external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

5 สิ่งที่คนมีรถต้องเช็ก ทางออกในยุคราคาน้ำมันพุ่งแรง

#ttb #fintips #บัตรเครดิต #บัตรเครดิตttb #บัตรเครดิตใบแรก #สมัครบัตรเครดิตใบแรก #บัตรเครดิตเติมน้ำมัน #ฉลาดออมฉลาดใช้

8 มี.ค. 2566


  • เช็กความพร้อมของสภาพรถก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อประหยัดน้ำมัน
  • มีตัวช่วยประหยัดรายจ่ายค่าน้ำมันด้วยเครดิตเงินคืน

 

เมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูงต่อเนื่องทุกปีย่อมทวีภาระค่าใช้จ่ายให้คนมีรถต้องแบกรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจากสถิติโดยกรมขนส่งทางบกพบว่า ในปี 2022 ทั้งกรุงเทพมีจำนวนรถยนต์ถึง 26.77 % ของจำนวนรถยนต์ทั่วประเทศ (11 ล้านคันจากทั้งหมดทั่วประเทศที่มี 43 ล้านคัน) ตัวเลขนี้ยิ่งอธิบายได้ว่าทำไมกรุงเทพจึงอยู่อันดับที่ 32 ของเมืองที่มีรถติดมากที่สุดของโลกในปี 2022

ทั้งยังยิ่งตอกย้ำความจริงที่ว่าสิ่งที่คนไทยต้องสูญเสียไปกับปัญหาจราจรที่แออัดไม่ได้มีเพียงแค่เวลาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงค่าน้ำมันที่เสียเปล่าไปบนท้องถนน รู้อย่างนี้แล้วคนมีรถควรทำอย่างไรจึงจะค้นพบทางรอดในยุคราคาน้ำมันพุ่งแรง

น้ำมันแพงเพราะอะไร


1. น้ำมันแพงเป็นเพราะอะไร

ในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ อ้างอิงจากราคาน้ำมันเบนซินซึ่งเป็นน้ำมันที่มีผู้ใช้ถึง 69.97% ของชนิดน้ำมันทั้งหมด หากย้อนไปในปี 2020 ราคาน้ำมันเบนซินเคยมีราคาสูงสุดอยู่ที่ 33.79 บาท/ลิตร ทว่าเมื่อเทียบกับปี 2022 ราคาเบนซินพุ่งขึ้นมาแตะถึง 52.19 บาท/ลิตร นี่จึงทำให้เราสามารถอนุมานได้ว่าภายใน 2 ปี ราคาน้ำมันสามารถเพิ่มราคาขึ้นมากกว่าเดิมได้ถึง 54.45% แน่นอนว่าปัจจัยการขึ้นราคาน้ำมันเกิดจากหลายตัวแปรทางเศรษฐกิจ เช่น

  • ราคาต้นทุน เพราะไทยต้องนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ราคาจึงอ้างอิงจากประเทศที่ส่งออก
  • อุปสงค์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก เมื่อแต่ละประเทศเริ่มฟื้นตัวจากพิษโควิด มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ผู้คนกลับมาสัญจรและใช้ชีวิตตามปกติ ความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นย่อมส่งผลให้ราคาเพิ่มมากขึ้น
  • อุปทาน สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลต่อปริมาณและกำลังในการผลิตและส่งออกน้ำมันที่น้อยลงซึ่งสวนทางกับความต้องการของตลาด
  • ปัจจัยกำหนดราคาน้ำมันของแต่ละปั๊ม เช่น ต้นทุนน้ำมันจากราคาผลิตของโรงกลั่นอ้างอิงตามตลาดกลางซึ่งมีสัดส่วนถึง 40-60% ของราคาน้ำมัน ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขนส่งน้ำมันและค่าใช้จ่ายของปั๊ม เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าเช่าที่ดิน เป็นต้น

ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการเดินทางของมนุษย์ทำงานในแต่ละวัน ที่ต้องเผชิญกับสภาพพื้นที่แออัดของกรุงเทพจนยากจะเลี่ยงรถติดได้พ้น หนทางที่จะช่วยให้คนมีรถลดรายจ่ายจากค่าน้ำมันก็ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นและหันมาใส่ใจการดูแลรถให้พร้อมขับอยู่เสมอเพื่อเลี่ยงการกินน้ำมัน

เช็กความพร้อมของสภาพรถก่อนใช้ทุกครั้งเพื่อประหยัดน้ำมัน


2. ใช้รถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะประชาชนธรรมดา ทางรอดในวิกฤติค่าน้ำมันแพงคือการต้องพึ่งพาตัวเอง หลายคนอาจใช้วิธีเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่อีกหลายคนก็ยังจำเป็นต้องใช้รถยนต์อย่างเลี่ยงไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่พอจะทำได้เพื่อบรรเทาภาระค่าน้ำมันต่อเดือนคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลรถให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นโดยการเช็กความพร้อมของสภาพรถก่อนใช้ทุกครั้ง ได้แก่


ตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์รถเป็นประจำ

ไม่ว่าจะรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้นานหรือจะผ่านการใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันล้วนเป็นเรื่องจำเป็นที่เจ้าของรถจะต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์อยู่เสมออย่างน้อยปีละครั้ง ประกอบไปด้วยขั้นตอนตรวจเช็กแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานในการสตาร์ทรถ การตรวจเช็กน้ำมันเครื่องเพื่อคอยระวังการปนเปื้อนและรั่วไหลของน้ำมัน

โดยทั่วไปแล้วน้ำมันเครื่องรถยนต์ควรมีเหลืองใส ส่วนสีเข้มเป็นสัญญาณของการเสื่อมประสิทธิภาพซึ่งอาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอและสิ้นเปลืองน้ำมัน รวมทั้งตรวจเช็กระบบสำคัญอื่นๆ เช่น ระบบเบรก ไฟหน้ารถ ที่ปัดน้ำฝนเพราะนอกจากเครื่องยนต์ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมจะปลอดภัยต่อการขับขี่ทุกการเดินทางแล้วยังช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 10 % ต่อเดือน


เช็กความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ

ความดันลมยางส่งผลโดยตรงต่อปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในการขับขี่ เพราะหากลมยางอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมทำให้ยางมีความฝืดมากกว่าที่ควรเป็นถึงเวลาขับจึงต้องเร่งเครื่องยนต์มากขึ้นส่งผล ให้การใช้งานแต่ละครั้งล้วนสิ้นเปลืองน้ำมันหรือเชื้อเพลิง โดยควรเช็กลมยางอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือหากใช้รถเดินทางไกลบ่อยๆ ควรตรวจเช็กทุกระยะทาง 500 กิโลเมตร


เช็กความสะอาดของไส้กรองอากาศ

ไอเสียจากเครื่องยนต์จนเป็นควันดำเกิดจากสภาพของไส้กรองอากาศที่อุดตันซึ่งไม่เพียงสร้างมลพิษบนท้องถนนแต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ทำให้เมื่อขับรถเกิดปัญหาเครื่องยนต์สั่น หรือกำลังตกจนเร่งไม่ขึ้น แน่นอนว่ายิ่งสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นอีกโข เจ้าของรถจึงต้องไม่ละเลยการทำความความสะอาดไส้กรองอากาศเป็นประจำทุก 2-3 สัปดาห์หรือทุก 2,500 กิโลเมตร เพราะไส้กรองทำงานตลอดเวลาในการคอยกรองฝุ่นละอองและป้องกันสิ่งสกปรกภายนอกที่ปะปนอยู่ในอากาศไม่ให้ไหลเข้ามาในเครื่องยนต์ เพื่อให้กระบวนการเผาไหม้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์


เช็กกำหนดเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น

คนรักรถย่อมรู้ดีว่าการบำรุงรักษาเครื่องยนต์จะมองข้ามไปไม่ได้ โดยเฉพาะการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตได้กำหนดไว้ เพราะน้ำมันหล่อลื่นคือส่วนสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เป็นปกติ ทั้งช่วยลดการเสียดสีและชะลอการสึกหรอ ให้รถคันโปรดขับขี่ได้อย่างราบรื่นและประหยัดเชื้อเพลิงไปในตัว ที่สำคัญต้องไม่ลืมตรวจสอบรอยรั่วของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงจากรอยน้ำหยดใต้รถ หากสังเกตเห็นควรติดต่อศูนย์บริการ ยิ่งปล่อยไว้อาจทำให้เกิดการรั่วเป็นวงกว้างมากขึ้นและเกิดอันตรายได้


เช็กตัวช่วยประหยัดค่าน้ำมัน

ท้ายที่สุดภาระค่าน้ำมันที่แพงขึ้นก็ตกอยู่ที่ประชาชนเป็นคนจ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่แทนที่จะต้องกัดฟันจ่ายเงินสดจำนวนเต็มทุกครั้งที่เข้าปั๊มน้ำมัน คนมีรถอาจจะต้องมองหาตัวช่วยประหยัดค่าน้ำมันรถ โดยการเลือกบัตรเครดิตที่ให้โปรโมชันรับเครดิตเงินคืนหรือส่วนลดเมื่อใช้บริการเติมน้ำมัน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย อย่างเช่น บัตรเครดิต ttb ที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับคนรักรถอีกมากมาย ซึ่งสามารถตรวจสอบรายละเอียดโปรโมชัน Joy Ride ของบัตรเครดิต ttb ได้ที่นี่ คลิก

หากใครยังไม่มีบัตรเครดิต ttb สามารถสมัครบัตรเครดิต ttb ทางออนไลน์ ได้เลยผ่านทางเว็บไซต์ เจ้าหน้าที่ ttb จะติดต่อกลับท่านในวันทำการ หรือ สามารถ สมัครได้ที่ ttb bank สาขาของธนาคารทั่วประเทศไทย


ที่มาข้อมูล กรมการขนส่งทางบก ,Inrix : Global Traffic Scorecard , กระทรวงพลังงาน , ศูนย์ข่าวพลังงาน

ให้คะแนนความพึงพอใจ
ประสบการณ์ในการใช้งานเว็บไซต์วันนี้ คุณพอใจมากน้อยแค่ไหน ?

รบกวนให้คะแนนเราหน่อยนะ

1
2
3
4
5
ไม่พอใจพอใจมากที่สุด