หลายคนก็คงทราบดีอยู่แล้วว่าเวลาที่เราเจ็บป่วยและจะต้องเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล
ในแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก การป้องกันความเสี่ยงในเรื่องสุขภาพด้วยการทำประกันจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญในปัจจุบัน แต่โดยส่วนมากเวลาที่เราทำประกัน เราจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าห้องพัก หรือการชดเชยรายได้ เผื่อว่าวันหนึ่งหากเราพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจะได้มีวงเงินคุ้มครองสำหรับการใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากบริษัทประกัน
อย่างไรก็ตามเราต้องไม่ลืมว่า
นอกเหนือจากค่ารักษาพยาบาลแล้วเรายังจะต้องเจอค่าใช้จ่ายอื่นๆที่สัญญาในกรมธรรม์ไม่ได้คุ้มครองไว้อีกด้วยและเราจะต้องเป็นผู้จัดการค่าใช้จ่ายตรงนี้เอง ตัวอย่างมีดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายที่ไม่อยู่ในความคุ้มครอง
ในแต่ละกรมธรรม์จะมีการระบุว่าทางบริษัทจะให้ความคุ้มครองในเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งหากเราเจ็บป่วยที่จะต้องพบค่ารักษาพยาบาลและค่ายาที่ไม่ได้อยู่ในสัญญากรมธรรม์ เราจะต้องนำเงินเก็บของเรามาชำระค่าใช้จ่ายตรงนี้เอง
2. ค่าใช้จ่ายในช่วงพักฟื้น
หลังจากที่เราออกมาจากโรงพยาบาล เราอาจจะต้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งในระยะเวลาพักฟื้นนั้นเราอาจจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ อาจจะต้องมีความใช้จ่ายในการจ้างคนมาดูแล เช่น จ้างพยาบาลมืออาชีพ หรือ จ้างญาติพี่น้องให้ออกจากงานมาดูแลเราได้เต็มเวลา
3. ค่าเดินทางและที่พักเพื่อความสะดวกในการรักษาพยาบาล
หลายๆคนอาจจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลโรงพยาบาล เช่น บ้านอยู่ในต่างจังหวัดแต่ต้องเข้ามารักษาตัวในกรุงเทพ ซึ่งในส่วนนี้เราจะต้องพบกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าที่พักซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่กรมธรรม์ไม่ได้คุ้มครอง และค่าใช้จ่ายอาจจะมีขึ้นหากเราจะต้องเช่าที่พักอาศัยในระยะยาวเพื่อความสะดวกในการเข้าไปพบแพทย์ตามระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้
4. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
นอกจากนี้เราอาจจะต้องพบค่าใช้จ่ายอื่นๆในช่วงที่เราเจ็บป่วย เช่น การซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นวีลแชร์และไม้เท้า ค่าอาหารการกินที่เหมาะสมต่อสุขภาพของผู้ป่วย และหากใครที่ยังคงต้องดูแลที่บ้าน ก็ยังต้องมีภาระค่าใช้จ่ายอยู่เช่นเดิม
เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากการทำประกันสุขภาพแล้วเรายังคงต้องมีเงินสำรองฉุกเฉินเผื่อเอาไว้ เพราะหากวันหนึ่งหากเราเกิดการเจ็บป่วยขึ้นมา ก็สามารถนำมาใช้กับค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดฝันอีกหลายๆอย่างที่จะตามมาด้วย การสำรองเงินฉุกเฉินนั้นควรจะมีอย่างน้อย 6 เท่าของรายจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อทำให้ชีวิตของเราสามารถเดินต่อได้อย่างไม่สะดุด และแน่นอนว่าในกรณีที่เรามีความจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆเนื่องจากเงินสำรองฉุกเฉินนั้นมีไม่เพียงพอ เราอาจจะขอสินเชื่อส่วนบุคคลจากทางธนาคารเพื่อให้ชีวิตเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
แคชทูโก เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบากับเรื่องฉุกเฉิน ทำให้ชีวิตได้ไปต่อ อนุมัติให้ด้วยวงเงินสูง ผ่อนนาน สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่ยุ่งยาก สามารถนำมาช่วยจัดการในเรื่องที่จำเป็นได้ สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/personal-loan/cash-2-go