จากสถานการณ์โควิด-19 ที่อยู่กับเรามาร่วม 2 ปีแล้ว เราได้รวบรวมประสบการณ์จากผู้ประกอบธุรกิจ กูรู ผู้เชี่ยวชาญด้านเทรนด์การตลาด ที่เคยมาร่วมเสวนากับ ttb จับแนวโน้มทางธุรกิจที่กำลังมาถึงในอนาคต เพื่อให้พวกเราเกาะกระแส และเตรียมตัวก้าวให้ทันเทรนด์ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสทางธุรกิจ บทความนี้เราหยิบยกเรื่องราวเมื่อคราวที่เพจไปให้ถึง 100ล้าน ได้เผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ SMEx.Business เมื่อปลายปีที่แล้วที่พูดถึงงานเสวนาออนไลน์ของเรา ซึ่งเนื้อหาจากการเสวนาในครั้งนั้นยังคงใช้ได้จริงกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้
บทสรุปที่ SME ต้องรู้หลังโควิด-19
เมื่อโควิด-19 เกิดขึ้น คนทำธุรกิจต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ ไม่ว่าบริษัทเล็กหรือใหญ่ได้รับผลกระทบกันทั้งหมด
เทรนด์ในยุคหลังโควิด และการเอาชนะตลาดในยุคโควิด-19 ที่คนทำ SME ต้องรู้ เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลงไปหลังจากนี้ โดยมีบริหารระดับสูงของธนาคารคุณเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี (ttb) ดำเนินรายการตลอดการเสวนาด้วยตนเองในหัวข้อ “SME ต้องรู้ สู้โควิด-19” เพื่อลูกค้าได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญจริงและแนวคิดที่นำไปใช้ได้จริง
และในครั้งนี้ ทางธนาคารได้เชิญเจ้าของธุรกิจตัวจริงอย่างคุณอนุรักษ์ เลิศรัตนชัยกิจ (คุณหนุ่ม) กรรมการ บจก. โฮมเพ้นท์ HomePaint Outlet ศูนย์สีราคาขายส่ง ซึ่งได้ปรับตัวมองหาเทรนด์ จนพัฒนาธุรกิจฟันฝ่ามาในทุกสถานการณ์ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงโควิดที่ผ่านมาได้สำเร็จ แถมยังได้วางรากฐานและมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย
พร้อมทั้งได้เชิญผู้เชี่ยวชาญตัวจริงทางด้านการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ คุณเอกบดินทร์ เด่นสุธรรม (คุณเอก) ผู้บริหาร บจก. เด็นส์ ว็อท มาพูดคุยถึงเทรนด์ที่น่าสนใจในสถานการณ์นี้ และได้ผู้บริหารระดับสูง คุณเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต หรือทีทีบี (ttb) มาเป็นผู้ดำเนินรายการ เรียกได้ว่า “ครบทุกแง่มุม ทั้งในแง่ประสบการณ์ เทรนด์ กลยุทธ์” เพื่อสิ่งที่ต้องรู้ ในยุคโควิด
เทรนด์ผู้บริโภคกำลังเปลี่ยน อย่างรวดเร็ว แบ่งเป็นระยะสั้น และระยะยาว
คุณเอกเล่าว่า จากสถานการณ์ที่เพิ่งผ่านมาการเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคกระทบแบบวงกว้าง โดยผลสำรวจเทรนด์ของเด็นส์ ว็อทในช่วงโควิดนี้พบว่า ผู้คนมากกว่า 60% เชื่อว่าเศรษฐกิจจะยังไม่เหมือนเดิม และจากการสำรวจผู้คนส่วนใหญ่ หรือ 75 % มีความกังวลด้านสภาพทางการเงิน และ อีกทั้งผู้คนจำนวนมากถึง 95% ได้เริ่มปรับตัวรับพฤติกรรมใหม่ ๆ เรียบร้อยแล้ว
โดยเทรนด์ในระยะสั้น คือ ผู้บริโภคหันมาสนใจเล่นแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ในโทรศัพท์มือถือมากขึ้น เพื่อหากิจกรรมทำในยามว่างเช่นการฟังเพลง เล่มเกมส์หรือแม้กระทั่งการพูดคุยกับคนอื่น แต่ที่คาดว่าเป็นระยะสั้น เพราะตอนนี้ผู้คนเริ่มออกจากบ้าน
และสำหรับเทรนด์ระยะยาวคือ ลูกค้าจะเช็คเปรียบเทียบราคามากขึ้น เป็น Smart shopper มีความต้องการที่จะรู้สึกฉลาดเลือกมากขึ้น การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าจะทำให้เข้าใจว่าควรเสนอขายหรือมอบอะไรให้กับลูกค้าในจังหวะเวลาที่เหมาะสมและอะไรจะสร้างความประทับใจหรือดึงดูดให้ลูกค้าหน้าใหม่ ๆ มาเป็นลูกค้าตัวจริงได้ เช่น การมอบส่วนลด การให้แต้ม ฯลฯ
คุณหนุ่มเจ้าของธุรกิจได้เสริมว่า ปกติเมื่อก่อนผมขายแค่หน้าร้าน แต่ตอนนี้มีไลฟ์สด ลูกค้าก็จะกดเข้ามาดูบางทีก็แค่พูดคุยกับพนักงานขายสินค้า บางคนก็มาถามสินค้า และบางคนก็มาเอาส่วนลด ด้วยเทรนด์พฤติกรรมใหม่นี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้ขายสินค้าได้
สิ่งที่มาแน่ ๆ คือ “ออนไลน์” ในตอนนี้ทุกอุตสาหกรรมออนไลน์โตมากกว่า 10%
ในตอนนี้หากทำธุรกิจยังไงก็ต้องมีช่องทางออนไลน์ช่วย เพราะนี่คือยุคที่ออนไลน์กำลังโตและด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมาทำให้ออนไลน์ทุกอุตสาหกรรมโตกว่า 10% คุณเอกได้แชร์เล่า ให้ฟังอีกว่า ด้วยพฤติกรรมลูกค้าที่ไม่ใช่แค่เห็นสินค้าหรือมาหน้าร้านแล้วจบ ลูกค้าจะพยายามหาข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มในออนไลน์ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ นี่จึงเป็นโอกาสของ SME ที่ต้องทำช่องทางออนไลน์มาไว้รองรับกับพฤติกรรมใหม่ ๆ นี้
คุณหนุ่ม เจ้าของธุรกิจได้เสริมว่า เมื่อก่อนร้านของคุณหนุ่มเองช่องทางออนไลน์ เช่น LINE, Facebook เป็นแค่ตัวเลือก คือมีไว้เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรจริงจัง เพราะยอดขายก็มาจากหน้าร้านตลอดอยู่แล้ว ก็เลยมีแค่เหมือนว่าเป็นช่องทางสำรองไว้ ไม่ได้มีทีมงานดูแลจริงจัง แต่พอเริ่มมีเหตุการณ์ที่ หน้าร้านต้องปิด ผู้คนต่างอยู่กับบ้าน คนไปไหนไม่ได้ กลับมาพบว่า “ช่องทางออนไลน์” ที่ทำไว้ไม่ได้ใช้จริงจัง กลับเป็นช่องทางที่ช่วยให้ยอดขายยังไปได้และใช้ต้นทุนต่ำกว่ามาก จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับพฤติกรรมใหม่ ๆ ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้ามาได้
คุณเสนธิป ได้ร่วมแชร์ให้ฟังอีกว่า “SME ไม่ควรจับลูกค้ากลุ่มเดียว” คือควรมีทั้งลูกค้าเดิม คือคนที่คุยผ่านทางโทรศัพท์ปกติ และ ขยายฐานลูกค้าใหม่ก็อาจจะเป็นคนที่คุยผ่านไลน์ ซึ่งมีโอกาสสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น ยิ่งในช่วงนี้ออนไลน์มีบทบาทมาก SME ควรจะมีช่องทางออนไลน์และเริ่มก้าวเข้าอย่างจริงจัง
จากสถานการณ์ครั้งนี้ได้บทเรียนอะไรบ้าง ?
สำหรับคุณหนุ่มที่เป็นเจ้าของธุรกิจ บทเรียนที่ได้คือ ได้มองเห็นถึงประโยชน์ของการลองผิดลองถูก ก่อนหน้านี้เวลาจะเปิดสาขาใหม่ ๆ เราต้องมันจะมีความเสี่ยงสูง การลงทุนแต่ละครั้ง เราจะพลาดไม่ได้ แต่พอตอนนี้เราเข้าสู่การออนไลน์ มันทำให้เรามีโอกาสผิดพลาดได้ ลองผิดลองถูกได้ ซึ่งทำให้เราได้วิธีการ ได้ช่องทางใหม่ ๆ พอมายุคนี้ได้เจอช่องทางออนไลน์ การลองผิดถูกจึงง่ายมากขึ้น ทำให้เห็นผลเร็วขึ้นและใช้งบน้อยกว่ามาก อย่างช่วงแรก ๆ ก็อาจจะยังไม่ค่อยเห็นผล แต่พอมาเจอช่วงสถานการณ์โควิด-19นี้ ช่วงที่คนต้องหยุดอยู่บ้าน หน้าร้านต้องหยุด ช่องทางอออนไลน์กลับมาเป็นช่องทางหลักที่ทำยอดขายให้ได้ ดังนั้นบทเรียนที่ได้คือยิ่งได้ลองผิดลองถูกเยอะเท่าไร ก็จะได้การเรียนรู้และเห็นโอกาสมากขึ้น และยิ่งออนไลน์ที่ลงทุนไม่มาก ก็ยิ่งได้เปรียบ เท่านั้นครับ
คุณเอก ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเทรนด์ ได้ตอบคำถามนี้อย่างน่าสนใจคือ จากสถานการณ์ครั้งนี้ได้บทเรียนว่า “ไม่มีสูตรสำเร็จ ในการทำธุรกิจ เรายังคงต้องคิดกันต่อไปและการมีพาร์ทเนอร์ก็ช่วยได้ เราอาจจะไม่ต้องทำเองคนเดียวทั้งหมด เพราะจะมีต้นทุนที่สูงมาก เน้นไปในสิ่งที่ถนัด จับในสิ่งที่เราเชี่ยวชาญที่สุด และหาพาร์ทเนอร์มาส่งเสริมกัน ก็จะช่วยให้การทำธุรกิจนั้นง่ายขึ้น พยายามโตไปกับลูกค้า ยอดขายก็จะโตไปได้เอง
คุณเสนธิป ได้ย้ำถึงบทเรียนของการทำธุรกิจว่า ควรขยายช่องทางไปให้ได้มากที่สุด ช่องทางออนไลน์ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
สำหรับเราแล้ว ทราบดีว่าในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีธุรกิจ SME เติบโตขึ้นมาอีกมาก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี และทางธนาคารก็คงจะต้องพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถสนับสนุน SME และเจ้าของธุรกิจ ให้สามารถเข้าถึงทั้งเงินทุนได้ รวมถึงการจัดงานเพื่อให้ได้คอนเนคชั่น และความรู้เช่นงาน SME Exclusive Talk ในครั้งนี้
สรุป “สิ่งที่ SME ต้องรู้” มันคือการปรับตัวและก้าวให้ทันเทรนด์ลูกค้า ในตอนนี้ ออนไลน์คือคำตอบ
และในขณะเดียวกันลูกค้ากลุ่มเก่าที่เป็นออฟไลน์ ก็ยังคงต้องไม่ละทิ้ง ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือ “ความต้องการยังคงมีอยู่” แต่ใช้ช่องทางให้ถูก ดูตามพฤติกรรม เพื่อความอยู่รอด และก้าวต่อไป เติบโตอย่างยั่งยืน
ทำให้ง่ายเข้าไว้ เน้นไปที่จุดแข็งขึ้นมาแทนเลย
ทุกบริษัทล้วนมีจุดอ่อน ถ้าไปตามปิดทั้งหมดนั่นคือแผนแห่งความสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แผนแห่งการทำยอดขาย การทำยอดขาย ต้องเน้นไปที่จุดเด่น ยิ่งในช่วงเวลาสำคัญอย่างในช่วงที่ผ่านมา ยิ่งต้องโชว์แสดงจุดเด่นให้ชัดเจน แสดงออกไปให้ชัดเจนและง่ายที่สุด ไม่ต้องยืดยาว ลดขั้นตอนต่าง ๆ ออกไป เช่น ให้พนักงานไลฟ์สดขายของ พอมีคนซื้อก็ใส่กล่องมันตรงนั้นเลยและเตรียมไปส่ง พอลูกค้าเห็นของใส่กล่องแล้ว เร็วดีจัง
ประสบการณ์ของลูกค้าที่มีกับธุรกิจของเราต้องดี สร้างความประทับใจได้ เพื่อสร้างโอกาสให้ลูกค้ากลับมาอีกครั้ง รวมถึงการบอกต่อ ซึ่งลูกค้าปัจจุบันต้องการอะไรที่รวดเร็ว ทันใจ น่าประหลาดใจ สร้างความประทับใจได้ พอประทับใจก็จะมีโอกาสกลับมาซื้ออีก หรือการเตรียมของไว้เซอร์ไพรส์เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นผลดีเช่นกัน ลูกค้าจะชอบและบอกต่อให้ด้วยในบางครั้ง ยุคนี้คนใจร้อน ชินกับอะไรที่มันรวดเร็วและน่าประหลาดใจ การปรับตัวให้ง่ายเข้าไว้ ยังใช้ได้ตลอดและช่วยให้พลิกตัวทันเมื่อเจอทั้งวิกฤตและโอกาส
ที่มา:
- งานสัมมนาออนไลน์ “SME เข้าถึงเทรนด์ เห็นจุดต่าง สร้างกลยุทธ์ใหม่” โดย ttb
- SMEx.Business