external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

โควิด-19 ยังระบาดทั่วโลกและท่าทีของ FED ต่อการ taper ……. หุ้นสหรัฐยังน่าลงทุนหรือไม่?

20 ส.ค. 2564

1. นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รัฐบาลสหรัฐฯตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีทรัมป์ จนถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีงบประมาณที่ผ่านการอนุมัติแล้วทั้งหมดรวมกว่า 10.5 ล้านล้านดอลลาร์ และมีงบประมาณอีกกว่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่รออนุมัติในปีนี้

งบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ดังเช่นการใช้จ่ายภาครัฐ (Fiscal Spending) กว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา อุดหนุนโดยตรงแก่ ผู้มีรายได้ปานกลาง-ต่ำ ช่วยสนับสนุนให้ Retail Sales และ Real Personal Consumption Expenditure สามารถฟื้นจากผลกระทบของวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 กลับมาอยู่ที่ระดับช่วงก่อนแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ในเพียงระยะเวลา 3 เดือน และ 4 เดือน ตามลำดับเท่านั้น ขณะที่มาตรการช่วยเหลือผ่านการให้สินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อ (Lending Schemes) รวมกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ผ่านโครงการสินเชื่อภาครัฐ และสถาบันการเงินต่าง ๆ ผ่านการปล่อยกู้ของธนาคารกลางเพื่อช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่บริษัทขนาดใหญ่และ SMEs ช่วยทำให้อัตราการว่างงานลดลงจากจุดพีค 14.8% ในเดือนเมษายน 2020 ลงมาเกือบครึ่งหนึ่งที่ 7.8% ภายใน 5 เดือนเท่านั้น

ต่อเนื่องมาถึงเมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เข้ารับตำแหน่งช่วงเดือนธันวาคม 2020 ก็ได้ลงนามมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องมูลค่ากว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยการลงนามกฎหมายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ American Rescue Plan Act of 2021 ในวันที่ 11 มีนาคม 2021 มูลค่ากว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่เป็นแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนที่เน้นมาตรการระยะสั้นคือจ่ายเงินให้คนอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโดยตรงและกระจายวัคซีน จะเห็นได้ว่ามาตรการต่าง ๆ ช่วยสนับสนุนให้ Retail Sales และReal Personal Consumption Expenditure สหรัฐฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ช่วงสองปีที่ผ่านมา (มิถุนายน 2019-2021) แม้ผ่านช่วงวิกฤตการระบาดโควิด-19 ได้ที่ 10.5% และ 3.19% ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ระดับ 5.4% ในเดือนมิถุนายน 2021

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวของสหรัฐฯ อีกมูลค่ากว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ อันแบ่งเป็น 2 ส่วนได้แก่ American Jobs Plan ที่มุ่งเน้นลงทุนซ่อมแซมและพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นพัฒนาเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมให้สามารถแข่งขันกับจีนได้ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างงานครั้งใหญ่ให้แก่ชาวอเมริกันในสหรัฐฯ ที่เกือบ 200,000 ตำแหน่งต่อปี ในช่วง 10 ปีข้างหน้าได้ โดยล่าสุดวุฒิสภาได้อนุมัติร่างกฎหมายแล้วในวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมานี้ อีกส่วนได้แก่ American Families Plan ที่มุ่งเน้นการใช้งบประมาณเพื่อส่งเสริมความมั่นคงทางสังคม ซึ่งครอบคลุมทั้งนโยบายด้านสุขภาพ การศึกษา นโยบายสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และโครงการอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกัน ด้วยงบกว่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งตั้งเป้าที่จะผ่านร่างกฎหมายให้เสร็จเพื่อที่ให้คณะกรรมาธิการงบประมาณของวุฒิสภาจัดทำกฎหมายงบประมาณภายในเดือนกันยายนปีนี้

2. เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กลับมาฟื้นตัวอย่างชัดเจนหลังการระบาดของโควิด-19 จากนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลและธนาคารกลางที่ยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งผ่านมาตรการช่วยเหลือในหลายรูปแบบ ทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศสหรัฐฯ ฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2021 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับตัวเลขการคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้นจากรอบประมาณการณ์เดือนเมษายน 2021 หลังจากที่เร่งการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชากรและเริ่มเปิดภาคธุรกิจอีกครั้ง โดย IMF ให้มุมมองบวกในโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งเกือบ 40% ของประชากรได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แม้ว่าจะมีความท้าทายจากโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ก็ตาม โดยสหรัฐฯ เป็นผู้นำด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น ที่ 7% ในปี 2021 และ 4.9% ในปี 2022 นี้ โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.6% และ 1.7% ตามลำดับ ซึ่งจะนับได้ว่าเป็นปีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 1984 เลยทีเดียว

ที่มา : IMF, World Economic Outlook, July 2021 and April 2021 and July 2021

3. คาดมาตรการทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ยังคงผ่อนคลายทำให้สภาพคล่องในตลาดยังคงสูงต่อเนื่อง โดยแม้ว่าจะมีความกังวลเรื่องการลดการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากที่อัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ ออกมาฟื้นตัวแข็งแกร่งกว่าคาดก็ตาม แต่อัตราการว่างงานล่าสุดเดือนมิถุนายนที่ 5.4% นั้นยังคงสูงกว่าระดับก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ 3.5% อยู่ รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอน ที่เป็นสายพันธุ์ใหม่ระบาดในสหรัฐฯ ที่มีการศึกษาว่าวัคซีน mRNA มีประสิทธิภาพการต้านทานด้อยลง และความกังวลในการกลายพันธุ์ในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ทำให้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะยังคงรอประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ และไม่รีบลดการผ่อนคลายเชิงปริมาณลงเร็วกว่าที่คาดนัก

 

ขนาดงบดุลของสหรัฐฯ (หน่วย : ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, Not Seasonally Adjusted)

Source: Board of Governors of the Federal Reserve System (US)
https://fred.stlouisfed.org/series/WALCL
U.S. Unemployment Rate (%)

ที่มา : Trading Economics, https://tradingeconomics.com/united-states/unemployment-rate

4. เลือกลงทุนระยะยาวกับผู้ที่ครองชัยชนะในอนาคต ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ นั้นประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนชั้นนำจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงบริษัทกลุ่มเทคโนโลยีที่ถือเป็นหมุดหมายสำคัญด้านการลงทุนที่คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้โดยเฉพาะในช่วงที่การดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิมทำได้ยาก และเกิดภาพที่ชัดเจนให้เห็นในหลายธุรกิจที่ต้องเร่งนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในกิจกรรมการให้บริการเพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานมากขึ้น

จากปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดทำให้เรามองว่าหุ้นสหรัฐฯ ยังมีความน่าสนใจและจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ และกองทุนหุ้นสหรัฐฯ ที่น่าสนใจกองหนึ่งตอนนี้ คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นยูเอส แอคทีฟ ชนิดสะสมมูลค่า (SCB US Active Equity Fund (Accumulation) - SCBUSAA) โดยกองทุนเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทในสหรัฐฯ ผ่านกองทุนหลัก (Master Fund) เพียงกองเดียวคือ Morgan Stanley Investment Fund US Growth Fund ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ บริหารโดย Morgan Staley Investment Management บริษัทจัดการกองทุนระดับโลก มีประสบการณ์ลงทุนทั่วโลกที่ยาวนานกว่า 40 ปี ด้วยทรัพย์สินภายใต้การจัดการกว่า 1.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

ที่มา : Morgan Stanley Investment Management, https://www.morganstanley.com/im/en-ch/intermediary-investor/about-us/overview.html

ความโดดเด่นของกองทุนมีดังนี้

  1. กองทุนได้รับการจัดอันดับมอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาว กองทุนหลัก Morgan Stanley Investment Fund US Growth Fund ที่มี Track record ที่ดีโดดเด่น (ที่มา : Morgan Stanley Investment Fund, ณ 30 ก.ค. 2021)
  2. ผู้จัดการหลักกองทุน Dennis P. Lynch ได้รับการจัดอันดับโดย Citywire ที่ AA (ที่มา : Citywire, ณ 30 ก.ค. 2021) โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่กองเริ่มจัดตั้ง ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2008 ถึง ณ วันที่ 31 ก.ค. 2021 สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้ถึง 18.44% ต่อปี ซึ่งทำได้ดีกว่าผลตอบแทนดัชนีชี้วัดของกองทุน Russell 1000 Growth Net 30% Withholding Tax TR Index สุทธิภาษี ที่มีอัตราผลตอบแทนสุทธิที่ 13.79% ต่อปี

    นอกจากนี้ เมื่อเรามาดูผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนจะเห็นว่ากองทุนสามารถทำผลงานได้ดีกว่าดัชนีชี้วัดอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในช่วง 1 ปี 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี

    ที่มา : Morgan Stanley Investment Management, 31 ก.ค. 2021, ข้อมูลมากกว่า 1 ปี แสดงเป็นเฉลี่ยต่อปี (annualized)

  3. กระบวนการลงทุนของทีมผู้จัดการกองทุนที่มีคุณภาพผ่านกลยุทธ์การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึกของหุ้นรายตัว (Bottom-up Security Selection) จัดพอร์ตการลงทุนโดยกระจายการลงทุนในหุ้นประมาณ 35-60 ตัว โดยไม่เพียงแต่คัดเลือกบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงทางธุรกิจ ยังให้ความสำคัญกับบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่กำลังพัฒนาธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนได้ในระยะยาว ผ่านกระบวนการลงทุน (Ideas and Validation) ที่สำคัญ 3 ขั้นตอน ดังนี้
    3.1 Idea Generation : รวบรวมข้อมูลจากทั้งภายในและภายนอกทีม
    เพื่อเฟ้นหาโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ
    ข้อมูลภายนอกทั้งจากนักวิเคราะห์ ข้อมูลที่สำคัญจากงบการเงิน การเข้าพบและพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมโดยตรง หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้จัดการกองทุนกลยุทธ์อื่น ประกอบกับข้อมูลภายในจากการวิเคราะห์ของทีมผู้จัดการกองทุนซึ่งประกอบด้วยผู้จัดการกองทุน 12 ท่านที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะและรับผิดชอบในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมครอบคลุมธุรกิจทั่วโลก ก่อนสรุปเป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจ
    3.2 Deep Fundamental Analysis :
    วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึก โดยให้ความสำคัญด้านคุณภาพของธุรกิจเป็นอย่างแรก
    วิเคราะห์เชิงลึกเพื่อประเมินคุณภาพของธุรกิจที่สนใจเข้าลงทุน หาความได้เปรียบของธุรกิจ โดยพิจารณาถึงความมั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ ความสม่ำเสมอของรายได้ ความสามารถในการเพิ่มจำนวนฐานลูกค้าได้ต่อเนื่อง ประกอบการวิเคราะห์ด้าน Valuation ตัวเลขกระแสเงินสด พิจารณาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในบริษัทดังกล่าว เปรียบเทียบ Risk Free rate และผลตอบแทนในทางเลือกการลงทุนอื่น รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมและลิขสิทธิ์เพื่อจะสามารถสร้างมูลค่าส่วนเพิ่มให้กับบริษัท
    3.3 True to Investment Philosophy : สร้างกระบวนการลงทุนที่ดี จากข้อสรุป Investment Thesis ที่ได้
    • ผู้จัดการกองทุนบริหารความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุนหุ้นรายตัวในสัดส่วนที่ 1-5% (ณ ต้นทุน)
    • พร้อมเปลี่ยนแปลงการลงทุน หาก Investment Thesis เปลี่ยนไป หรือเมื่อความคุ้มค่าในการลงทุนลดลง หรือเจอโอกาสการลงทุนใหม่ที่น่าสนใจกว่า
    • เลือกลงทุนเฉพาะหุ้นที่ผู้จัดการกองทุนมีความมั่นใจสูง มีการตรวจสอบพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนอยู่เสมอ

ซึ่งพอร์ตการลงทุนและหุ้นที่ถูกคัดเลือกผ่านกระบวนการดังกล่าวจะยังให้ความสำคัญกับการเติบโตในระยะยาวของบริษัท มากกว่าความผันผวนตลาดที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น โดยพอร์ตการลงทุนของกองทุน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2021 ส่วนใหญ่กว่า 46.85% ลงทุนอยุ่ใน sector Information Technology ตามด้วย Communication Service 23.09% และ Health Care 15.63% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากการคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัว

ที่มา : Morgan Stanley Investment Management, SCBAM, 30 มิ.ย. 2021

 

ตัวอย่างหุ้นที่กองทุนหลักของ SCBUSA เข้าไปลงทุน

Shopify Inc. บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศแคนาดา ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม E-Commerce ในสหรัฐฯ ที่มี Market share เป็นอันดับ 2 รองจาก Amazon โดยเปิดให้ผู้ประกอบการสามารถจ่ายค่าบริการรายเดือนเพื่อสร้างร้านค้าออนไลน์และนำเสนอสินค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม มีรายได้หลักจะมาจากค่าบริการ Subscription เพื่อใช้งานเป็นรายเดือน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถโปรโมตร้านค้าและสินค้าตัวเองให้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น เช่น ข้อมูลวิเคราะห์ตลาด ระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ระบบจัดส่งสินค้า ระบบชำระเงิน เป็นต้น โดยช่วงสามเดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดคำสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มถึงกว่า 37,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าถึงกว่า 114% หรือกำไรสุทธิเติบโตกว่า 12% เทียบกับปีก่อน (ที่มา : เว็บไซต์บริษัทจดทะเบียน รวบรวมข้อมูลโดย SCBAM ณ ก.ค. 2021)

 

Snap Inc. บริษัทมีอัตราการเติบโตแบบทบต้นเฉลี่ยสูงถึง 46% ต่อปี (กำไรบริษัทในปี 2018, 2019 และ 2020 ที่ 1,180, 1,716 และ 2,507 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีตามลำดับ) บริษัทสัญชาติอเมริกันที่แม้อาจไม่คุ้นหูสำหรับคนไทย แต่สำหรับคนอเมริกา แอปพลิเคชัน Snapchat ถือเป็นอีกหนึ่งสื่อโซเชียลที่ถูกดาวน์โหลดและใช้งานอย่างกว้างขวาง มี Daily Active User ใช้งานสูงถึง 280 ล้านคนต่อวัน โดยสามารถส่ง แชร์ข้อความ รูปภาพ วีดีโอผ่านกล้องที่มีฟีเจอร์ให้เลือกใช้หลากหลาย มีเอกลักษณ์แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นที่ข้อความหรือรูปภาพที่ส่ง จะปรากฏอยู่เพียงชั่วคราวและถูกลบอัตโนมัติ (ที่มา : เว็บไซต์บริษัทจดทะเบียน รวบรวมข้อมูลโดย SCBAM ณ ก.ค. 2021)

 

Square Inc. ให้บริการผ่านระบบ Eco System ที่รองรับการทำธุรกรรม Digital Payment ผ่านผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ได้แก่ Square Point of Sale แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถจัดการการชำระเงินผ่านทางมือถือหรือแท็บเล็ตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แอปพลิเคชัน Cash App ที่ให้บริการชำระเงิน ผู้ใช้สามารถส่ง-รับเงินได้ฟรีผ่านทางมือถือ รวมทั้งยังสามารถใช้เป็นช่องทางการลงทุนในหุ้น และ Bitcoin ได้อีกด้วย โดยบริษัทให้บริการในหลายบริษัททั่วโลก เช่น สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้แบบทบต้นเฉลี่ยสูงถึง 70% ต่อปี (ปี 2018, 2019 และ 2020 บริษัทมีรายได้สุทธิที่ 3,298, 4,714 และ 9,496 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปีตามลำดับ) (ที่มา : เว็บไซต์บริษัทจดทะเบียน รวบรวมข้อมูลโดย SCBAM ณ ก.ค. 2021)

จะเห็นว่าตัวอย่างหุ้นในพอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักนั้นล้วนใกล้ตัวและเป็นธุรกิจที่แทรกซึมใกล้ชิดอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี แม้แต่ในยุคที่กำลังมีโรคระบาดครอบคลุมหลายพื้นที่ ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทเหล่านี้เติบโต แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการที่จะเลือกลงทุนในประเทศสหรัฐฯ ประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจโลก โดยต้องการเน้นหาเฉพาะหุ้นคุณภาพที่จะสามารถเติบโตในระยะยาว กองทุน SCBUSAA ที่ลงทุนในกองหลัก Morgan Stanley Investment Fund US Growth Fund บริหารโดยผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก ถือเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่ตอบโจทย์และมีความน่าสนใจที่เราได้คัดเลือกสรรมาให้ลูกค้า ttb ลงทุนได้แล้วตั้งแต่ วันที่ 23 ส.ค. 2021 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท เพื่อให้คุณมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มากกว่า และเพื่อชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในอนาคต

 


 

หากสนใจปรึกษาเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ ttb investment line โทร. 1428 กด # 4 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร) หรือเข้ามาปรึกษา และรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ทีทีบีทุกสาขา

  • ลงทุน ง่าย ๆ ผ่านแอป ttb touch
  • ข้อมูลเพิ่มเติม


หมายเหตุ:

  • ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด ที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปใช้ซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
  • การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน /ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน