ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวและนักท่องเที่ยวกลับมามากขึ้น คงทำให้ผู้ประกอบการ SME ขนาดเล็กหลายคนมีแผนที่จะปรับปรุงและขยายกิจการแบบไม่กระทบกับสภาพคล่องทางการเงินกัน แต่ก่อนที่เราจะไปขยายกิจการกันนั้น
เรามาเช็กกันก่อนดีกว่าว่ากิจการของเราพร้อมจะได้รับการขยายกิจการแล้วหรือยัง
4 สัญญาณ เราพร้อมขยายกิจการแล้วหรือยัง
1. กิจการปัจจุบันทำกำไรและเติบโต
สัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าเราพร้อมขยายกิจการให้เติบโตนั้นคือเราต้องมั่นใจก่อนว่ากิจการที่ของเราได้กำไรและเติบโต ซึ่งจะสามารถดูได้จากว่าเรามีรายรับ-รายจ่าย เท่าไหร่
เมื่อหักลบกันแล้วมีกำไรแต่ละเดือนหรือไม่ หากตัวเลขในบัญชีอยู่ในทิศทางที่ดีมีกำไรก็แสดงว่ากิจการสามารถไปต่อได้ แต่หากขาดทุนมากเกินที่บ่งบอกได้ว่ากิจการกำลังมีปัญหาให้เราแก้ไขปัญหาก่อนพิจารณาถึงความพร้อมอีกครั้ง
2. ศึกษาข้อมูลตลาดอย่างดี
เราควรศึกษาว่ากิจการของเราควรหรือเหมาะจะขยายไปยังตลาดไหนมากที่สุด และสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงความชอบและต้องการจากอดีตมากพอสมควร เช่น กิจการของเราเหมาะกับกลุ่มตลาดเดิมแล้วขยายสาขาเพิ่ม หรือเหมาะกับกลุ่มตลาดใหม่ด้วยการปรับสินค้าให้เข้าถึงได้มากขึ้น เป็นต้น เพื่อให้กิจการเติบโตอย่างมั่นคงและสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดได้
3. ทีมงานพร้อมรับมือกับธุรกิจที่กำลังจะขยายตัว
กิจการของเราเป็นกิจการเล็ก ๆ ที่มีทีมงานเดิมอยู่เพียงเล็กน้อย การขยายกิจการไม่ใช่เพียงการรับทีมงานมาเพิ่มแล้วเราจะสามารถขยายกิจการได้เลยเสมอไป แต่เราควรต้องดูความพร้อมของทีมงานเดิมว่าสามารถรับมือกับงานที่ใหญ่ขึ้นได้หรือไม่ด้วย เนื่องจากทีมงานจะมีผลกับการรักษามาตรฐานคุณภาพให้ดีเทียบเท่ากิจการแรกนั่นเอง
4. เงินทุนเพียงพอหรือยัง
กิจการขนาดเล็กมีเงินทุนน้อยต้องสำรวจค่าใช้จ่ายในการขยายกิจการและเทียบกับเงินที่เรามีว่า เพียงพอหรือต้องการหาทุนเพิ่มหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงการขาดสภาพคล่องให้ได้มากที่สุด โดยวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือการทำประมาณการณ์ (Cash Flow Projection) ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือนเพื่อให้เห็นภาพในอนาคตที่ชัดเจนว่ากิจการเรามีโอกาสที่เสี่ยงที่เงินสดจะขาดมือทำให้เกิดปัญหา สภาพคล่องมากน้อยขนาดไหน
เมื่อเช็ก 4 สัญญาณว่าเราพร้อมขยายกิจการแล้วหรือยังกันแล้ว ต่อมาเราควรพิจารณาว่าหากกิจการเราต้องการเงินทุนในการขยายกิจการเราต้องขอใช้สินเชื่อประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับกิจการของเรากัน
เช็กประเภทสินเชื่อที่เหมาะสมกับกิจการของเรา
1. เงินกู้ระยะยาว เป็นสินเชื่อเงินกู้ระยะยาวเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรมีการระบุระยะเวลาชำระเงินคืน และจำนวนเงินในการชำระคืนที่แน่นอน ช่วยให้สามารถวางแผนการเงินได้ จึงเหมาะกับการขยายกิจการให้ธุรกิจขนาดเล็กมีโอกาสเติบโต ในลงทุนสินทรัพย์ถาวร เช่น ซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงงาน อาคาร สถานประกอบการ หรือซื้อเครื่องจักร
2. เงินกู้หมุนเวียน เงินกู้ระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ วงเงินกู้เบิกเงินเกินบัญชี เป็นสินเชื่อระยะสั้นที่ใช้เป็นวงเงินหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ หรือใช้เป็นวงเงินฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม การขยายกิจการ SME เงินทุนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่แหล่งเงินทุนนั้นต้องพิจารณาหลายปัจจัย หากเราเป็นเจ้าของกิจการเล็ก ๆ จำเป็นต้องสร้างความเชื่อถือให้ได้มากที่สุด หรือเลือกสินเชื่อ ทีทีบี เอสเอ็มอี ไม่มีสะดุด แหล่งเงินทุนที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายกว่าเดิม ยืดหยุ่นได้ทั้งเอกสารรายได้ การเดินบัญชีและหลักประกัน เพื่อให้ธุรกิจของเราคล่องตัว จัดการง่าย ไม่มีสะดุด
สินเชื่อ ทีทีบี เอสเอ็มอี ไม่มีสะดุด
สินเชื่อที่ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กด้วยความเข้าใจ ทั้งความต้องการเงินทุนใช้จัดการสภาพคล่องในธุรกิจ และเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่า เพื่อธุรกิจ และชีวิตทางการเงินของคุณดีขึ้น
- ยืดหยุ่นเรื่องวิธีการประเมินรายได้ แค่สามารถพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจของคุณมีความน่าเชื่อถือและมีอยู่จริง เช่น รูปถ่ายกิจการ บิลซื้อขาย สัญญาจ้าง สมุดบันทึก ซื้อ-ขาย และหลักฐานการเดินบัญชีกับธนาคารและอื่น ๆ
- ประสบการณ์ธุรกิจ เริ่มต้น 1 ปี ซึ่งโดยปกติทั่วไปแล้วสินเชื่อที่อื่น ๆ จะประมาณ 2 ปี
- รองรับหลักประกันได้หลากหลาย ค่อนข้างยืดหยุ่นมาก ๆ เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง อาคารชุด ตึกแถว ที่ดินเปล่า ที่ดินเพื่อการเกษตร
สำหรับใครที่สนใจสามารถสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามลิงก์นี้ได้เลย https://www.ttbbank.com/th/personal/loans/sbo/so-smooth