external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

ภาษีย้อนหลัง คืออะไร โดนเรียกเก็บย้อนหลัง! ไม่มีเงินก้อนจ่าย ทำอย่างไรดี?

#fintips #รอบรู้เรื่องกู้ยืม #ภาษีย้อนหลัง #ภาษีย้อนหลัง คืออะไร #วางแผนภาษี #สินเชื่อเงินสด
26 ก.ย. 2568

ภาษีย้อนหลังคงเป็นคำที่ไม่มีใครอยากได้ยิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีหนังสือจากกรมสรรพากรส่งมาถึงบ้าน พร้อมแจ้งยอดภาษีที่ต้องชำระย้อนหลังหลายปี หลายคนถึงกับตั้งตัวไม่ทัน เพราะไม่ได้กันเงินไว้ล่วงหน้า แถมยอดที่ต้องจ่ายก็อาจสูงเกินความคาดหมาย ดังนั้น ในบทความนี้ fin tips by ttb จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า ภาษีย้อนหลัง คืออะไร

ทำไมถึงถูกเรียกเก็บและหากไม่มีเงินก้อนจ่ายทันทีจะมีทางออกอย่างไรบ้าง พร้อมแนวทางการวางแผนภาษีล่วงหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้อีกในอนาคต เพราะเรื่องภาษี แม้จะดูไกลตัว แต่ถ้าไม่ใส่ใจก็อาจกลายเป็นภาระที่คุณไม่ทันได้เตรียมใจมาก่อนได้


ภาษีย้อนหลัง คืออะไร

ภาษีย้อนหลัง คือการที่กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมจากปีภาษีที่ผ่านมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการตรวจสอบข้อมูลในภายหลัง แล้วพบว่าผู้มีรายได้ยื่นข้อมูลไม่ถูกต้อง หรือมีรายได้บางส่วนที่ยังไม่ได้นำมาคำนวณเพื่อเสียภาษี


ทำไมถึงถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มในภายหลัง?

การถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยสาเหตุที่พบบ่อยมักเกิดจากความเข้าใจผิดหรือการหลงลืม ดังนี้

  • ยื่นภาษีไม่ครบถ้วน กรณีที่พบบ่อย คือการเปลี่ยนงาน หรือย้ายงานระหว่างปี และได้รับเอกสาร 50 ทวิ (หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย) จากทั้งบริษัทเก่าและใหม่ แต่ตอนยื่นภาษีกลับยื่นรายได้จากที่ทำงานล่าสุดเพียงแห่งเดียว ทำให้รายได้ที่แจ้งขาดหายไป
  • มีรายได้จากหลายช่องทาง นอกจากเงินเดือนประจำแล้ว อาจมีรายได้จากช่องทางอื่น ๆ เช่น งานฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ ค่าเช่าหรือเงินปันผล แต่กลับยื่นภาษีเฉพาะส่วนของเงินเดือนเพียงเท่านั้น
  • หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนผิด ใช้สิทธิลดหย่อนเกินจริง หรือหักค่าใช้จ่ายผิดประเภทไปจากที่กฎหมายกำหนด
  • ลืมยื่นภาษี มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นแบบฯ แต่ไม่ได้ยื่นภายในเวลาที่กำหนด


ค่าปรับจ่ายภาษีย้อนหลัง มีอะไรบ้าง?

เมื่อถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง นอกจากจะต้องชำระยอดภาษีที่ขาดไปแล้ว ยังมีเบี้ยปรับและเงินเพิ่มตามมาอีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละกรณี ดังนี้

tax bill

กรณียื่นภาษีทัน แต่จ่ายไม่ครบ

หากคุณยื่นแบบแสดงรายได้ภาษี (ภ.ง.ด.) ภายในเวลาที่กำหนด แต่ชำระเงินไม่ครบจำนวนหรือจ่ายล่าช้า จะถูก คิดเงินเพิ่ม หรือดอกเบี้ยจากยอดที่ยังไม่ได้จ่าย โดยทั่วไปจะคิดอัตรา 1.5% ต่อเดือน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันถัดจากวันครบกำหนดยื่นแบบ

ตัวอย่าง หากคุณค้างจ่ายภาษี 10,000 บาท เป็นเวลา 2 เดือน จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 300 บาท (10,000 x 1.5% x 2) รวมเป็น 10,300 บาท

กรณียื่นภาษีล่าช้า

ในกรณีที่คุณยื่นแบบภาษีเกินระยะเวลาที่กำหนด จะมีทั้งค่าปรับและเงินเพิ่ม ดังนี้

  • ค่าปรับทางอาญา สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สรรพากรอาจเปรียบเทียบปรับในอัตราที่เหมาะสมตามกรณี
  • เงินเพิ่ม คิดจากยอดภาษีที่ต้องชำระตามปกติในอัตรา 1.5% ต่อเดือน เช่นเดียวกับกรณีข้างต้น

กรณีไม่เคยยื่นภาษี หรือตั้งใจไม่ยื่น เพื่อเลี่ยงภาษี

ถ้าคุณมีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี แต่ไม่เคยยื่นแบบเลย อาจถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังพร้อมกับบทลงโทษ ดังนี้

  • เบี้ยปรับ 1 เท่าของภาษีที่ต้องจ่าย (กรณีไม่ได้ตั้งใจหลีกเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน)
  • เงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน ของยอดภาษีที่ค้างชำระ

กรณีตั้งใจหลีกหนีภาษี

หากคุณมีความตั้งใจหนีภาษี ไม่จ่ายก็ถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย โดยเฉพาะหากมีพฤติกรรม เช่น ปกปิดรายได้ ปลอมเอกสารหรือยื่นข้อมูลเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี จะมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและอาญา เช่น ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเต็มจำนวน เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ในกรณีนี้ คุณจะไม่สามารถขอลดหย่อนค่าปรับได้ และอาจถูกตรวจสอบย้อนหลังหลายปีอีกด้วย


จะตรวจสอบได้อย่างไร ว่ามีภาษีย้อนหลังหรือไม่?

หลายคนอาจไม่รู้ตัวเลยว่ามีภาษีย้อนหลังที่ยังค้างอยู่กับกรมสรรพากร จนกว่าจะได้รับจดหมายแจ้งเตือน หรือมีปัญหาในการทำธุรกรรมบางอย่าง เช่น ขอคืนภาษีหรือขอกู้สินเชื่อ ดังนั้น หากต้องการเช็กสถานะภาษีของตนเอง สามารถดำเนินการได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เข้าไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th แล้วเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผู้ใช้งาน หากคุณเคยยื่นภาษีผ่านระบบ e-Filing จะสามารถดูข้อมูลย้อนหลัง การยื่นแบบภาษีและยอดภาษีค้างได้ทันที
  • โทรสอบถามที่ Call Center กรมสรรพากร ผ่านสายด่วนหมายเลข 1161 เจ้าหน้าที่จะคอยช่วยตรวจสอบข้อมูลให้
  • สอบถามโดยตรงที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ กรณีมีข้อสงสัยเรื่องภาษีย้อนหลัง หรือได้รับหนังสือแจ้งยอดจากสรรพากร ควรไปที่สำนักงานสรรพากรในพื้นที่เพื่อรับคำแนะนำโดยตรง และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับ


เจอภาษีย้อนหลัง แต่เงินก้อนไม่พอ! ทำอย่างไรดี?

เมื่อได้รับแจ้งว่าต้องจ่ายภาษีย้อนหลัง แต่ไม่มีเงินเพียงพอ หลายคนอาจรู้สึกเครียดและกังวล เพราะจำนวนเงินภาษีอาจสูงกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้วางแผนหรือกันเงินไว้ล่วงหน้า แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะยังมีทางออกที่สามารถช่วยให้คุณผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ สามารถติดต่อสรรพากรเพื่อขอผ่อนชำระภาษีย้อนหลัง โดยการยื่นคำร้องขอผ่อนชำระเป็นงวด ๆ ได้ และต้องมียอดภาษีที่ต้องชำระตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป จึงจะสามารถยื่นคำร้องขอผ่อนชำระภาษีได้ และสามารถผ่อนชำระได้ทั้งหมด 3 งวด หากชำระตรงเวลาก็จะไม่ต้องเสียทั้งค่าปรับและดอกเบี้ย

บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช

อย่างไรก็ตาม แม้จะขอผ่อนกับกรมสรรพากรได้แล้ว ก็ยังอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นระหว่างทาง เช่น รายจ่ายฉุกเฉิน ค่าใช้จ่ายประจำเดือนหรือเงินผ่อนภาษีงวดถัดไปที่อาจชนกับรอบเงินเดือนที่ยังมาไม่ถึง ในสถานการณ์เช่นนี้ หากคุณมีแหล่งเงินฉุกเฉินที่พร้อมใช้ จึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณผ่านช่วงเวลาตึงมือได้อย่างมั่นใจมากขึ้น บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช เป็นอีกหนึ่งทางเลือกจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการเงินของคุณได้ในยามจำเป็น ด้วยวงเงินสำรองที่พร้อมใช้ วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน โอนวงเงินจากบัตรเข้าบัญชีเงินฝากและสามารถเบิกถอนเงินสดได้ผ่านแอป touch และตู้ ATM ทั่วประเทศได้ตลอด 24 ชม. โดยสามารถเลือกผ่อนชำระคืนได้ นานสูงสุด 72 เดือน โปะได้ ปิดยอดได้ โดยไม่คิดดอกเบี้ยเพิ่มและไม่มีค่าปรับเพิ่มเติม ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด หรือนำมาเสริมสภาพคล่องในช่วงที่ต้องชำระภาษีได้


ไม่อยากโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแบบนี้อีก ต้องทำยังไงบ้าง?

การเจอภาษีย้อนหลังเพราะไม่ได้วางแผนภาษีให้ดีตั้งแต่แรก อาจกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดซ้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังอีกในอนาคต คุณควรเริ่มต้นวางแผนภาษีอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นปี วันนี้ fin tips by ttb มีทริกมาฝากกัน ดังนี้

  • วางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปี อย่ารอให้ถึงปลายปีหรือช่วงยื่นแบบภาษีแล้วค่อยคิด เริ่มต้นจากการประมาณรายได้ทั้งปีไว้ล่วงหน้า แล้วดูว่าเข้าข่ายต้องเสียภาษีหรือไม่ เพื่อวางแผนลดหย่อนและเตรียมเงินจ่ายภาษีได้ทันเวลา
  • หมั่นตรวจสอบรายได้จากทุกช่องทาง หากคุณมีรายได้มากกว่าหนึ่งแหล่ง เช่น งานประจำ ฟรีแลนซ์ ขายของออนไลน์ หรือค่าเช่า ต้องรวมรายได้ทั้งหมดมายื่นภาษีให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่ามีรายได้บางส่วนตกหล่นแล้วถูกตรวจสอบย้อนหลัง
  • หักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนให้ถูกต้อง ศึกษาสิทธิในการหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เช่น ค่าประกันชีวิต กองทุน LTF/RMF ดอกเบี้ยบ้าน ฯลฯ เพราะการใช้สิทธิเหล่านี้ได้เต็มที่จะช่วยลดจำนวนภาษีที่ต้องจ่าย และทำให้ยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องตามจริง
  • กันเงินสำรองไว้สำหรับภาษีโดยเฉพาะ แม้ยังไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายภาษีเท่าไร แต่การกันเงินไว้เดือนละเล็กละน้อย เช่น 5–10% ของรายได้ จะช่วยให้คุณมีเงินพร้อมจ่ายเมื่อต้องยื่นแบบ หรือหากเจอกรณีถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังก็จะไม่เดือดร้อนในภายหลัง


สรุปบทความ

ภาษีย้อนหลัง เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้หลายทาง หรือมีการเปลี่ยนงาน บ่อยครั้ง ทั้งนี้ หากคุณทำความเข้าใจถึงสาเหตุ ค่าปรับและวิธีแก้ไขเมื่อถูกเรียกเก็บก็จะช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง ที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่อยากเสียภาษีย้อนหลัง แนะนำให้วางแผนภาษีอย่างรอบคอบตั้งแต่เนิ่น ๆ และยื่นแบบแสดงรายการให้ครบถ้วนถูกต้องเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาภาษีย้อนหลังซ้ำรอยอีกในอนาคต

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช เพื่อเป็นวงเงินสำรอง เพิ่มความอุ่นใจในการใช้ชีวิต สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้ แอป ttb touch, เว็บไซต์ ttb และทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ


คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ผ่อนจ่ายภาษีย้อนหลังกับกรมสรรพากรได้ไหม?

ได้ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข เช่น ต้องเป็นภาษีตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป และผ่อนได้ 3 งวด

ภาษีย้อนหลังมีอายุความกี่ปี?

โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ตรวจสอบย้อนหลังได้ 2 ปี แต่หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าหนีภาษี อาจขยายเป็น 5 ปี และในกรณีที่มีเจตนาหนีภาษีอย่างชัดเจน อายุความจะอยู่ที่ 10 ปี

ขายของออนไลน์ ต้องยื่นภาษีอย่างไรไม่ให้โดนย้อนหลัง?

ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2 ครั้งต่อปี คือ ภ.ง.ด.94 (ครึ่งปี) และ ภ.ง.ด.90 (ปลายปี) และต้องเก็บหลักฐาน (เอกสาร) รายรับให้ครบถ้วน

ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับภาษีย้อนหลังจะติดคุกไหม?

โดยทั่วไปจะไม่ถึงขั้นจำคุกทันทีหากไม่มีเจตนาหนีภาษีอย่างชัดเจน กรมสรรพากรจะเน้นการติดตามหนี้ แต่หากละเลยหรือมีเจตนาหลีกเลี่ยงอย่างร้ายแรง โทษจำคุกก็เป็นไปได้ตามบทลงโทษทางอาญา ค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท พร้อมเบี้ยปรับอีก 1-2 เท่าของจำนวนภาษีที่ต้องชำระ และเงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือนของยอดภาษีชำระค้าง

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
บัตรกดเงินสดทีทีบี แฟลช อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
เงื่อนไขการพิจารณาและอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์www.ttbbank.com