การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันที่ต้นทุนสูงขึ้นเรื่อย ๆ และการแข่งขันในตลาดก็รุนแรงในทุกช่องทาง ยิ่งทำให้กำไรยิ่งบางลงทุกที ผู้ประกอบการ SME จะทำอย่างไรกันดี finbiz by ttb ขอนำเนื้อหาตอนหนึ่งจากงานสัมมนา “finbiz industry hack 2023 ติดอาวุธ…สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” ที่มีคุณสุวิดา จิรประเสริฐกุล Head of SME Business Development LINE ประเทศไทย มาเล่าถึงโอกาสและเครื่องมือการแข่งขันในตลาด และคุณกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าธุรกรรมทางการเงินภายในประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต ที่ได้กล่าวถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น กลยุทธ์และเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยจัดการในด้านนี้
1. Omni-Channel ผสมผสานทุกช่องทางเป็นหนึ่งเดียว สร้างโอกาสการแข่งขัน
ในยุคก่อนหน้านี้เราอาจจะเคยได้ยิน คำว่า Multi-Channel ซึ่งหมายถึงการใช้ช่องทางการตลาดหรือการขายที่หลากหลาย แต่ในยุคนี้ต้องขยับมาเป็น Omni-Channel ซึ่งหมายถึงการใช้ช่องทางที่หลากหลาย โดยในแต่ละช่องทางสามารถประสานกันได้อย่างไร้ตะเข็บ ทำให้ผู้บริโภคสามารถศึกษาข้อมูลในทุกช่องทาง เปรียบเทียบจากทุกมิติ และมาจบการซื้อขายแบบเรียบ ๆ เนียน ๆ ในช่องทางใดก็ได้ ไม่ว่าจะออฟไลน์ ออนไลน์ บนแพลตฟอร์มใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น e-Market Place บนโซเชียลมีเดีย หรืออะไรก็ตาม
2. แบรนด์ต้องสะสมแฟนคลับ...สร้างความได้เปรียบ
การตลาดในยุคนี้ที่ผู้บริโภคต่างเปลี่ยนใจได้งาน และคำว่าจงรักภักดีในแบรนด์ ไม่มีอยู่จริง ผู้บริโภคพร้อมที่จะทดลองแบรนด์ใหม่ ๆ ได้เสมอ แม้ว่าจะเคยมีแบรนด์ในดวงใจมาก่อน ดังนั้น ธุรกิจจะละเลยการสร้างแบรนด์ไม่ได้ แม้จะบอกว่า “จงรักภักดีในแบรนด์ ไม่มีอยู่จริง” แต่ผู้ประกอบการก็ต้องทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ของเรามากที่สุด นอกจากจะอยู่ในดวงใจของกลุ่มที่ชอบแบรนด์เราอยู่แล้ว ก็ยังสร้างโอกาสให้คนที่เคยชอบแบรนด์อื่นให้เริ่มปันใจมาให้แบรนด์ด้วย
3.อย่ามองข้าม...การบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุนได้ไม่น้อย
แม้ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Product) จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2023 มูลค่าตลาดทะลุ 1 ล้านล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องที่ 6.1% จากผลของราคาที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ความท้าทายของผู้ประกอบการรายเล็กคือ “ต้นทุน” ที่สูงกว่ารายใหญ่ ทั้งในกลุ่มของกลุ่มผู้ผลิต และกลุ่มผู้ค้าส่ง โดยในกลุ่มของผู้ผลิต รายใหญ่จะมีกำไรอยู่ที่ 8.72% ในขณะที่รายเล็กมีกำไรอยู่ที่ 4.43% ซึ่งนั่นหมายถึงกำไรของผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นเท่าตัวของรายเล็กเลยทีเดียว ซึ่งต้นทุนจากการผลิตเป็นสิ่งที่แทบจะเลี่ยงไม่ได้แต่ถ้าสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงทุกๆ 10% จะมีผลต่อการเพิ่มกำไรสุทธิ 1-2%
Chat Commerce เครื่องมือเสริมกลยุทธ์ Omni-Channel ของยุคนี้
หนึ่งในเครื่องมือออนไลน์ที่มีศักยภาพและเป็นช่องทางที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทำตลาดออนไลน์ได้ง่ายๆ ในปีนี้คงหนีไม่พ้น LINE ที่คุณสุวิดา จิรประเสริฐกุล จาก LINE ประเทศไทย ได้มาบอกเล่าถึง โซลูชั่นใหม่ล่าสุดจาก LINE ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่อยากมีช่องทางสื่อสาร สร้างแบรนด์ที่เข้าถึงตัวลูกค้าได้ พร้อมปิดการขายได้อย่างครบครัน โดยไม่ต้องอาศัยช่องทางอื่นๆ เป็นตัวกลาง
เพราะปัจจุบันลูกค้าต้องการสิ่งที่มากขึ้นจากการมี Omni-Channel ทำให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีหลายช่องทางในการเข้าถึงลูกค้า แต่ปัญหาคือข้อมูลของลูกค้าก็อยู่กระจัดกระจายตามไปด้วย โดยพื้นฐานนิสัยของผู้บริโภคคนไทยที่ชอบแชท และทุกครั้งที่เกิดการแชท จะมีข้อมูล (Data) เกิดขึ้น แอปพลิเคชัน LINE ที่มีผู้ใช้งานคนไทยเกินกว่า 53 ล้านราย จึงได้สร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่เพื่อการทำธุรกิจแบบ Chat Commerce อย่างครบวงจร ส่งเสริมกลยุทธ์ Omni-channel ให้เกิดขึ้นภายในบนระบบนิเวศน์ของ LINE โดยเชื่อมโยงการใช้งาน 3 เครื่องมือหลัก ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถปรับเปลี่ยนการทำตลาดได้ง่าย หลากหลาย ด้วยต้นทุนที่คุ้มค่า และที่สำคัญ ตอบโจทย์ 3 More Omni-Channel ที่ลูกค้ามองหาได้อย่างลงตัว ประกอบด้วย อย่าง LINE Official Account (LINE OA) สร้างและรักษาฐานลูกค้าประจำ เป็นเหมือนช่องทางส่วนตัวของแบรนด์ที่ผู้ประกอบการสามารถสร้างคอนเทนต์ สร้างโปรโมชั่นที่รู้ใจ แก้ปัญหา เจาะกลุ่มเป้าหมาย LINE Ads ค้นหาลูกค้าที่ใช่ นำข้อมูลกลุ่มเป้าหมายลงโฆษณา หาลูกค้าใหม่มาเติมเต็ม LINE SHOPPING ปิดการขายง่ายขึ้น จบที่ร้านค้าพื้นที่ตรงนี้เป็นอาณาจักรของแบรนด์เราเพียงคนเดียว
“ถ้าผู้ประกอบการเรียนรู้การทำ Channel ของธุรกิจให้แข็งแกร่ง สะสมแฟนคลับของแบรนด์ตัวเอง เชื่อมโยงข้อมูลที่มีทุกจุดใน LINE มาใช้ประโยชน์แบบ Cross sharing data-business ก็จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจ เพิ่มอัตราการคลิกโฆษณาได้ถึง 1.5 เท่า”
เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการต้นทุนการดำเนินงาน ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม
จากที่กล่าวไปตอนต้น ผู้ประกอบการรายเล็กจะมีกำไรน้อยกว่ารายใหญ่เป็นเท่าตัว ในขณะที่ต้นทุนการผลิตนั้นสูงกว่าอีกด้วย คุณกนกพร จูฑา จากทีเอ็มบีธนชาต ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ต้นทุนของผู้ประกอบการรายเล็กอยู่ที่ 75% ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่อยู่ที่ 70% ดังนั้นการบริหารต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเงินด้วยดิจิทัลโซลูชัน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องพิจารณา ยิ่งในปีนี้ยังมีแรงกดดันในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่การปรับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคนั้นทำได้ยาก การบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานจึงต้องมีประสิทธิภาพที่สุด ทีทีบีจึงได้พัฒนาดิจิทัลโซลูชันที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ttb SME one bank, ttb smart shop, ttb quick pay และ ttb payroll plus ที่แต่ละผลิตภัณฑ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน
“ต้นทุนการผลิตที่มีแต่ปรับขึ้น ส่งผลต่อพื้นที่ในการทำกำไร กลไกสำคัญในการเพิ่มกำไรให้ธุรกิจ คือการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด จากการศึกษาผู้ประกอบการในกลุ่ม Consumer product พบว่าถ้าสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงทุกๆ 10% จะมีผลต่อการเพิ่มกำไรสุทธิ 1-2%”
บัญชีธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอีวันแบงก์ (ttb sme one bank)
บัญชีธุรกิจที่ให้ลูกค้าเอสเอ็มอี ที่เน้นการประหยัดต้นทุน สามารถทำรายการ โอน รับ จ่าย ข้ามธนาคาร ข้ามเขตได้ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่จำกัดจำนวนเงิน เมื่อทำธุรกรรมผ่าน อินเทอร์เน็ต หรือโมบายแบงก์กิ้ง ทีทีบี บิสสิเนสวัน โดยทำธุรกรรมได้ทุกที่ ทุกเวลา ช่วยลดทั้งค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลาโดยไม่ต้องเดินทางไปยังสาขา
ทีทีบี บิสสิเนสวัน (ttb business one) ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ
ผู้ช่วยทางการเงินเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีทุกประเภทธุรกิจ ไม่ว่าความต้องการทางธุรกิจจะเป็นอย่างไรก็สามารถบริหารจัดการทุกอย่างได้ในที่เดียว ที่มีจุดทั้งด้านการบริหารจัดการมีรายงานข้อมูลสรุปในรูปแบบของ Dashboard ทั้งข้อมูลการเงินในบัญชี ข้อมูล OD Balance ข้อมูลรายการขออนุมัติ ข้อมูลผู้รับเงิน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนระบบ ttb business one
แอปพลิเคชันจัดการร้านค้า ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop)
ตัวช่วยสำหรับเจ้าของธุรกิจในการจัดการร้านค้า และรับชำระรับเงินได้ง่าย ๆ ผ่าน QR Code จากทุกธนาคาร เงินเข้าบัญชีทันที พร้อมการแจ้งเตือนเมื่อเงินเข้า หมดกังวลเรื่องการถือหรือเก็บเงินสด อีกทั้งสามารถจัดการสิทธิ์การใช้งานและดูแลร้านค้าให้แก่พนักงานได้
บริการจ่ายเงินเดือน และดูแลสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส (ttb payroll plus)
บริการจ่ายเงินเดือนพนักงานด้วยระบบอินเทอร์เน็ต หรือโมบายแบงก์กิ้ง ทีทีบี บิสสิเนสวัน ที่ทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในส่วนของการ จ่ายเงินเดือนพนักงาน เบี้ยเลี้ยง และค่าจ้างต่าง ๆ โดยให้อิสระกับพนักงานในการ เลือกรับเงินเดือนผ่านบัญชีธนาคารใดก็ได้ พร้อมด้วย 4 บริการเสริมพิเศษ คือ ประโยชน์ของพนักงาน (Employee Benefit) ประกันกลุ่ม (Group Insurance) การบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และ บริหารจัดการ งานบุคคลแบบดิจิทัล (Digital HRM)
ที่มา :
- งานสัมมนา “finbiz industry hack 2023 ติดอาวุธ…สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” ttb
finbiz by ttb
โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
พร้อมองค์ความรู้ ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ปรับตัวตอบโจทย์ยุคดิจิทัล พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME