external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

ทำไมรถถึงถูกยึดเมื่อมีหนี้เสียรถยนต์เพิ่มขึ้น เมื่อรถจะถูกยึดทำไงดี

#fintips #รอบรู้เรื่องกู้ยืม #รวมหนี้เป็นก้อนเดียว #รีไฟแนนซ์รถยนต์ #สินเชื่อรถแลกเงิน #ผ่อนรถไม่ไหว
9 ธ.ค. 2567

จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาการเงินที่รุมเร้า โดยเฉพาะผู้ที่กำลังผ่อนรถและมีภาระค่าใช้จ่ายสูง จนอาจนำไปสู่การเกิดหนี้เสียรถยนต์ และเสี่ยงต่อการถูกยึดรถในที่สุด บทความนี้ ttb DRIVE จะพาคุณไปทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่า หนี้เสียรถยนต์คืออะไร? ทำไมเวลาหนี้เสียเพิ่มขึ้น รถยนต์ถึงถูกยึดเป็นจำนวนมาก พร้อมสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังจะมีหนี้เสียรถยนต์ เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจและวางแผนรับมือ รวมถึงแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

หนี้เสีย NPL คืออะไร


หนี้เสีย NPL คืออะไร?

หนี้เสียหรือ NPL (Non-Performing Loan) คือ หนี้ที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระเงินคืนให้กับสถาบันการเงินได้ตามข้อตกลง โดยทั่วไปจะนับเมื่อค้างชำระเกิน 90 วัน สาเหตุมักเกิดจากรายได้ไม่เพียงพอ การบริหารเงินผิดพลาด หรือการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นการเจ็บป่วย การตกงาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งหนี้เสียได้หลายประเภท ได้แก่

  • หนี้เสียบัตรเครดิต : หนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตและไม่สามารถชำระเงินตามกำหนดเวลา
  • สินเชื่อบุคคล : หนี้ที่เกิดจากการกู้เงินเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือเพื่อการลงทุน
  • หนี้เสียรถยนต์ : หนี้ที่เกิดจากการขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่ เพื่อนำเงินซื้อรถยนต์และไม่สามารถชำระเงินตามสัญญา

โดยหนี้เสีย นับว่าเป็นหนี้ที่มีผลกระทบต่อทั้งผู้กู้และธนาคาร ในมุมมองของผู้กู้ การมีหนี้เสียจะทำให้ประวัติการเงินมีปัญหา ส่งผลให้การขอกู้สินเชื่อในอนาคตยากขึ้น เนื่องจากธนาคารจะมองว่าคุณมีความเสี่ยงสูงและอาจปฏิเสธการให้สินเชื่อใหม่ หรือเสนออัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

สำหรับธนาคาร การมีลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด จะทำให้ธนาคารมีหนี้ที่ต้องติดตามและบริหารจัดการเพิ่มขึ้น ทำให้ธนาคารมีความเสี่ยงในการสูญเสียเงินทุน และต้องวางแผนสำรองสำหรับหนี้เสียเพิ่มขึ้น


ทำไมเวลาหนี้เสียเพิ่มขึ้น รถถึงถูกยึดเยอะขึ้น

เมื่อได้เข้าใจกันไปแล้วว่า หนี้เสียคืออะไร? หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า ทำไมเวลาหนี้เสียเพิ่มขึ้น รถยนต์ถึงถูกยึดมากขึ้นตามไปด้วย? คำตอบคือ เนื่องจากรถยนต์เป็นสินทรัพย์มูลค่าสูงที่มีระยะเวลาผ่อนสั้นกว่าที่อยู่อาศัย เมื่อผู้กู้ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้และสร้างหนี้เสียรถยนต์ขึ้นมา ผู้กู้ก็มักเลือกจะยอมให้ยึดรถมากกว่ายอมเสียที่อยู่อาศัย ทำให้เมื่อมีหนี้เสียเพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้มีปริมาณรถที่ถูกยึดเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น หากคุณไม่ต้องการโดนยึดรถ การรีไฟแนนซ์รถจึงเป็นแนวทางที่จะช่วยให้คุณสามารถผ่านพ้นวิกฤตหนี้เสียรถยนต์ไปได้


สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังมีหนี้เสียรถยนต์

เมื่อเริ่มรู้สึกว่าผ่อนรถไม่ไหว จึงควรรีบหาวิธีการแก้ไขปัญหาเพราะจะช่วยให้คุณมีทางเลือกและหาทางออกได้ ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้นานจนกลายเป็นหนี้เสียหรือมียอดค้างชำระ ดังนั้น การสังเกตสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังมีหนี้เสียรถยนต์ จะช่วยให้คุณหาทางรับมือและแก้ไขได้ทันท่วงที

1. มีรถแต่ไม่นำมาใช้งาน

หลายคนน่าจะรู้กันดีว่า การมีรถยนต์สักคัน ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเฉพาะตอนที่ซื้อรถยนต์เท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายระหว่างการใช้รถยนต์อย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าเมื่อค่าใช้จ่ายในการใช้รถสูงเกินไป ทั้งค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน และค่า พ.ร.บ. คนที่มีปัญหาด้านการเงินจึงเลือกที่จะจอดรถไว้และหันไปใช้การเดินทางสาธารณะแทนเพื่อลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ลง ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณชัดเจนว่าสภาพคล่องทางการเงินกำลังมีปัญหา

2. เริ่มจ่ายค่างวดล่าช้า

การจ่ายค่างวดล่าช้าเป็นสัญญาณอันตรายที่ชัดเจนว่า คุณกำลังมีปัญหาด้านการเงิน โดยเฉพาะเมื่อค้างชำระเกิน 1 เดือนขึ้นไป เพราะการกลับมาจ่ายให้ตรงเวลาจะยิ่งยากขึ้น เนื่องจากต้องจ่ายทั้งค่างวดปกติและค่างวดค้างชำระพร้อมค่าปรับไปพร้อม ๆ กัน

3. กู้เงินเพื่อจ่ายค่างวด

การกู้เงินมาจ่ายค่างวดรถเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุและเป็นวิธีที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะแม้ว่าการกู้เงินมาจ่ายค่างวดรถ จะทำให้คุณสามารถจ่ายหนี้ได้ตรงเวลาและรักษาประวัติเครดิตเอาไว้ได้ แต่ก็สามารถทำได้ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น เพราะนอกจากคุณจะต้องผ่อนรถตามปกติแล้ว ยังมีภาระหนี้ก้อนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก ทำให้เกิดเป็นหนี้ซ้ำซ้อนที่จัดการได้ยาก

4. ยอดผ่อนรถต่อเดือนเกิน 40% ของรายได้

การมียอดผ่อนรถต่อเดือนเกิน 40% ของรายได้ นับว่าเป็นสัญญาณเตือนที่สามารถสังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะโดยปกติแล้ว ภาระหนี้รวมทั้งหมดของผู้ที่มีรายได้ประจำ ไม่ควรเกินกว่า 40% ของรายได้ ดังนั้น หากคุณมียอดผ่อนรถต่อเดือนมากกว่า 40% ของรายได้ นั่นหมายความว่า คุณมีความเสี่ยงที่จะผ่อนรถต่อไม่ไหว จนอาจก่อให้เกิดหนี้เสียรถยนต์ขึ้นในอนาคตได้

ยกตัวอย่างเช่น หากมีรายได้ 20,000 บาท แต่ผ่อนรถ 10,000 บาท เท่ากับว่าคุณจะต้องสูงเสียรายได้ถึง 50% ไปกับการผ่อนรถ และแม้ว่าจะยังมีเงินเหลืออยู่ แต่หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือต้องใช้เงินฉุกเฉินขึ้นมา เงิน 50% ที่เหลือก็อาจจไม่เพียงพอ และก่อให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินได้


ผ่อนรถไม่ไหวปล่อยให้รถถูกยึดคุ้มไหม?

หากคุณรู้ตัวแล้วว่า ผ่อนรถต่อไม่ไหว หลายคนน่าจะมีคำถามว่า ผ่อนรถไม่ไหวปล่อยให้รถถูกยึดคุ้มไหม? คำตอบคือ ไม่คุ้ม เพราะแม้ว่าจะปล่อยให้รถถูกยึดไปแล้ว แต่หนี้รถที่มีอยู่ไม่ได้หมดตามไปด้วย คุณยังต้องรับผิดชอบส่วนต่างหลังจากที่ไฟแนนซ์นำรถไปขายทอดตลาด อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตอีกด้วย

ซึ่งระยะเวลาที่รถจะเริ่มโดนยึดไปคือ ต้องค้างชำระค่างวดทั้งหมด 3 เดือนขึ้นไป ดังนั้น หากคุณยังอยากรักษารถไว้ใช้งาน ในระยะเวลา 3 เดือนให้คุณพยายามหาเงินก้อนมาชำระหนี้ให้ทัน หรือหาตัวช่วยในการลดอัตราดอกเบี้ยรถ เพิ่มระยะเวลาผ่อน และอาจมีเงินก้อนเหลือใช้จ่ายเพิ่มเติม คือ “รีไฟแนนซ์รถยนต์” หรือกรณีถ้ามีหนี้หลายก้อนก็สามารถ “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว” กับทีทีบีไดรฟ์ได้


สมัครรถแลกเงิน รวบหนี้ ทีทีบีไดรฟ์ หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงินคลิก ที่นี่ เลย

สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงิน


ขั้นตอนการยึดรถของไฟแนนซ์

หากคุณไม่อยากชำระงวดรถต่อไปแล้ว และเลือกที่จะปล่อยให้รถถูกยึด คุณอาจจะต้องเตรียมรับมือกับปัญหามากมายที่จะตามมามากมาย ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นว่า จะปล่อยให้รถถูกยึด หรือจะหาตัวช่วยในการชำระหนี้รถยนต์อย่างการรีไฟแนนซ์ และการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ttb DRIVE จึงได้รวบรวมขั้นตอนการยึดรถของไฟแนนซ์มาแบ่งปันให้คุณได้ทราบกัน

ถูกติดตามหนี้ (อย่างเป็นธรรมและถูกกฎหมาย)

หลังจากค้างค่างวดรถมาแล้ว 3 งวด หรือ 90 วัน คุณจะถูกติดตามหนี้จากธนาคารหรือสถาบันการเงินอีก 30 วัน ซึ่งการถูกติดตามหนี้ในแต่ละรูปแบบ จะมีค่าบริการ อย่างไรก็ตาม วิธีการติดตามหนี้เหล่านี้ จะเป็นวิธีการที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น การติดตามหนี้โดยการส่งจดหมายทวงถามไปที่บ้าน การโทรหาเพื่อติดตามหนี้จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน การติดต่อผ่านสำนักกฎหมาย และการดำเนินคดีทางศาล

ไฟแนนซ์ดำเนินการร้องต่อศาล

หลังจากที่ผ่านระยะเวลาติดตามหนี้ 30 วันไปแล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะดำเนินการร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลออกหมายบังคับคดี จากนั้นจะมีการนำหมายศาลดังกล่าวมาแต่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยในวันที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมาดำเนินการยึดรถกับลูกหนี้ จะต้องมีการพาเจ้าพนักงานบังคับคดีมายึดทรัพย์ด้วยตัวเอง ถึงจะเป็นการดำเนินการยึดรถได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ไฟแนนซ์ยึดรถเพื่อนำไปขายทอดตลาด

เมื่อครบกำหนด 120 วัน (90 วันค้างชำระ + 30 วันทวงถาม) และผู้กู้ไม่ได้มีการติดต่อเพื่อขอประนอมหนี้ในระหว่างนั้น ธนาคารหรือสถาบันการเงินมีสิทธิ์ยึดรถ โดยต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนยึดรถและนำไปขายทอดตลาด

อย่างไรก็ตาม หากธนาคารหรือสถาบันการเงินสามารถขายรถได้ในราคาสูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ คุณจะมีสิทธิ์ได้รับเงินส่วนต่างคืนมาด้วย แต่หากมูลค่ารถที่ขายไปต่ำกว่ามูลค่าหนี้คงเหลือ คุณจะต้องจ่ายส่วนต่างเหล่านั้นให้กับธนาคารหรือสถาบันการเงินด้วยเช่นกัน


รถจะถูกยึดทําไงดี ไม่อยากติดแบล็กลิสต์ต้องรู้

ถ้าคุณกำลังเผชิญปัญหาผ่อนรถไม่ไหวและไม่อยากให้รถถูกยึด ยังมีทางออกที่จะช่วยให้คุณรักษารถและเครดิตทางการเงินเอาไว้ได้ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีการแก้ปัญหาที่จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกยึดรถและไม่ต้องติดแบล็กลิสต์มีอะไรบ้าง

1. เจรจากับธนาคารหรือสถาบันการเงิน

ในปัจจุบัน ธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่ง มีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาการชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพักชำระหนี้ชั่วคราว การให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ย เป็นต้น ดังนั้น หากรู้สึกว่ากำลังผ่อนรถไม่ไหวและไม่อยากให้รถถูกยึด คุณควรจะเข้ามาติดต่อกับธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อเจรจาทันทีที่เริ่มมีปัญหา

2. รีไฟแนนซ์รถ

การรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ผ่อนน้อยลง คือ การนำยอดหนี้ที่เหลืออยู่ มาขยายระยะเวลาผ่อนให้นานขึ้น ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง ดังนั้นเมื่อเริ่มมีปัญหาก็ควรจะเข้าไปติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อขอรีไฟแนนซ์รถยนต์ และลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนลง โดยที่คุณยังสามารถมีรถไว้ใช้งานได้และไม่ส่ผลเสียต่อประวัติเครดิต


รีไฟแนนซ์รถยนต์ ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงินคลิก ที่นี่ เลย

รีไฟแนนซ์รถยนต์ ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงิน

3. ขาย – เปลี่ยนสัญญา ขายดาวน์

สำหรับวิธีสุดท้าย เป็นวิธีที่หลายคนยังคงสงสัยอยู่ว่า เราสามารถขายรถติดไฟแนนซ์ได้ไหม? คำตอบคือ สามารถขายต่อได้ ซึ่งจะเป็นการขายรถต่อโดยเปลี่ยนสัญญา เป็นวิธีที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ไม่อยากแบกรับภาระหนี้อีกต่อไป โดยเงินที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับราคาตลาด ณ ตอนนั้นว่า มากหรือน้อยกว่ายอดหนี้ที่เหลือ

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ขายรถได้แล้ว จะต้องนำเงินส่วนที่ได้มาปิดยอดไฟแนนซ์ที่เหลืออยู่ก่อน ถึงจะเป็นการปิดการขายอย่างสมบูรณ์ และหากยอดขายที่ได้ไม่สามารถปิดไฟแนนซ์ได้ทั้งหมด ก็อาจจะต้องมีการตกลงกับผู้ซื้อ เพื่อเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นการขายดาวน์ และให้ผู้ซื้อไปผ่อนต่อในเงื่อนไขเดิมแทน


รถโดนยึดอยากได้คืนต้องทำอย่างไร?

หากต้องการไถ่ถอนรถคืน คุณจะต้องหาเงินมาชำระค่างวดค้างทั้งหมดพร้อมค่าติดตามทวงถาม นอกจากนี้ยังควรเจรจากับไฟแนนซ์โดยตรงเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม โดยอาจจะขอผ่อนผันการชำระหรือปรับโครงสร้างหนี้


เคยคืนรถ หรือเคยโดนยึดรถ ออกรถใหม่ได้ไหม?

การคืนรถ ไม่ว่าจะเป็นการคืนรถด้วยตัวเอง หรือถูกยึดรถ จะส่งผลให้มีประวัติการชำระล่าช้าเกิน 90 วันในเครดิตบูโร ซึ่งจะคงอยู่ในระบบนาน 3 ปี ในช่วงนี้โอกาสได้รับอนุมัติสินเชื่อใหม่แทบเป็นไปไม่ได้ ต้องรอให้พ้นระยะเวลาดังกล่าวและชำระหนี้เดิมให้หมดก่อน จึงจะสามารถขอสินเชื่อใหม่ได้


สรุปบทความ

หนี้เสียรถยนต์เป็นปัญหาร้ายแรงที่ส่งผลกระทบระยะยาวต่อสถานะทางการเงิน การรู้เท่าทันสัญญาณเตือนและรีบแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันการถูกยึดรถและผลกระทบต่อเครดิต หากเริ่มมีปัญหา ควรรีบปรึกษาสถาบันการเงินเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม เช่น การรีไฟแนนซ์ หรือปรับโครงสร้างหนี้ ดีกว่าปล่อยให้ถูกยึดรถซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาว

และสำหรับคนที่ต้องการออกรถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์มือสอง สามารถขอสินเชื่อกับ ttb DRIVE ได้ เพราะเรามีบริการสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ที่ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินรถ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวภายใน 30 นาที (เมื่อเอกสารครบ) ดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่แบบคงที่ ชำระค่างวดเท่ากันตลอดอายุสัญญา ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน

นอกจากนี้สำหรับคนที่กำลังมองหาเงินก้อนแบบเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เรายังมีบริการสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของแต่ละคน


สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงินคลิก ที่นี่ เลย

สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงิน

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการคำปรึกษาด้านสินเชื่อ ttb DRIVE มีผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อที่พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
สินเชื่อรถยนต์ใหม่ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.21% - 10.00% ต่อปี
สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 7.48% - 15.00% ต่อปี
สินเชื่อรถแลกเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.93% - 23.00% ต่อปี