- ใส่ใจกับร่างกายให้มากขึ้น เพราะสุขภาพกายนั้นสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
- ใจดีกับตัวเอง และคนรอบข้าง ความรู้สึกของเรา เราต้องดูแล
- ใช้ชีวิตให้ช้าลง ขณะที่โลกหมุนไป เราอาจหลงลืมตัวเองในบางครั้ง
- ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับคนที่มีค่า พาตัวเองไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี
- รักษาความสะอาด สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่
- จัดระเบียบ ลำดับความสำคัญสิ่งรอบตัว ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
- ใช้เงินอย่างชาญฉลาด อดออมเพื่ออนาคต
ปีใหม่ในความคาดหวังของใครหลายคน อาจหมายถึงตัวเรา “คนใหม่” ไม่ว่าใครก็อยากเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดเสมอ การเปลี่ยนผ่านปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมให้ยึดเหนี่ยวเพื่อตั้งปณิธานในการแก้ไขเรื่องที่เคยพลาด ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ต่อให้ตั้งใจแค่ไหน ท้ายที่สุดกลับทำไม่ได้ดังที่คาดหวังไว้ เพราะ..
“กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว”
การเปลี่ยนแปลงไม่สามารถเกิดขึ้นได้ปุบปับ ทว่าต้องอาศัยระยะเวลา หากสิ่งนั้นคืออุปนิสัยหรือความเคยชินที่ทำติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน ยิ่งต้องใช้เวลาและความอดทนแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเรามักจะติดกับดักความมุ่งหวังอันแรงกล้าของตัวเองอยู่เนือง ๆ เพราะไม่ได้ตั้งเป้าไว้บนพื้นฐานของความเป็นไปได้หรือความเป็นธรรมชาติของตัวเอง ทั้งยังต้องการพลิกหน้ามือเป็นหลังมือแบบรวบรัดตัดตอน ท้ายที่สุดก็ท้อจนถอดใจล้มเลิกไปอย่างช่วยไม่ได้
งั้นเรามาลองด้วยกันใหม่อีกครั้ง เริ่มต้นจากอะไรที่ทำได้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เพราะการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย จะค่อย ๆ สั่งสมเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต และนี่คือ 7 แรงบันดาลใจ ที่จะช่วยให้คุณได้ลงมือเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มต้นปีใหม่ เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ชีวิตดี๊ดีได้ง่าย ๆ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจแบบไม่ขาดตกบกพร่องเลยสักข้อเดียว
1. ใส่ใจกับร่างกายให้มากขึ้น เพราะสุขภาพกายนั้นสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ปณิธานยอดฮิตแต่ทำไม่เคยได้ คงไม่พ้นเรื่องการดูแลร่างกายตัวเองให้มีรูปร่างที่ได้สัดส่วนตามมาตรฐานความงามสากล แต่ร่างกายเราเป็นมากกว่าเครื่องมือสะท้อนความสวยงาม เขาถูกใช้งาน และขับเคลื่อนให้เรารู้สึกถึงการมีชีวิต เพราะฉะนั้นแทนที่จะเพ่งความสนใจไปที่รูปลักษณ์ภายนอกเพียงอย่างเดียว โฟกัสที่ความต้องการให้สุขภาพกายของเราดีขึ้นจะดีกว่า
จะไม่พูดอีกแล้วว่า “ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้อีก 3 กิโลกรัม” หรือว่า “ฉันจะใช้เวลาในยิมเพื่อผอมลงให้ได้” แต่เป็นฉันจะเลือกดื่ม เลือกรับประทาน และออกกำลังกายเพื่อให้ “มีรูปร่างที่สมส่วนและสุขภาพดี” การที่จะไปถึงปลายทางนั้นได้ ก็มีอยู่หลายวิธีการ เช่น ดื่มน้ำให้เพียงพอ ขยับร่างกายให้มากขึ้น เลือกที่จะเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์ เป็นต้น
เราทุกคนต่างรู้ดีว่าควรทำหรือไม่ควรทำอะไร นอกจากนี้ก็ไม่ลืมที่จะตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไร กันไว้ย่อมดีกว่าแก้ ควรเตรียมรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันไว้แต่เนิ่น ๆ อย่ารอให้ ‘มีเวลาว่าง’ เลย
2. ใจดีกับตัวเอง และคนรอบข้าง ความรู้สึกของเรา เราต้องดูแล
เราคงไม่สามารถแบ่งปันความสุขให้กับใครได้ ถ้าใจเราไม่ได้สุขอย่างแท้จริง ดังนั้นการเป็นคนที่น่ารักของใครต่อใคร เริ่มต้นง่าย ๆ แค่เรารักตัวเองก่อน ซึ่งการรักตัวเองไม่ใช่การเห็นแก่ตัว แต่คือตัวเราที่รู้เท่าทันความรู้สึกของตัวเองอยู่เสมอ ทิ้งความโกรธความเกลียดชังออกไป รู้จักให้อภัย ยิ้มอย่างจริงใจ ไม่ใช่เสแสร้ง และร่วมยินดีกับความสุขของผู้อื่น
ๆ และทัศนคติเชิงบวกให้แก่คนรอบข้าง โดยไม่ลืมว่ายังมีโลกเสมือนอย่างโซเชียลมีเดียที่เราอาจจะเผลอพ่นอารมณ์ติดลบออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แล้ววันหนึ่งต้องกลับมานั่งเสียใจว่า “วันนั้นฉันทำอะไรลงไป” เลิกต่อว่าด่าทอ งดเรื่องกอสซิปนินทา สิ่งเหล่านี้ล้วนไร้ซึ่งประโยชน์ ไม่จำเป็นกับชีวิต
เราคนใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม ควรจะเป็นใครที่น่ารัก แม้แต่ตัวเราเองก็อยากจะคบหาด้วย ดังนั้น ท่องเอาไว้ในใจ “อย่าเป็นใครที่เราไม่อยากพบเจอ” ใจดีกับตัวเอง ใจดีกับคนรอบข้าง ใจดีกับเพื่อนมนุษย์ และสิ่งรอบตัว ลบความคิดที่เป็นลบทั้งหมดทั้งมวลให้สิ้น เหลือไว้เพียงตัวเราที่แจ่มใส แล้วเรื่องดี ๆ จะตามมาเอง
3. ใช้ชีวิตให้ช้าลง ขณะที่โลกหมุนไป เราอาจหลงลืมตัวเองในบางครั้ง
การรู้เห็นมากเกินความจำเป็น เพิ่มความเครียดและกดดันให้เราใช้ชีวิตตามคนอื่นมากเกินไปหรือเปล่า ? ลองถอนตัวจากกระแสสังคมที่รวดเร็วแค่เพียงสักครู่ เพื่อให้เราได้รีเซตกลับไปที่ค่าตั้งต้นใหม่ ได้พูดคุย ได้ทำความรู้จักกับตัวเองในเวอร์ชั่นปัจจุบัน เพราะตัวฉันวันนี้คงไม่เหมือนกันกับตัวฉันเมื่อวาน การตกขบวนความนิยมไม่ใช่เรื่องใหญ่ ที่สำคัญคือตัวเราคือใคร ต้องการอะไรต่างหาก
ลองปิดโทรศัพท์มือถือในช่วงเวลาหนึ่งดูสักครั้ง ละสายตาออกจากนิวส์ฟีด หยุดเช็กรายการแจ้งเตือน ปิดหูปิดตากับข่าวร้ายสักหนึ่งวันคงไม่เสียหาย แล้วจะรู้ว่า ยังมีอีกหลายสิ่งรอบตัวที่เราอยากทำ แต่ยังไม่มี ‘โอกาส’ ได้ลงมือทำ อาจจะได้เจองานอดิเรกใหม่ ๆ เมื่ออ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น รู้สึกรักการท่องเที่ยวเมื่อได้ลองไปยังที่ ๆ ไม่เคยไป และอาจรู้ตัวว่าเราสามารถทำอาหารได้อร่อยกว่าที่เคยปรามาสตัวเองเอาไว้ กว่าจะรู้ว่าแท้จริงเรามีความชื่นชอบ มีความสามารถบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ก็ต่อเมื่อได้เปิดใจและทดลองทำอย่างจริงจังสักครั้งหนึ่ง
4. ใช้เวลาอันมีค่าร่วมกับคนที่มีค่า พาตัวเองไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่ดี
เรารู้ดีว่าเราอยากอยู่กับใคร และใครคือคนที่คู่ควรที่จะรักษาเขาไว้ในชีวิต ทุกความสัมพันธ์มีรูปแบบเฉพาะของตัวเอง และเราสามารถบอกได้ทันทีว่านี่เป็นความสัมพันธ์ที่ดี หรือเป็นพิษ ซึ่งไม่ใช่แค่เขาหรือใครมีหน้าที่ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้น ตัวเราเองคือสารตั้งต้นในความสัมพันธ์นั้นด้วยเช่นกัน
ไม่มีใครเป็นผู้รับตลอดไป และไม่มีใครสามารถเป็นผู้ให้ตลอดไปได้เช่นกัน ไม่เสียหายที่เราจะเป็นฝ่ายมอบความรู้สึกดี ๆ ให้ก่อน ในวันที่เราตระหนักได้ว่าบางคนมีค่ากับเรามากแค่ไหน จงเชื่อมโยงระหว่างกันเอาไว้ ด้วยการติดต่อหาบางครั้งคราว หรือส่งข้อความสั้น ๆ เพื่อแสดงความรู้สึกห่วงใย และใส่ใจเสมอ
เราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวบนโลก หมั่นสร้างบรรยากาศที่ดีร่วมกับคนรอบข้าง แค่ลองกล่าวทักทาย บอกลา ขอบคุณ ขอโทษ และยิ้ม ให้เป็นนิสัย สิ่งเหล่านี้ไม่มีราคาค่างวดที่ต้องจ่าย มีแต่คุณค่าทางจิตใจที่เราได้รับกลับมา เป็นผลตอบแทนในรูปแบบของความรู้สึกดี ๆ
5. รักษาความสะอาด สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่
ทุกคนคู่ควรกับการอยู่ในสถานที่ที่ถูกสุขลักษณะ ความสะอาดเป็นเรื่องที่ต้องทำเท่านั้นถึงจะได้มา “ฉันจะเก็บโต๊ะทำงานทุกสองสัปดาห์” “ฉันจะกวาดบ้านวันอาทิตย์” “ฉันจะเอาขยะไปทิ้งเช้าวันจันทร์” หรือ “ฉันจะล้างรถมะรืนนี้” ข้อความเตือนตัวเองเช่นนี้อาจไม่จำเป็น ขอเพียงตั้งมั่นคำว่า “สะอาดและเป็นระเบียบ” เอาไว้ ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามวิถีอย่างที่ควร โดยที่เราไม่ต้องพยายามไปกำหนดอะไรมากมาย
เริ่มจากปฏิเสธนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง ด้วยการทำให้สะอาดทันที ทุกสิ่ง ทุกพื้นที่ ที่เราใช้งาน เช่น ตื่นแล้วจัดที่นอนทันที รับประทานเสร็จต้องล้างทันที ฯลฯ จากนี้จะไม่มีจุดสกปรกจุดไหนคลาดสายตาไป โดยที่เราไม่ทำอะไรเลย ถ้าหมั่นทำความสะอาดให้เป็นนิสัย Big cleaning day ที่อาจเคยต้องทำทุกเดือน ก็คงไม่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากนี้ก็ไม่ลืมที่จะเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัย ด้วยการกำจัดข้าวของที่ไม่จำเป็น โดยการทิ้งหรือบริจาค เพราะยังมีคนอีกมากที่ต้องการสิ่งเหล่านั้น
6. จัดระเบียบ ลำดับความสำคัญสิ่งรอบตัว ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมานั้นวุ่นวายเกินรับมือ ลองตั้งหลักกันใหม่ตั้งแต่ต้นปีนี้ ด้วยการจัดระเบียบ และลำดับความสำคัญของสิ่งรอบตัว โดยทำทุกอย่างให้เป็นปัจจุบัน เลิกดองแชท ไม่กดเลื่อนนาฬิกาปลุก ตอบอีเมลสำคัญ ฯลฯ ความสามารถในการทำอะไรหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน หรือ Multi-tasking อาจเป็นข้อดีในช่วงเวลาหนึ่ง แต่บ่อยครั้งก็เพิ่มพูนภาระให้เรามากเกินไป จนก่อตัวเป็นความเครียดได้เช่นกัน ดังนั้น การจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำจึงเป็นทางออกที่ไม่เลวเลย
เขียนสิ่งที่ยากที่สุด ที่เราไม่อยากทำ แต่กลับจำเป็นมากที่สุด เอาไว้บนสุดของรายการ และเลือกที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จเสียก่อน เชื่อไหมว่าแค่เรื่องวุ่นวายสุดแสนจะน่าเบื่อได้ลุล่วงไปก่อน ช่วงเวลาที่เหลือของวันนั้นจะปลอดโปร่งและสัมผัสได้ถึงพลังงานที่สามารถขับเคลื่อนความ productive ได้ดีกว่าเดิมแน่นอน
7. ใช้เงินอย่างชาญฉลาด อดออมเพื่ออนาคต
ข้อนี้สำคัญมาก เพราะการที่เราจะมีชีวิตที่ดีเราต้องเตรียมเผื่ออนาคตเสมอ แม้ว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แต่ก็ไม่ควรลืมเผื่อเหลือเงินออมไว้สำหรับอนาคต การวางแผนการเงินที่ดี หรือ การมีเงินเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากก็เป็นอีกหนึ่งเช็กลิสต์ที่ไม่ใช่แค่ควรทำ แต่ต้องทำ เพื่อให้เราเดินไปถึงสิ้นปีด้วยชีวิตดี๊ดีอย่างแท้จริง
เริ่มต้นง่าย ๆแค่ลองวางแผนงบประมาณที่มีอยู่ และแบ่งสันปันส่วนอย่างเหมาะสม อ่านเพิ่มเติมที่ ชีวิตการเงินดีขึ้นก่อนสิ้นปี แค่ “เริ่ม” ปรับรายจ่าย สามารถตัดใจไม่ซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นโดยที่ไม่ขาดตกของจำเป็นแม้แต่ชิ้นเดียวได้ สามารถท่องเที่ยวด้วยงบประมาณที่ลดลงแต่ความสุขยังเท่าเดิม ผลที่ตามมาคือเราจะกลายเป็นคนฉลาดใช้ และประหยัดจนเหลือเงินออมไปเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูง ๆ ทำให้เงินของเรางอกเงยได้มากขึ้นอีกโดยไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว
ตัวเราในปีนี้จะใช้เงินไปกับสิ่งที่เป็นประโยชน์และคุ้มค่าเท่านั้น ตัวเลือกผลิตภัณฑ์การเงินที่ดีและตอบโจทย์เรื่องการออมเงิน จะช่วยให้เราไม่ใช่แค่ ‘จ่าย’ เพียงอย่างเดียว แต่พ่วงสิทธิประโยชน์ที่เราจะได้เป็นผู้รับแบบเต็ม ๆ เช่น บัญชีเงินฝากที่มีประกันคุ้มครองอุบัติเหตุ แบบไม่ต้องเสียค่าใช่จ่ายเพิ่ม ก็ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าของบัญชีได้มากขึ้น หรือ เลือกบัญชีที่ช่วยประหยัดค่าใช่จ่ายในการทำธุรกรรม เช่น ไม่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ก็เป็นตัวช่วยลดค่าใช้จ่าย มีเงินออมเพิ่มขึ้นแล้ว การมองหาบัญชีออมทรัย์ที่เหมาะกับตัวเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งมั่นใจได้ว่าทุกคนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองอย่างแน่นอน
ไม่ว่าเป้าหมายในปีนี้ของคุณจะเป็นอะไร สิ่งไหนที่อยากทำให้สำเร็จลุล่วง ก็ไม่ลืมจดเตือนใจด้วยการเขียนเอาไว้ในกระดาษ จะแปะโพสต์อิทให้เห็นเด่นชัดที่ข้างกำแพง หรือบันทึกไว้ที่หน้าแรกของเจอร์นอลเล่มเล็ก ก็ตามแต่ความถนัดและความสะดวก เพื่อในยามที่เคว้งคว้าง คิดว่าอาจจะหลงทางในระหว่างปี จะได้กลับมาอ่านทบทวนว่า เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่ใช่ และเส้นทางนั้นกำลังพาเราไปถึงปลายทางที่ตั้งไว้หรือไม่
สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่กำลังก่อตัว จะค่อย ๆ หลอมรวมกันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เสมอ ลองปรับทีละน้อย เปลี่ยนที่ละนิด Fintips ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้น หรือกำลังอยู่ในระหว่างทาง แล้วมาดูผลในระยะยาวกันว่า ปี 2022 นี้ เรากลายเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ชีวิตดีดี๊ตลอดปีไปด้วยกัน
ที่มา
7 (totally doable) New Year's resolutions that will change your life (2018) Sarah DiGiulio
Let's Kick off the New Year Right—Here Are 55 New Year's Resolution Ideas for 2022 (2021) MEGAN GRANT
60 Achievable New Year's Resolutions for Healthier and Happier Living (2021) ZEE KRSTIC AND KATE ROCKWOOD
10 financial New Year’s resolutions to set now and achieve in the new year (2021) Alexandria White