ทำความรู้จัก “หญ้าฝรั่น” เครื่องเทศเกรดพรีเมี่ยม พร้อมชิมรสความอร่อยในร้านอาหารกลางกรุง
ถ้าให้นึกถึงวัตถุดิบชั้นเลิศในการปรุงอาหาร คุณนึกถึงอะไรกันบ้างครับ เชื่อว่าหลายคนอาจจะนึกถึงเนื้อวากิว ไข่ปลาคาร์เวียร์ หรือเห็ดทรัฟเฟิล แต่ที่จริงแล้วมีเครื่องเทศอยู่ชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความพรีเมียมที่เราอาจจะยังไม่ทราบกัน นั่นก็คือหญ้าฝรั่น หรือแซฟฟรอน (Saffron)
ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักหญ้าฝรั่นกันครับ หญ้าฝรั่น หรือแซฟฟรอน เป็นเครื่องเทศสีแดงที่ได้มาจากเกสรตัวเมียของดอกแซฟฟรอน โครคัส (saffron crocus) ที่พบได้ในหลายประเทศ เช่น สเปน กรีซ อินเดีย และพบมากที่สุดที่อิหร่าน ซึ่งนับเป็นแหล่งผลิตหญ้าฝรั่นเกรดเอและสาเหตุที่ค่าตัวของเจ้าหญ้าฝรั่นมีราคาสูงก็เป็นเพราะว่าในดอกแซฟฟรอน โครคัสแต่ละดอกจะให้เกสรเพียง 3 เส้นเท่านั้น แล้วก็ใช่ว่าจะนำดอกเกสรมาใช้การปรุงอาหารได้เลย แต่ต้องผ่านการนำมาคั่วให้แห้ง โดยจะต้องใช้แรงงานคนเก็บเกสรภายในวันเดียวก่อนที่ดอกจะโรยแล้วนำมาคั่วให้แห้งทันที ด้วยเหตุนี้การผลิตหญ้าฝรั่นให้ได้น้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ หรือ 0.45 กิโลกรัม จะต้องใช้ดอกแซฟฟรอน โครคัสมากถึง 50,000-75,000 ดอก โดยราคาขายจะอยู่ที่ 17,000-170,000 บาท ต่อ 1 ปอนด์เลยทีเดียวครับ
สำหรับรสชาติของหญ้าฝรั่นนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวครับ โดยจะมีรสรสเผ็ด ขมอมหวาน และมีกลิ่นหอมฉุนคล้ายฟางที่ติดทนนานแม้ใช้ในการทำอาหารเพียงเล็กน้อย นิยมใช้ในอาหารจานหลักของประเทศตะวันตก เช่น Bouillabaisse, Chicken Fricassee รวมถึง Italian risotto และ Spanish paella แต่ในประเทศตะวันออกอย่างอินเดียก็มีการใส่ หญ้าฝรั่นในแกงกะหรี่ด้วยนะครับ นอกจากนี้หญ้าฝรั่นยังใช้เป็นส่วนประกอบในการหุงข้าวให้มีสีสัน และยังใส่ในอาหารหวานได้ เช่น คัสตาร์ด เค้ก และพุดดิ้ง
นอกจากหญ้าฝรั่นจะถูกใช้ในการทำอาหารของกลุ่มประเทศตะวันออก ตะวันออกกลางและยุโรปเป็นหลักแล้ว หญ้าฝรั่นยังถูกใช้เป็นสีย้อมผ้าอีกด้วยนะครับ และหากย้อนกลับไปอดีตในยุคกรีก - โรมันโบราณยังพบอีกว่ามีการนำหญ้าฝรั่นมาทำเป็นน้ำหอม ส่วนในแถบเอเชียอย่างในประวัติศาสตร์ของจีน ก็พบว่ามีการนำหญ้าฝรั่นมาปรุงเป็นยาจีนอีกด้วยครับ
สำหรับใครที่อยากลองชิมเมนูที่มีสุดยอดเครื่องเทศนี้เป็นส่วนประกอบ ไม่ต้องบินไปที่ไหนไกลเลยครับเพราะเรามี ร้านอาหารพิกัดใจกลางกรุงเทพฯ ที่จัดเสิร์ฟเมนูจากหญ้าฝรั่นมาฝากกันครับ
1. ห้องอาหารอัลบริเซียส์ (Albricias Restaurant)
สำหรับร้านแรก เราขอพาคุณมาที่ร้านอาหารใจกลางเมืองย่านสาธร ที่ ห้องอาหารอัลบริเซียส์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของโรมแรมชาเทรียม เรซิเดนซ์ สาทร บริการอาหารเมดิเตอร์เรเนียนและอาหารสเปนชั้นเลิศ พิถีพิถันทุกจานอาหารด้วยฝีมือของเชฟชาวสเปนมากประสบการณ์ มาพร้อมกับเมนู “Seasonal Paella” ข้าวผัดสเปนที่ใช้หญ้าฝรั่นเป็นเครื่องเทศหลักที่ให้กลิ่นที่มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้ จัดเสิร์ฟมาพร้อมกับปูนิ่มตัวยักษ์ ที่มีการผสมเนื้อปูลงไปในข้าวเรียบร้อยแล้ว ทำให้เวลารับประทานจะสัมผัสได้ถึงเนื้อปูนิ่มอย่างเต็มคำเคล้าไปกับกลิ่นหอมฉุนของหญ้าฝรั่น
สำรองที่นั่ง
www.chatrium.com/th/sathonbangkok/dining/albricias-restaurant
2. ร้านอาหาร Lady L Garden Bistro
มาต่อกันที่ Lady L Garden Bistro ร้านอาหารตะวันตกย่านเพลินจิต ตั้งอยู่ในบ้านปาร์คนายเลิศ ซึ่งการตกแต่งของร้านเป็นสไตล์บิสโทร (Bistro) แบ่งพื้นที่เป็น 2 โซนให้เลือกนั่งตามความชื่นชอบ ได้แก่ โซนห้องเรือนกระจก ที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ร่มรื่นให้ความผ่อนคลายเหมือนนั่งกลางสวน และโซนห้องอาหารภายใน ตกแต่งสไตล์ยุโรปด้วยโทนสีขาวสะอาดตาตัดกับสีทองและพื้นหินอ่อนขาวดำ จัดเสิร์ฟเมนูโฮมเมดสูตรเฉพาะตัวทุกเมนู และเมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้ในครั้งนี้นั่นก็คือ Bouillabaisse (บุยยาเบส) ซุปซีฟู้ดจานหรูจากเมือง Marseille เมืองท่าทางตอนใต้ของฝรั่งเศส
สำรองที่นั่ง
https://nailertgroup.com/th/lady-l/contact
3. ร้านอาหาร Eat Me
ถัดไปมาต่อกันที่ร้านอาหารเก่าแก่กว่า 20 ปีในซอยคอนแวนส์ ย่านสีลม ที่ร้าน Eat Me ร้านอาหารนานาชาติ เจ้าของรางวัล Michelin Guide Bangkok ปี 2018 - 2019 จัดเสิร์ฟอาหารที่ละเมียดละไมในการเลือกวัตุดิบชั้นเลิศตามฤดูกาลที่ส่งตรงจากยุโรปมาปรุงเป็นเมนูสุดพิเศษ และแน่นอนว่าต้องมีเครื่องเทศเกรดพรีเมียมอย่างหญ้าฝรั่นอย่างแน่นนอน เมนูที่พลาดไม่ได้ก็คือ “White asparagus + caviar” หน่อไม้ฝรั่งขาวใหญ่เนื้ออวบอิ่มเนื้อหวานฉ่ำเสิร์ฟพร้อมกับ ไข่ปลาคาเวียร์, แฮมฮามอน อิเบอริโค, ชีสแมนเชโก้ และชูรสชาติความหอมมัน พร้อมกลิ่นฉุนตามแบบฉบับของหญ้าฝรั่นด้วยซอสที่ปรุงรสขึ้นมาพิเศษ
สำรองที่นั่ง
https://eatmerestaurant.com/reservations/
4. ร้านอาหาร Haoma
ส่งท้ายกันที่ร้าน Haoma (ฮาโอมา) ร้านอาหารอินเดียแบบ Fine dining ย่านเอกมัย ถึงรสถึงชาติความเป็นอินเดียด้วยฝีมือของเชฟหนุ่มชาวอินเดียมากประสบการณ์ รังสรรค์เมนูของร้านออกมาในสไตล์ Neo-Indian ที่ทางเชฟนำอาหารอินเดียมานำเสนอในรูปแบบใหม่ สามารถเลือกทานได้ทั้งแบบอาหาร A la carte และแบบคอร์ส โดยมีคอร์สแนะนำอย่าง Nature's Tasting Menus
สำหรับเมนูที่ใช้หญ้าฝรั่นเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารจากร้าน Haoma ขอแนะนำเมนูขนมหวานของอินเดียที่ชื่อว่า “Bengal sweets” โดยที่ร้านจะใช้วัตถุดิบอย่าง Bhapa Doi หรือโยเกิร์ตของชาวอินเดียฝั่งเบงกอล ซึ่งเป็นรัฐทางตะวันออกของประเทศอินเดีย ผสานกับหญ้าฝรั่น และ CBD Semifreddo ซึ่งเป็นของหวานแบบอิตาเลี่ยน มีเนื้อสัมผัสคล้ายมูสแช่แข็งผสมน้ำมันกัญชาจัดเสิร์ฟเป็นของหวานสูตรเฉพาะตัวของทางร้าน ที่สำคัญเรามาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb reserve ที่จะได้รับเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิต ttb reserve (Cash Back) สูงสุด 50% ตลอดปี เมื่อมียอดใช้จ่ายที่ร้านอาหาร Fine Dining ที่ร่วมรายการ รายละเอียดโปรโมชันคลิก
สำรองที่นั่ง
https://www.haoma.dk
ที่มา : https://www.beartai.com/lifestyle/others/729547