ในปี 2021 ถือเป็นอีกปีที่การลงทุนในหุ้นมีความท้าทายอย่างมากไม่แพ้ปี 2020 ที่โลกของเราเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีการคิดค้นวัคซีนและทำการฉีดให้ประชากรทั่วโลกไปมากแล้วก็ตาม แต่การกลายพันธุ์ของไวรัสก็ยังคงเป็นปัจจัยกดดันให้การใช้ชีวิตของประชากรทั่วโลกยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติเหมือนแต่ก่อน ทำให้การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างเช่นหุ้นเผชิญความผันผวนต่อเนื่อง เมื่อลองดูผลตอบแทนย้อนหลังในปี2021ที่ผ่านมาจะพบว่า นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ หรือทวีปยุโรปคงจะมีความสุขไม่น้อยกับผลตอบแทนที่ได้ แต่ในทางกลับกันนักลงทุนที่มีสัดส่วนการลงทุนในทวีปเอเชียอาจจะผิดหวังไปบ้าง โดยส่วนใหญ่ถูกกดดันจากการเข้ามาควบคุม และจัดระเบียบภายในประเทศของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน แต่รู้หรือไม่ประเทศเวียดนามเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ผลตอบแทนไม่ได้ด้อยกว่าประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯเลย โดยในปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนมากกว่า 30% (VN Index, ที่มา Dragon Capital และ Lumen Vietnam Fund as of November 2021) และถูกยกให้เป็นตลาดหุ้นที่น่าจับตามองต่อจากนี้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี เมื่ออ่านถึงถึงจุดนี้อาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่าอะไรทำให้นักลงทุนเริ่มหันมาสนใจในประเทศเวียดนาม และตลาดหุ้นทำไมถึงสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้มากขนาดนี้ เราจะขอพาทุกท่านมารู้จักประเทศเวียดนามให้มากขึ้นผ่านปัจจัย 6 ข้อตามด้านล่าง
- โครงสร้างประชากร: ประเทศเวียดนามถือเป็นประเทศที่มีประชากรวัยแรงงานคิดเป็น 51.8% สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน
- ภาพรวมเศรษฐกิจ: ประเทศเวียดนามมีอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ยสูงถึง 6.6% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการวางรากฐานทางด้านนโยบายและการพัฒนาบุคลากรภายในประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง (ที่มา: https://www.aseanstats.org)
- การเข้าสู่สังคมเมือง: ประเทศเวียดนามมีอัตราการเข้าสู่สังคมเมือง(Urbanization rate) อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยในปี 2019 อยู่ที่ระดับ 36.6% และจะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 43% ในปี 2030 ส่งผลให้ความต้องการด้านที่อยู่อาศัย การคมนาคม และการสื่อสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต (ที่มา: https://www.aseanstats.org)
- การลงทุนจากต่างประเทศ: เงินลงทุนจากต่างประเทศ หรือ FDI (Foreign Direct Investment) เติบโตต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคจากการที่มีค่าแรงที่ไม่แพงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
- สภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์: ตลาดหลักทรัพย์ของประเทศเวียดนามมีสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 207.9% และ +74.6% ในด้านMarket Capitalization YoY เมื่อเทียบกับ ต.ค. 2020 (ที่มา: : Bloomberg, as of October 31 , 2021)
- Valuation: ตลาดหุ้นเวียดนามยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยมีค่า Forward P/E ในปี 2022 อยู่ที่ระดับ 13.6x โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์การเติบโตในระดับสูงถึง 25%
นอกจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ที่เป็นสิ่งดึงดูดนักลงทุนได้ดีแล้ว เวียดนามยังได้รับอานิสงส์เต็มที่จากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตออกจากจีน หรือขยายฐานการผลิตเพิ่มเติมเพื่อกระจายความเสี่ยง ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และไม่พลาดโอกาสที่จะลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม ที่จะก้าวขึ้นมาเทียบชั้นกับตลาดอื่น ๆ ในเอเชีย ซึ่งการลงทุนผ่านกองทุน TMB Eastspring Vietnam Active Equity (TMB-ES-VIETNAM) ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจ เนื่องด้วยความเป็นผู้จัดการกองทุนท้องถิ่นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทางการลงทุนเชิงลึกและใกล้ชิด
รายละเอียดกองทุน TMB-ES-VIETNAM
เน้นการลงทุนในกิจการของบริษัทที่โดดเด่นในประเทศเวียดนามผ่าน 2 กองทุนหลักที่เป็นผู้จัดการกองทุนสัญชาติเวียดนาม ในรูปแบบFund of funds
- Vietnam Equity (UCITS) Fund - Share Class A ในสัดส่วน 50-75%:
- บริหารจัดการโดย Dragon Capital บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
- เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเติบโตสูงจำนวน 25 – 35 หลักทรัพย์
- คัดเลือกหุ้นที่เข้าไปลงทุนผ่านการวิเคราะห์ทางด้านปัจจัยพื้นฐาน (Bottom-up)
- สามารถลงทุนได้ในทุกตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนาม เช่น ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมิน, ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย, Unlisted Public Company Market (UPCoM) และหลักทรัพย์ที่ซื้อขายนอกตลาด ในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของมูลค่าสุทธิของกองทุน
- Lumen Vietnam UCITS Fund - Share Class USD-I ในสัดส่วน 25-50%:
- บริหารจัดการโดย Lumen Vietnam Fund ผู้ซึ่งสามารถจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนเวียดนามในรูปแบบ UCITS Fund ได้เป็นที่แรก
- เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพขนาดกลางและเล็กจำนวน 25 – 35 หลักทรัพย์
- คัดเลือกหุ้นที่เข้าไปลงทุนผ่านการวิเคราะห์ทางด้านปัจจัยพื้นฐาน (Bottom-up) และสัญญาณทางเทคนิค (Technical Analysis)
กระบวนการลงทุน
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า กองทุน Vietnam Equity จะเน้นการลงทุนจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยคัดกรองหุ้นจำนวน 1,629 หลักทรัพย์ พิจารณาจากปัจจัยด้านขนาดของหลักทรัพย์, สภาพคล่อง, ปัจจัยด้าน ESG รวมถึงการปรับตัวของราคาทั้งในอดีตและอนาคตข้างหน้า เพื่อกำหนดคะแนนขึ้นมา โดยจะเข้าลงทุนในหุ้นที่มีคะแนนสูงที่สุด 25-35 หลักทรัพย์ ในขณะที่กองทุน Lumen Vietnam จะใช้สัญญาณทางเทคนิคเข้ามาช่วยเลือกหุ้นที่จะเข้าลงทุน รวมถึงการขายทำกำไรเพิ่มเติมจากการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่เน้นไปที่ธีมการบริโภคภายในประเทศ, การเป็นสังคมเมือง, กลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มการเงิน เพื่อให้เหลือหุ้นเพียง 25-35 หลักทรัพย์
สัดส่วนการลงทุน
กองทุน TMB-ES-Vietnam จะเข้าไปลงทุนผ่าน 2 กองทุนหลัก ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนมีการกระจายตัวในทุกขนาด market cap ตามกราฟด้านล่าง
เช่นเดียวกับสัดส่วนการลงทุนตามรายอุตสาหกรรมที่กองทุน TMB-ES-Vietnam ช่วยลดการกระจุกตัวในแต่ละหมวดอุตสาหกรรมลง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการลงทุนสูงที่สุดอย่าง Financial Services และ Real Estate ของกองทุน Vietnam Equity โดยจะมีการกระจายไปลงทุนในกลุ่ม Industrials และ Consumer Cyclical เพิ่มมากขึ้นในกองทุน Lumen Vietnam
Top 5 Holdings: กองทุน Vietnam Equity (UCITS) Fund
Table 1 ตัวอย่างบริษัทที่ Vietnam Equity (UCITS) Fund เข้าไปลงทุน (ที่มา: Dragon Capital, Nov 2021)
ชื่อบริษัทผู้ออก | สัดส่วน | รายละเอียด |
---|---|---|
1. Mobile World | 9.19% | ผู้นำวงการค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้า และโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ในเวียดนาม |
2. MB Bank | 8.09% | ธนาคารที่ให้บริการรับฝากเงิน แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการด้านสินเชื่อ รวมถึงให้บริการค้าหลักทรัพย์ |
3. Hoa Phat Group | 7.39% | บริษัทผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของประเทศเวียดนาม |
4. Vietnam Prosperity Bank | 6.20% | บริษัท Consumer finance รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม |
5. VNDirect Securities | 5.84% | บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของประเทศเวียดนาม |
Top 5 Holdings: กองทุน Lumen Vietnam Fund UCITS
Table 2 ตัวอย่างบริษัทที่ Lumen Vietnam Fund UCITS เข้าไปลงทุน (ที่มา: Lumen Vietnam Fund, Nov 2021)
ชื่อบริษัทผู้ออก | สัดส่วน | รายละเอียด |
---|---|---|
1. Vinhomes | 9.04% | ผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 1 ของเวียดนาม |
2. Hoa Phat Group | 8.30% | ผู้ผลิตเหล็กรีดร้อน เหล็กเส้น และเหล็กก่อสร้างอันดับ 1 ในเวียดนาม |
3. Vietnam JSC Bank | 7.66% | ธนาคารที่ให้บริการสินเชื่อด้านการค้า โดยเฉพาะการส่งออกและนำเข้า |
4. FPT Corp | 7.42% | บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อันดับ 1 ของเวียดนาม ทำธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และระบบคลาวด์ |
5. Ho Chi Minh City | 4.81% | บริษัท Consumer finance อันดับ 3 ของเวียดนาม |
จากตัวอย่างบริษัทที่เข้าไปลงทุนด้านบนพบว่ากองทุนจะเน้นการลงทุนในกลุ่มการเงิน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ และการบริโภคภายในประเทศที่พร้อมจะได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการเติบโตของเศรษฐกิจ การย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองมากขึ้น และรายได้ของกลุ่มคนหนุ่มสาวที่จะมากขึ้นในอนาคต
ผลการดำเนินงาน
Table 3 Trailing Return
|
1M | 3M | 6M | YTD | 1Y | 3Y* | 5Y* | SI* |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Vietnam Equity (UCITS) Fund | 2.3% | 11.6% | 15.4% | 54.0% | 64.7% | 21.7% | 19.0% | 18.4% |
Lumen Vietnam Fund UCITS | -0.5% | 9.9% | 21.8% | 51.0% | 65.3% | 25.5% | 16.8% | 13.8% |
VN Index | 2.4% | 11.0% | 11.3% | 33.9% | 47.4% | 16.8% | 17.3% | 10.2% |
Table 4 Calendar Return
|
YTD | 2020 | 2019 | 2018 | 2017 | 2016 | 2015 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Vietnam Equity (UCITS) Fund | 54.0% | 16.1% | -0.1% | -3.4% | 41.3% | 19.4% | 13.3% |
Lumen Vietnam Fund UCITS | 51.0% | 26.0% | 5.4% | -14.0% | 27.5% | 15.8% | 0.2% |
VN Index | 33.9% | 14.9% | 7.7% | -9.3% | 48.0% | 14.8% | 17.1% |
*Annualized Return(%)
ที่มา: Dragon Capital และ Lumen Vietnam Fund as of November 2021
เมื่อดูจากผลการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมาพบว่าทั้งสองกองทุนสามารถเอาชนะดัชนีชี้วัดได้อย่างสม่ำเสมอ และสามารถสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกได้ในปีที่โลกของเราเผชิญการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด-19 สำหรับลูกค้า ttb ที่สนใจลงทุนกองทุนหุ้นเวียดนาม สามารถเริ่มลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 12 ม.ค. 2022 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท เพื่อให้คุณมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในอนาคต
สามารถรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ttb investment line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) หรือ สอบถามเพิ่มเติม และรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบีทุกสาขา
โปรโมชันพิเศษ!
หากนักลงทุนสนใจลงทุนในช่วงการเสนอขายครั้งแรก ระหว่างวันที่ 12 - 18 มกราคม 2565 รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุน (Front end fee) จาก 1.5% เป็น 1% ของมูลค่าหน่วยลงทุน (ระหว่างวันที่ 12 - 18 มกราคม 2565 เท่านั้น)
หากสนใจปรึกษาเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ttb investment line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) หรือเข้ามาปรึกษา และรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา
หมายเหตุ :
- ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด ที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน /ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน /ผู้ลงทุนสามารถรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบี ทุกสาขา หรือ ttb investment line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 9:00 – 17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)