external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

Suggest Keywords

  • ห้องข่าว
  • เกี่ยวกับ ทีทีบี
  • ความยั่งยืน
  • นักลงทุนสัมพันธ์
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ
  • ร่วมงานกับเรา
  • ติดต่อธนาคาร
ttb-logo
เมนู
  • ลูกค้าบุคคล
  • ลูกค้าเอสเอ็มอี
  • ลูกค้าธุรกิจ
  • ทีทีบี รีเซิร์ฟ
  • โปรโมชันและสิทธิพิเศษ
  • อัตราและค่าธรรมเนียม
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ ttb business
    ttb business onettb business click
  • สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
  • บัญชีและธุรกรรมภายในประเทศ
  • บัญชีและธุรกรรมระหว่างประเทศ
  • ดิจิทัลแบงก์กิ้ง และบริการอื่นๆ
  • finbiz เสริมความรู้ SME
  • สนใจสมัครผลิตภัณฑ์
ค้นหาจุดให้บริการ
หน้าหลัก ทีทีบี
ลูกค้าบุคคล
หน้าหลักลูกค้าบุคคล
เคล็ดลับการเงิน
บัญชีและบัตรเดบิต
บัตรเครดิต
สินเชื่อ
ประกัน
ลงทุน
บัญชีเงินเดือน ทีทีบี
ดิจิทัลแบงก์กิ้ง
บริการอื่น ๆ
ลูกค้าเอสเอ็มอี
หน้าหลักลูกค้าเอสเอ็มอี นิติบุคคล
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
บัญชีและธุรกรรมภายในประเทศ
บัญชีและธุรกรรมระหว่างประเทศ
ดิจิทัลแบงก์กิ้ง และบริการอื่นๆ
finbiz เสริมความรู้ SME
สนใจสมัครผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ลูกค้าเอสเอ็มอี บุคคลธรรมดา
เข้าสู่ระบบ
ttb business one
ttb business click
ลูกค้าธุรกิจ
หน้าหลักลูกค้าธุรกิจ
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ
บัญชีและธุรกรรมภายในประเทศ
บัญชีและธุรกรรมระหว่างประเทศ
ดิจิทัลแบงก์กิ้ง และบริการอื่นๆ
เข้าสู่ระบบ
ttb business one
ttb business click
ทีทีบี รีเซิร์ฟ
หน้าหลักทีทีบี รีเซิร์ฟ
เอกสิทธิ์พิเศษ
โปรโมชันพิเศษ
อัปเดตการลงทุน
โซลูชันการลงทุนและสกุลเงินต่างประเทศ
โปรโมชันและสิทธิพิเศษ
หน้าหลักโปรโมชันและสิทธิพิเศษ
บัญชี
บัตรเครดิต
สินเชื่อ
ประกัน
ลงทุน
บัญชีเงินเดือน ทีทีบี
ทีทีบี รีเซิร์ฟ
ttb rewards plus
อัตราและค่าธรรมเนียม
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมสินเชื่อรถยนต์
ค่าธรรมเนียมอื่นๆ
Forward Points
ห้องข่าว
หน้าหลักห้องข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวลูกค้าธุรกิจ
ข่าวศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ
เกี่ยวกับ ทีทีบี
หน้าหลักเกี่ยวกับ ทีทีบี
รู้จัก ทีทีบี
ประวัติธนาคาร
ลักษณะประกอบธุรกิจ
โครงสร้างและการจัดการ
บรรษัทภิบาล
การบริหารความเสี่ยง
ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์
ความยั่งยืน
หน้าหลักความยั่งยืน
แนวทางความยั่งยืน
ความยั่งยืนทางธุรกิจ
ความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อม
ความยั่งยืนด้านสังคม
บรรษัทภิบาลและจริยธรรมทางธุรกิจ
นโยบายและการรายงาน
นักลงทุนสัมพันธ์
หน้าหลักนักลงทุนสัมพันธ์
ข้อมูลทางด้านการเงิน
ข้อมูลนำเสนอ
ข้อมูลหลักทรัพย์
ข้อมูลตราสารหนี้และอันดับความน่าเชื่อถือ
ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์และนักลงทุน
บริการผู้ถือหุ้น
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ
ร่วมงานกับเรา
หน้าหลักร่วมงานกับเรา
เหตุผลที่ควรร่วมงานกับ ttb
เราทำงานกันอย่างไร
ติดต่อเรา
นโยบายความเป็นส่วนตัวผู้สมัครงาน
ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
ติดต่อธนาคาร

Climate Change ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่เป็นประเด็นสำคัญทางธุรกิจ

12 ม.ค. 2567

บทความในครั้งนี้ finbiz by ttb รวบรวมข้อมูลในประเด็นเรื่อง Climate Change ที่เข้ามาเป็นประเด็นสำคัญทางธุรกิจ และยังเป็นเรื่องราวที่เร่งด่วนที่ทุกธุรกิจต้องให้ความใส่ใจอีกด้วยเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change เป็นหนึ่งในปัญหาเร่งด่วนของโลกในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม และสังคมอย่างรุนแรงแน่นอนในอนาคต


ในฐานะที่ภาคธุรกิจเป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจโลก มีส่วนสำคัญในของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนี้ จำเป็นต้องเคลื่อนไหว และปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจากปัญหา Climate Change ไม่เพียงว่าหากภาคธุรกิจเคลื่อนไหวจะช่วยลดปัญหานี้ได้เท่านั้น แต่ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ก็เป็นตัวเร่งให้ธุรกิจต้องให้ความใส่ใจกับการเคลื่อนไหวเพื่อลดปัญหา Climate change ในครั้งนี้ โดย finbiz by ttb จะขอรวบรวม 4 ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ Climate Change เป็นประเด็นสำคัญทางธุรกิจ


1. ธุรกิจต้องอยากเป็นบริษัทที่รักษ์โลก


ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจจึงที่ต้องการการเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสรักษ์โลก โดยการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งในด้านการผลิต กระบวนการทำงาน และผลิตภัณฑ์และบริการที่นำเสนอ ตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจใช้พลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ ฯลฯ เพื่อใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ตั้งแต่ผลิตไปจนก่อนส่งถึงมือลูกค้า
  • ธุรกิจลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก รวมไปถึงลดการใช้ทรัพยากรของบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ การลดขนาดของบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงการปรับขนาดของบรรจุภัณฑ์เพื่อลดจำนวนเที่ยวของการขนส่ง
  • ธุรกิจให้ความสำคัญกับการจัดการของเสีย การลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด หรือใช้ทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากจำเป็นต้องมีของเสีย จะต้องสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ หรือเข้าสู่กระบวนการแล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ รวมไปถึงการบำบัดให้สามารถกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย เป็นต้น


และจากผลสำรวจของ PwC, Deloitte ในปี 2023 พบว่า ผู้บริโภคกว่า 64% ยินดีจ่ายเงินเพิ่มสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นการถนอมธรรมชาติสิ่งแวดล้อมเอาไว้และยังสามารถเพิ่มมูลค่าของแบรนด์และธุรกิจได้อีกด้วย


2. ธุรกิจต้องการทำหรือมีธุรกิจที่ส่งออกไปยังต่างประเทศ


จากการคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกทำให้หลายประเทศได้ออกมาตรการเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตัวอย่างเช่น

  • สหภาพยุโรป (EU) ได้ออกมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป(Carbon Border Adjustment Mechanism) สำหรับสินค้านำเข้าจากนอกสหภาพยุโรป ซึ่งจะมีผลแล้วตั้งแต่ตุลาคม 2023 และมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเพื่อบังคับใช้ถึงในปี 2026 โดยมาตรการนี้ออกมาเพื่อสร้างความเท่าเทียมทางต้นทุนราคาคาร์บอนระหว่างสินค้าภายในสหภาพยุโรปและประเทศนอกสหภาพยุโรป โดยมีการบังคับใช้ระบบการซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก (EU's Emission Trading System : EU ETS)
  • ญี่ปุ่นได้ออกมาตรการ Tokyo Circularity Initiative ในปี 2023 กำหนดเป้าหมายให้ธุรกิจในกรุงโตเกียวลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งจะส่งผลกระทบที่คล้ายกับมาตรการ EU ETS ของสหภาพยุโรป ที่จะต้องมีมาตรการขึ้นมาเพื่อสร้างความเท่าเทียมด้านต้นทุนกับสินค้านำเข้าเช่นเดียวกัน
  • สหรัฐอเมริกา แม้ว่าในปี 2023 นี้ ยังไม่มีกฎหมายบังคับสำหรับธุรกิจที่ส่งออกสินค้าไปยังอเมริกา แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลอเมริกาได้ออกร่างกฎหมายที่เรียกว่า "Fair, Affordable, Innovative, and Resilient Transition and Competition Act" (FAIR Act) ซึ่งหากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ จะกำหนดให้ธุรกิจที่ส่งออกสินค้าไปยังอเมริกาต้องเสียภาษีคาร์บอนสำหรับสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง โดยอัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของสินค้านั้น ๆ กฎหมายฉบับนี้คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2025 โดยคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อสินค้านำเข้าจากหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
  • สิงคโปร์ ประเทศแรกในอาเซียนที่นำมาตรการทางภาษีและมาตรการทางกฎหมายมาใช้บังคับเพื่อการจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศในประเทศภายใต้ชื่อรัฐบัญญัติภาษีคาร์บอน (Carbon Pricing Act) และมีแผนที่จะขึ้นภาษีคาร์บอนในอนาคตโดยจะปรับตัวเลขเป็น 45 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2) ในปี 2026-2027 และจะขึ้นเป็น 50-80 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อตันคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2030 การเก็บภาษีคาร์บอนของสิงคโปร์ในปัจจุบันได้บังคับใช้กับโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจทั้งหมดทุกประเภทที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณ 25,000 ตันต่อปีขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการนำเข้าสินค้าในทำนองเดียวกับที่ CBAM ได้บังคับใช้ในกรณีส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรป


จากข้อมูลของ World Bank ในปี 2022 พบว่า การค้าระหว่างประเทศของทุกประเทศทั่วโลก คิดเป็น 27% ของ GDP ของโลก ซึ่งหมายความว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศคิดเป็น 1 ใน 4 ของมูลค่าทางเศรษฐกิจของโลกทั้งหมด หากธุรกิจไม่ปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะทำให้ธุรกิจเหล่านั้นเสียเปรียบคู่แข่งในการแข่งขันทางการค้า


3. ต่อให้ไม่ทำ กฎหมายก็บังคับอยู่ดี


จากปัญหา Climate Change ทำให้หลายประเทศทั่วโลกได้ออกกฎหมายเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งนี้ด้วยตระหนักถึงปัญหาอย่างแท้จริง และเพื่อให้ธุรกิจในประเทศนั้น ๆ สามารถทำการค้ากับต่างประเทศได้ จากรายงานของ International Emissions Trading Association ในปี 2022 พบว่า กว่า 60 ประเทศทั่วโลกได้ออกกฎหมายเกี่ยวกับ Climate Change และประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายบังคับ เพื่อควบคุมดูแลเช่นเดียวกัน


ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2065 มีประกาศเป้าหมายนี้ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP26) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2021


การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยภาครัฐจะทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและมาตรการสนับสนุน ส่วนภาคเอกชนจะทำหน้าที่ในการปรับตัวและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และภาคประชาชนจะมีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


4. อยากทำธุรกิจกับบริษัทรายใหญ่


บริษัทรายใหญ่หลายแห่งได้ประกาศเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยได้ประกาศเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2030 - 2040 นโยบายเหล่านี้จะทำให้บริษัทคู่ค้าต้องปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับบริษัทรายใหญ่เหล่านี้ได้ และองค์กรใหญ่หลายแห่งก็ได้เริ่มมีนโยบายกำหนดให้ซัพพลายเออร์และคู่ค้าต้องดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเช่นกัน และหากไม่สามารถทำตามเกณฑ์ก็อาจสูญเสียโอกาสในการทำธุรกิจ หรือมีต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้นได้


จากรายงานของ CDP (Carbon Disclosure Project) องค์กรระดับโลก ที่ทำงานร่วมกับสถาบันการลงทุนขนาดใหญ่กว่า 650 แห่งโดยไทยเป็นหนึ่งในนั้น) ในปี 2022 พบว่า มีกว่า 15,000 บริษัทชั้นนำทั่วโลกได้ประกาศเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีบริษัทในไทยมีไม่ต่ำกว่า 100 บริษัทที่ได้ประกาศแล้ว ซึ่งล้วนเป็นบริษัทที่มีบริษัทในเครือ หรือบริษัทที่ร่วมทำการค้าอีกมากมายจึงส่งผลกระทบไปยังภาคธุรกิจโดยทั่วไปของไทย อันเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วม ความตื่นตัวและความมุ่งมั่นของภาคเอกชนไทยในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


ปัจจัยทั้ง 4 ประการข้างต้น ล้วนเป็นแรงผลักดันส่งเสริม และแรงกดดัน ที่ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวเรื่อง Climate Change ธุรกิจที่ปรับตัวได้เร็วและมีประสิทธิภาพ จะสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจได้ในอนาคต โดยมีสถิติตัวเลขที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจมาสนับสนุนดังนี้

  • จากการสำรวจของ McKinsey ในปี 2022 พบว่า ธุรกิจที่ปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถลดต้นทุนได้เฉลี่ย 3-5%
  • จากการสำรวจของ Boston Consulting Group ในปี 2023 พบว่า ธุรกิจที่ปรับตัวเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สามารถเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจได้ 10-20%


ปัจจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจที่ปรับตัวเพื่อลดผลกระทบจาก Climate Change จะได้รับประโยชน์ทั้งในแง่ของต้นทุน โอกาสทางธุรกิจ รวมไปถึงได้ภาพลักษณ์ที่ดีที่จะสร้างความได้เปรียบในการเข้าถึงลูกค้าในยุคปัจจุบัน


ที่มา :

  • งานสัมมนา Sustainable Growth - The Way to Business of the Future โดย ttb
  • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  • Boston Consulting Group
  • McKinsey
  • PwC, Deloitte
  • World Bank

finbiz by ttb

โครงการเสริมความรู้สู่การเป็น Smart SME ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม
พร้อมองค์ความรู้ ที่ครบครัน จาก Partner ชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน
เพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวผ่านความท้าทายของโลกปัจจุบัน
ปรับตัวตอบโจทย์ยุคดิจิทัล พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน


อัปเดตทุกดิจิทัลเทรนด์ และความรู้ดี ๆ ที่ SME ไม่ควรพลาด
เพียงแอดไลน์ @ttbSME


ผลิตภัณฑ์แนะนำ

สินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอี สมาร์ทบิส

บัญชีธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอีวันแบงก์

บริการจ่ายเงินเดือน และดูแลสวัสดิการพนักงาน ทีทีบี เพย์โรลพลัส

ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ สำหรับ SME


หน้าหลัก finbiz


ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีทีบี 0 2643 7000


ศูนย์ธุรกิจต่างประเทศ ทีทีบี


finbiz team


คลิก รับข่าวสารทางไลน์

การใช้และจัดการคุกกี้

ธนาคารใช้คุกกี้ 3 ประเภท คือ 1) จำเป็นต่อการใช้งานของเว็บไซต์ 2) เพื่อประสบการณ์ที่ดีของท่าน และ 3) เพื่อการวิเคราะห์วิจัย โดยการใช้คุกกี้จะไม่สามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้ ท่านสามารถกดปุ่ม “อนุญาต” ให้ธนาคารเก็บคุกกี้การใช้งานของท่านในการกำหนดเป้าหมายทางการตลาดเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ตรงความต้องการของท่านมากที่สุด โปรดอ่านรายละเอียด นโยบายการใช้คุกกี้ ของธนาคาร

เกี่ยวกับ ทีทีบี

  • เกี่ยวกับ ทีทีบี
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการและผู้บริหาร
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ
  • ห้องข่าว

ติดต่อธนาคาร

  • ติดต่อธนาคาร
  • ร่วมงานกับเรา
  • ค้นหาสาขา
  • รายงานเบาะแสการทุจริต
  • บริการอื่น ๆ
  • รายงานและการเปิดเผยข้อมูลคุณภาพการให้บริการ

เว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร

  • ttb business click
  • ttb business one
  • ttb consumer
  • ttb DRIVE app
  • ttb property


  • ttb spark
  • ttb supply chain solutions
  • ttb web fleet service
  • fai-fah by ttb
  • Punboon by ttb
  • Eastspring Asset Management

ติดตามข่าวสาร

  • social-media-fb-logo
  • social-media-line-logo
  • social-media-tiktok-logo
  • social-media-twitter-logo
  • social-media-linkedin-logo

สำนักงานใหญ่

  • 3000 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

ติดตามข่าวสาร
  • fb-icon
  • line-icon
  • tiktok-icon
  • twitter-icon
  • linkedin-icon
  • เกี่ยวกับ ทีทีบี
  • โครงสร้างองค์กร
  • คณะกรรมการและผู้บริหาร
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ
  • ห้องข่าว
  • ติดต่อธนาคาร
  • ร่วมงานกับเรา
  • ค้นหาสาขา
  • รายงานเบาะแสการทุจริต
  • บริการอื่น ๆ
  • รายงานและการเปิดเผยข้อมูลคุณภาพการให้บริการ
  • ttb business click
  • ttb business one
  • ttb consumer
  • ttb DRIVE app
  • ttb property
  • ttb spark
  • ttb supply chain solutions
  • ttb web fleet service
  • fai-fah by ttb
  • Punboon by ttb
  • Eastspring Asset Management
© สงวนลิขสิทธิ์ 2568 ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
นโยบายความเป็นส่วนตัวลูกค้า
กลับสู่ด้านบน