. ตรวจสอบข้อมูล กด ปุ่ม “ยืนยัน” และกรอกรหัสผ่าน 6 หลัก
  6. ระบบจะแสดงการทำรายการสำเร็จ พร้อมบันทึกภาพสลิปอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกช่องทางชำระเงินของ ttb โดยไม่คิดค่าบริการ เช่น เลือกหักบัญชีเงินฝากอัตโนมัติ, ชำระผ่านตู้ ATM/CDM ของทีทีบี หรือชำระผ่านเว็บไซต์ www.ttbdirect.com

เงินสดที่กดจากบัตรเครดิตต้องผ่อนอย่างไร


เงินสดที่กดจากบัตรเครดิตผ่อนยังไง

เงินสดผ่อนชิลล์ ชิลล์ (Cash Chill Chill) บริการจาก ttb ที่เมื่อมีเหตุจำเป็นให้ต้องเร่งรีบใช้เงินสามารถเปลี่ยนวงเงินคงเหลือในบัตรเครดิตเป็นเงินสดด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีโดยสามารถแบ่งชำระได้สูงสุด 36เดือน
  • ดอกเบี้ยเพียง 0.72% ต่อเดือน* ที่สามารถรับดอกเบี้ยเพียง 0.72% ต่อเดือน* (แบบคงที่) สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 6, 10 เดือน หรือ ดอกเบี้ยต่ำเพียง 15.55% ต่อปี (แบบลดต้นลดดอก) สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 18, 24, 36 เดือน เมื่อทำรายการผ่านช่องทางแอป ttb touch สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ttb call center 1428
  • โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝาก ขั้นต่ำ 5,000 บาท สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 6, 12, 24, 36 เดือน สูงสุดครั้งละไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อวันต่อท่าน เมื่อทำรายการผ่านแอป ttb touch
  • ปิดยอดผ่อนชำระต่อเดือนก่อนครบกำหนด กรณีต้องการปิดยอดผ่อนชำระต่อเดือนก่อนครบกำหนด สามารถแจ้งความประสงค์ผ่าน ttb call center 1428

กดเงินสดจากบัตรเครดิตต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่


จ่ายดอกเบี้ยเท่าไหร่

ทำไมการกดเงินสดจากบัตรเครดิตอาจเป็นตัวเลือกที่ไม่คุ้มเท่าไหร่นักสำหรับใครที่มีทางเลือกที่ดีกว่าเพราะการกดเงินสดจากบัตรเครดิตมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเข้ามานั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ต้องการกดเงินจากบัตรเครดิต 10,000 บาท จะต้องเสียดอกเบี้ยทั้งหมดแยกย่อยได้ดังนี้

  1. ค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า 3%
    โดย ค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า = จำนวนเงินสดที่กดจากบัตรเครดิต x 3%
    จะได้ว่า เมื่อกดเงินจากบัตรจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเบิกเงินสดล่วงหน้า 10,000 x 3% = 300 บาท
  2. ภาษีมูลค่าเพิ่มของยอดบริการเงินสด (VAT) 7% จะได้ว่า = 300 x 7% บาท = 21 บาท
  3. ดอกเบี้ยบัตรเครดิต 16%

โดยจะคำนวณดอกเบี้ยในแต่ละวัน = จำนวนเงินสดที่กดจากบัตรเครดิต x ดอกเบี้ยบัตรเครดิต / 365 จะได้ว่า ดอกเบี้ยต่อวัน = 10,000 x 16% / 365 = 4 บาท หากนับตั้งแต่วันที่กดเงินจากบัตรจนถึงวันที่ชำระคืนเป็นเวลา 30 วันดอกเบี้ยต่อวันที่จะต้องจ่ายทั้งหมดเท่ากับ 120 บาท

เมื่อรวมทั้งหมดแล้ว ในการกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้ 10,000 จะต้องจ่ายคืนทั้งหมด 10,441บาทโดย 441 บาทคือส่วนของค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยที่เสียเพิ่มเติม

กดเงินสดจากบัตรเครดิตได้เท่าไหร่


กดเงินสดจากบัตรเครดิตได้เท่าไหร่

การกดเงินสดจากบัตรเครดิตสามารถกดได้ตามจำนวนวงเงินคงเหลือที่มี โดยบัตรเครดิต ttb สามารถกดได้ถึง 100% ของวงเงินโดยต้องไม่เกิน 60,000 บาทต่อวันและไม่เกิน 3 ครั้งต่อวันต่อบัตร แต่ถึงแม้การกดเงินสดจากบัตรเครดิตจะเป็นคำตอบของตัวช่วยทางการเงินที่รวดเร็วทันใจ ทว่าก็อาจตามมาด้วยผลลัพธ์ที่ต้องชั่งใจให้ดีก่อนใช้เช่นกัน ได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมสูง การกดเงินสดจากบัตรเครดิตมาใช้โดยตรงมีค่าธรรมเนียมที่ต่างจากการรูดจ่ายสินค้าด้วย คือเสียค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด 3% จะถูกคิดทันทีในวันที่มีการกดเงินหรือโอนเงินจากบัตรเครดิตเข้าบัญชี และจะถูกคิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน ดังนั้นการกดเงินจากบัตรเครดิตมาใช้จึงต้องแน่ใจว่าสามารถจ่ายคืนได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะหากล่าช้าหรือไม่สะสางยอดเงินนี้ในเร็ววันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทางการเงินในระยะยาวด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เติบโตขึ้นทุกวัน จนท้ายที่สุดเป็นเรื่องยากที่จะชำระคืนได้ทั้งหมด
  • เครดิตการเงินเสียหาย เมื่อมีการกดเงินจากบัตรเครดิตในจำนวนเงินที่สูง เท่ากับกว่าอัตราส่วนของการใช้บัตรเครดิต (Credit Utilization) ก็จะสูงมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อจำนวนที่ใช้เกือบหรือเทียบเท่าวงเงินที่มี ทำให้คะแนนเครดิต (Credit Score) หรือความน่าเชื่อถือทางการเงินลดน้อยลง เพราะการจำเป็นต้องพึ่งพาเงินจากบัตรเครดิตที่มีค่าธรรมเนียมสูงอาจหมายถึงสถานะทางการเงินที่ไม่มั่นคง รวมทั้งการจัดการเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะถูกนำมาเป็นเหตุผลให้ในการขอสินเชื่อจากธนาคารไม่ได้รับการอนุมัติหรือได้รับอนุมัติในจำนวนที่น้อยลง

ซึ่งอนาคตเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า วันหนึ่งเรามีจำความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน เงินฉุกเฉิน เมื่อไหร่ แต่หนึ่งตัวเลือกของบัตรเครดิต ttb หากต้องการใช้เงินสด ต้องการสภาพคล่องทางการเงิน ณ เวลานั้น บัตรเครดิต ttb so chill บัตรเครดิตกดเงินสดได้ ฟรีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด 3% กดได้ทุกตู้ ATM ทั่วประเทศไทยตลอด 24 ชั่วโมง การชำระจะได้อัตราดอกเบี้ย 9.5% ต่อปี ใน 3 รอบบัญชีแรก สำหรับลูกค้ารายใหม่ นับจากวันที่บัตรได้รับอนุมัติ (รอบบัญชีที่ 4 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 16% ต่อปี) และพิเศษสุด หากชำระตรงเวลา จะได้รับเครดิตเงินคืน 5% จากดอกเบี้ยที่เรียกเก็บ อีกด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว ผลลัพธ์และความเสี่ยงคือสิ่งที่เจ้าของบัตรเครดิตต้องใคร่ครวญและคำนวณอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้พร้อมรับมือและรักษาสุขภาพทางการเงินที่ดีไว้ได้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตได้ที่นี่ https://www.ttbbank.com/th/personal/credit-cards และบริการกดเงินสดผ่อนชิลล์ ชิลล์ ได้ที่นี่ https://www.ttbbank.com/th/personal/credit-cards/service-credit-card/cash-chill-chill ในกรณีที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อรับคำแนะนำจาก ttb ได้ทาง ttb call center 1428