รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินทำอย่างไร มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องรู้

ในยุคที่การบริหารจัดการภาระหนี้และสภาพคล่องทางการเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกครัวเรือนการรีไฟแนนซ์บ้าน จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถลดภาระดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างการผ่อนชำระ และวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่รู้หรือไม่ว่า หากคุณต้องการเงินก้อนเพิ่มเติมเพื่อใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น เช่น การรวมหนี้ การลงทุน หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน แม้บ้านที่ผ่อนอยู่ ยังไม่ปลอดภาระสินเชื่อ ก็สามารถเลือกใช้วิธี รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ได้เช่นกัน วันนี้ ทีทีบี ขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจกับการ รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน คืออะไร เหมาะกับใคร คิดดอกเบี้ยต่างจากรีไฟแนนซ์เดิมหรือไม่ และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง มาดูกัน

รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน คืออะไร?

รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน คือ การมาขอรีไฟแนนซ์บ้านและขอวงเงินกู้เพิ่ม หรือที่หลาย ๆ คนเคยได้ยินว่า ผ่อนอยู่ กู้เพิ่มได้ นั่นคือการที่ย้ายมารีไฟแนนซ์บ้านมายังสถาบันการเงินที่ใหม่และขอวงเงินกู้เพิ่มเติม โดยวงเงินกู้ที่เพิ่มมานั้นจะคิดจากส่วนต่างระหว่างวงเงินกู้ใหม่ที่ได้รับอนุมัติจากธนาคาร กับยอดหนี้บ้านคงเหลือของสินเชื่อเดิม โดยสามารถนำเงินส่วนที่ขอวงเงินกู้เพิ่มไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การลงทุนขยายร้าน ชำระหนี้ หรือปรับปรุงบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านมีความยืดหยุ่นทางการเงินมากขึ้น และยังได้ดอกเบี้ยผ่อนบ้านที่ถูกลงกว่าเดิมอีกด้วย

รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินต่างกับรีไฟแนนซ์ทั่วไปอย่างไร?

การรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินแตกต่างจากรีไฟแนนซ์ทั่วไปตรงที่ การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การกู้สินเชื่อก้อนใหม่เพื่อจ่ายปิดหนี้สินเชื่อบ้านก้อนเดิม และย้ายมาชำระหนี้บ้านกับสินเชื่อก้อนใหม่แทน โดยมีจุดประสงค์หลักคือ ช่วยลดภาระดอกเบี้ยบ้านที่ถูกปรับสูงขึ้นหลังจากผ่อนบ้านครบ 3 ปีและช่วยให้จ่ายต่องวดลดลงด้วย โดยไม่ได้รับเงินก้อนไปใช้จ่ายใด ๆ

แต่หากต้องการขอวงเงินกู้เพิ่มเพื่อนำเงินก้อนไปใช้จ่าย ก็สามารถขอทำรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากดำเนินการกับสินเชื่อบ้านทีทีบีจะเป็นการกู้เพิ่มกับสินเชื่อบ้านแลกเงิน Top Up นั่นคือลูกค้าจะจัดทำสัญญาทั้งหมด 2 สัญญาคือ สัญญารีไฟแนนซ์ และสัญญาบ้านแลกเงิน Top up ซึ่งช่วยให้ลูกค้าที่มีบ้านผ่อนอยู่ก็สามารถกู้เพิ่ม รับเงินก้อนไปเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน หรือใช้รวบหนี้ได้ ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการกู้สินเชื่อบุคคล ซึ่งกู้ได้ขั้นต่ำ 1 แสน ให้วงเงินสูงถึง 15 ล้านบาทและไม่เกิน 95% ของราคาประเมินธนาคาร

รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินเหมาะกับใครบ้าง?

การขอรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินเหมาะกับผู้ที่ผ่อนบ้านมาแล้วครบ 3 ปี และต้องการเงินเพิ่มเสริมสภาพคล่อง เช่น ผู้ที่ต้องการเงินทุนสำหรับธุรกิจ ซ่อมแซมต่อเติมบ้าน การศึกษา หรือรวมหนี้ต่างๆ ให้เป็นก้อนเดียว ซึ่งนอกจากจะลดภาระดอกเบี้ยให้ต่ำลงแล้ว ยังได้เงินก้อนเพื่อใช้จ่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้กู้ควรมีความสามารถในการผ่อนชำระที่เพียงพอด้วย

ข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน

การรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนมีบ้าน เพราะนอกจากจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยแล้ว ยังช่วยให้เรามีเงินก้อนไปใช้จ่ายตามความจำเป็น เพิ่มความคล่องตัวให้กับชีวิตได้อีกด้วย

• ลดดอกเบี้ยผ่อนสบายขึ้น หัวใจหลักของการรีไฟแนนซ์คือการย้ายไปอยู่กับธนาคารที่ให้ข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลง ช่วยให้เรามีเงินเหลือไปทำอย่างอื่น หรือเก็บออมได้มากขึ้น
• ได้เงินก้อนไปใช้จ่าย นอกจากลดดอกเบี้ยแล้ว ยังสามารถขอวงเงินกู้เพิ่มจากส่วนต่างของราคาประเมินบ้านในปัจจุบัน หักยอดหนี้เดิม ทำให้เรามีเงินสดก้อนใหญ่ไปใช้จ่ายตามแผนที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน, รวบหนี้บัตรเครดิต หรือต่อยอดลงทุน
• ขยายระยะเวลาผ่อน หากต้องการให้ยอดผ่อนต่อเดือนลดลงไปอีก การขยายระยะเวลาผ่อนชำระออกไปก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งจะช่วยลดภาระในแต่ละเดือนลงได้อย่างชัดเจน แต่อาจต้องแลกกับดอกเบี้ยรวมที่สูงขึ้นตลอดอายุสัญญา
• เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน การมีเงินก้อนสำรองไว้ในมือช่วยสร้างความอุ่นใจและเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงิน หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือมีโอกาสดี ๆ เข้ามา ก็สามารถคว้าไว้ได้ทันท่วงที

ข้อควรระวังของการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน

แม้จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินก็เปรียบเสมือนดาบสองคม หากไม่ได้วางแผนการเงินอย่างรอบคอบ ก็อาจสร้างภาระหนี้สินเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น มาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องระวังบ้าง

• หนี้เพิ่มขึ้น ถ้าไม่วางแผนดีอาจเป็นภาระ แน่นอนว่าการกู้เพิ่มหมายถึงยอดหนี้โดยรวมที่สูงขึ้น หากไม่มีวินัยทางการเงิน หรือนำเงินไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ อาจทำให้การผ่อนชำระในระยะยาวตึงมือและกลายเป็นภาระหนักได้ ดังนั้น ก่อนกู้สินเชื่อใดๆ ต้องอย่าลืมหลักการที่ว่า กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
• ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ การรีไฟแนนซ์มีค่าใช้จ่ายแฝงที่ต้องพิจารณา เช่น ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์, ค่าอากรแสตมป์, ค่าจดจำนอง, ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย หรือประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ (MRTA) ที่ต้องทำเพิ่ม

กรณีไหนที่ควรขอรีไฟแนนซ์เพิ่มวงเงินกู้

การตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อขอวงเงินกู้เพิ่มนั้น ควรมาจากความต้องการที่ชัดเจนและมีการวางแผนมาอย่างดี ลองมาดูกันว่ามีสถานการณ์ไหนบ้างที่การรีไฟแนนซ์เพิ่มวงเงินจะเข้ามาเป็นฮีโร่ช่วยแก้ปัญหาได้

• ต่อเติมบ้าน เมื่อบ้านหลังเดิมเริ่มคับแคบ หรือต้องการปรับปรุงฟังก์ชันการใช้งานใหม่ การนำเงินก้อนที่ได้มาต่อเติมหรือรีโนเวทบ้าน ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับที่อยู่อาศัยในระยะยาว
• ปิดหนี้บัตรเครดิต การรวบหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีดอกเบี้ยสูง มาไว้ในสินเชื่อบ้านที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่ามาก เป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการลดภาระดอกเบี้ยและช่วยให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
• ลงทุนธุรกิจ สำหรับคนที่มีแผนจะเริ่มต้นหรือขยายกิจการของตัวเอง เงินก้อนที่ขอกู้เพิ่มนั้นสามารถเป็นทุนหมุนเวียนหรือเงินลงทุนก้อนแรก ที่มีต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ
• เงินสำรองฉุกเฉิน ในภาวะที่ไม่แน่นอน การมีเงินสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือการซ่อมแซมบ้านครั้งใหญ่ จะช่วยสร้างความมั่นคงและลดความกังวลใจทางการเงินได้เป็นอย่างดี

รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารเดิม vs ธนาคารใหม่ต่างกันอย่างไร

การเลือกว่าจะรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมที่เคยใช้บริการอยู่ หรือย้ายไปธนาคารใหม่ เป็นอีกหนึ่งคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัย ซึ่งทั้งสองทางเลือกมีข้อดีและข้อสังเกตที่แตกต่างกัน การอยู่กับธนาคารเดิมอาจให้ความสะดวกสบายและลดขั้นตอนบางอย่างลงไปได้ เพราะธนาคารมีข้อมูลและประวัติของเราอยู่แล้ว ในขณะที่การย้ายไปธนาคารใหม่อาจเปิดโอกาสให้เราได้รับข้อเสนอโปรโมชันดอกเบี้ยที่ดีกว่า ซึ่งอาจช่วยประหยัดเงินได้มากกว่าในระยะยาว

• การรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม ซึ่งเรียกกว่า การขอรีเทนชั่น (Retention)
  • ข้อดี ขั้นตอนไม่ยุ่งยากเท่าการยื่นขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ เพราะไม่ต้องเตรียมเอกสารต่างๆและไม่ต้องเสียเวลาไปกับการดำเนินการต่างๆเหมือนกับการกู้ขอสินเชื่อใหม่
  • ข้อเสีย ข้อเสนออัตราดอกเบี้ยอาจไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับโปรโมชันสำหรับลูกค้าใหม่ของธนาคารอื่น
• การรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่
  • ข้อดี มีโอกาสได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและเงื่อนไขที่ดีกว่า เพราะธนาคารใหม่มักจะมีโปรโมชันพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่
  • ข้อเสีย มีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการมากกว่า เช่น ค่าประเมินราคา ค่าจดจำนองใหม่ และต้องเตรียมเอกสารรวมถึงใช้เวลาในการดำเนินการที่นานกว่า ซึ่งบางกรณีหากดำิเนินการล่าช้า ทำให้ต้องจ่ายค่างวดและดอกเบี้ยที่แพงขึ้นไปแล้ว

ตารางเปรียบเทียบ รีไฟแนนซ์ปกติ vs รีไฟแนนซ์เพิ่มวงเงิน

เพื่อให้เห็นภาพรวมของการรีไฟแนนซ์ทั้ง 2 แบบว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร ทีทีบีขอสรุปด้วยจุดสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

หัวข้อเปรียบเทียบ	รีไฟแนนซ์ปกติ	รีไฟแนนซ์เพิ่มวงเงิน
อัตราดอกเบี้ย	เปลี่ยนไปตามโปรโมชันใหม่	เปลี่ยนไปตามโปรโมชันใหม่
ได้เงินเพิ่ม	ไม่ได้เงินก้อนเพิ่ม	ได้เงินก้อนส่วนต่างเพิ่ม โดยเป็นการกู้เพิ่มจากสินเชื่อบ้านแลกเงิน
ระยะเวลาผ่อน	อาจเท่าเดิม หรือขยายเวลาได้	อาจเท่าเดิม หรือขยายเวลาได้
เหมาะกับใคร	ผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ยและยอดผ่อนต่อเดือน	ผู้ที่ต้องการลดดอกเบี้ยและต้องการเงินก้อนไปใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น

วงเงินที่ขอกู้เพิ่ม คิดดอกเบี้ยเท่าไหร่?

ดอกเบี้ยของวงเงินกู้ที่ขอเพิ่มจากการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน โดยปกติเฉลี่ยสามปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 5-7% ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยอาจแตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละธนาคาร แต่สำหรับสินเชื่อบ้านแลกเงิน Top up ของทีทีบี มีหลายหลายดอกเบี้ยให้เลือกตามความต้องการ ทั้งดอกเบี้ยคงที่ ปีแรก เริ่มต้น 3.99% ต่อปี เฉลี่ยสามปี 5.323% ต่อปี หรือหากใครไม่อยากกังวลว่าจะต้องเจอดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นในปีที่ 4 ก็มีทางเลือกดอกเบี้ยเรทเดียวตลอดสัญญา ผ่อนดี ปีที่ 4 ดอกเบี้ยไม่ปรับขึ้นให้เลือกได้ตามความต้องการ

อยากรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินต้องทำอย่างไร?

หากอยากรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน เพียงแค่ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร และแจ้งความประสงค์ในการขอรีไฟแนนซ์บ้านและขอวงเงินกู้เพิ่มได้เลย หากสนใจสินเชื่อรีไฟแนนซ์ของทีทีบี สามารถกรอกข้อมูลและให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้เลยที่เว็บไซต์ทีทีบี

ขั้นตอนการขอรีไฟแนนซ์บ้านกู้เพิ่ม

สำหรับคนที่ตัดสินใจแล้วว่าการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินคือคำตอบที่ใช่ ขั้นตอนการดำเนินการก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่เตรียมตัวให้พร้อมตามขั้นตอนต่อไปนี้ ก็สามารถเดินหน้ายื่นขอสินเชื่อได้เลย

• ตรวจสอบคุณสมบัติ เริ่มจากการสำรวจคุณสมบัติเบื้องต้นของตัวเอง เช่น ผ่อนชำระสินเชื่อบ้านเดิมมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และมีรายได้ที่มั่นคงเพียงพอต่อการขอวงเงินกู้เพิ่ม
• เปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายธนาคาร แต่ละธนาคารมีโปรโมชัน อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ควรใช้เวลาศึกษาและเปรียบเทียบข้อเสนอจากอย่างน้อย 2-3 แห่ง เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีและคุ้มค่าที่สุด
• เตรียมเอกสาร จัดเตรียมเอกสารส่วนตัว เอกสารทางการเงิน และเอกสารที่เกี่ยวกับหลักประกันให้ครบถ้วนตามที่ธนาคารกำหนด การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้ขั้นตอนการพิจารณาสินเชื่อรวดเร็วยิ่งขึ้น
• ยื่นคำขอและรอประเมิน เมื่อเลือกธนาคารและเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถยื่นคำขอสินเชื่อได้เลย จากนั้นธนาคารจะนัดหมายเพื่อเข้าประเมินราคาบ้าน และแจ้งผลการอนุมัติสินเชื่อให้ทราบในลำดับถัดไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน

รีไฟแนนซ์บ้านกู้เพิ่มได้กี่ครั้ง?

โดยทั่วไปแล้วไม่มีการจำกัดจำนวนครั้งในการรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ตราบใดที่ผู้กู้ยังมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของธนาคาร เช่น มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี และมูลค่าของหลักประกันยังคงสูงกว่ายอดหนี้คงค้าง อย่างไรก็ตาม การรีไฟแนนซ์แต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และค่าปรับในกรณียกเลิกสัญญาก่อนครบกำหนด จึงควรพิจารณาถึงความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

รีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินมีค่าใช้จ่ายไหม?

การรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน ปกติจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆเหมือนการทำสัญญากู้บ้าน ได้แก่

• ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ (ค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท)
• ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของวงเงินกู้
• ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย
• ค่าจดจำนอง
• ค่าเบี้ยประกัน MRTA (ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ)
• ค่าธรรมเนียมอื่นๆ (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร)

สำหรับสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ทีทีบี มีโปรโมชันพิเศษให้ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้กู้ คือ ฟรี ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และทางเลือกฟรีค่าจดจำนอง*

ทำให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ได้มาก ซึ่งเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกในการจัดการภาระทางการเงิน

สรุปบทความ

การรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างหนี้และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินไปพร้อมกัน เพราะนอกจากจะได้วงเงิน Top-Up มาหมุนเวียนแล้ว ยังได้ประโยชน์ในการลดอัตราดอกเบี้ยบ้านให้ถูกลงได้หลังผ่อนชำระมาแล้ว 3 ปีเต็ม แต่ทั้งนี้ ทีทีบี อยากแนะนำให้คุณมองหาทางเลือกในการเพิ่มรายได้ หรือการปรับพฤติกรรมการใช้เงินร่วมด้วย เพื่อไม่ให้การเงินของคุณต้องสะดุด

สุดท้าย หากคุณกำลังพิจารณาเรื่องการรีไฟแนนซ์บ้าน ทีทีบี มีดอกเบี้ยพิเศษที่หลากหลายที่ตอบโจทย์นักผ่อนบ้านทุกสาย ไม่ว่าจะเป็นสายโปะ ด้วยดอกเบี้ยคงที่ปีแรกเริ่มต้นเพียง 1.50% ต่อปี ยิ่งโปะยิ่งหมดไว สายเป๊ะ ด้วยดอกเบี้ยเรทเดียวตลอดสัญญา ผ่อนดี ปี4 ไม่ปรับขึ้น หรือ สายชัวร์ ด้วยดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก เริ่ม 2.89% ต่อปี ทำให้ทราบยอดผ่อนที่แน่นอนช่วยให้คุณลดภาระดอกเบี้ยและเป็นเจ้าของบ้านได้ไวขึ้น คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์

ส่วนสินเชื่อบ้านแลกเงิน Top up ทีทีบี มีดอกเบี้ยพิเศษที่หลากหลายเช่นเดียวกัน ทั้งดอกเบี้ยคงที่ ปีแรก เริ่มต้น 3.99% ต่อปี เฉลี่ยสามปี 5.323% ต่อปี หรือหากใครไม่อยากกังวลว่าจะต้องเจอดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นในปีที่ 4 ก็มีทางเลือกดอกเบี้ยเรทเดียวตลอดสัญญา ผ่อนดี ปีที่ 4 ดอกเบี้ยไม่ปรับขึ้น

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขการสมัคร สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ทีทีบี หรือกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดต่อกลับเพื่อให้คำปรึกษา หรือสมัครได้ที่ ทีทีบีทุกสาขา และ แอปทีทีบีทัช

*ธนาคารจะออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ 1% ของวงเงินอนุมัติสินเชื่อรวมสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท โดยลูกค้าชำระค่าธรรมเนียมจดจำนองก่อนแล้วธนาคารจะโอนค่าธรรมเนียมจดจำนองดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าภายในระยะเวลา 30 วัน นับจากวันที่จำนองหลักประกัน

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว : สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 3% - 6% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-4.115% ถึง MRR-1.430% ต่อปี • : สินเชื่อบ้านแลกเงิน ท็อปอัป อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 5% - 8% ต่อปี • สมมติฐานการคำนวณมาจากอัตราดอกเบี้ย MRR-1.855% ถึง MRR+0.820% ต่อปี • โดยอัตราดอกเบี้ย MRR ณ วันที่ 15 ส.ค. 68 = 7.305% ต่อปี • อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ • เงื่อนไขการสมัครและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกําหนด • รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com