external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร ควรสมัครบัตรไหนดี?

#ttb #fintips #บัตรเดบิตVSบัตรเอทีเอ็ม #สมัครบัตรเดบิต #สมัครบัตรเอทีเอ็ม #สมัครบัตรเครดิต
11 ส.ค. 2568

  • ทำความรู้จักบัตรประเภทต่าง ๆ อย่างละเอียด
  • บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็มแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับใคร ?
  • เอกสารที่จำเป็นสำหรับการใช้สมัครบัตรต่าง ๆ มีอะไรบ้าง
  • บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ ?

ในยุคสังคมไร้เงินสด ผู้คนต่างพากันใช้บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเครดิต เพื่อความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม ทั้งการเบิกเงินสดหรือการโอนเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่จำเป็น ใช้แทนการพกเงินสดจำนวนมาก แต่การมีบัตรหลายประเภทก็ทำให้หลายคนเกิดความสับสนว่า บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร หรือบัตรเดบิต บัตรเครดิต ต่างกันอย่างไร? ในบทความนี้มีคำตอบ!

ทำความรู้จักกับบัตรประเภทต่างๆ


ทำความรู้จักบัตรประเภทต่าง ๆ อย่างละเอียด

บัตรที่เราใช้กันในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท แต่ที่พบเจอบ่อยที่สุดคือบัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต และบัตรเครดิต ก่อนที่จะไปดูกันว่าบัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร มาทำความเข้าใจบัตรแต่ละประเภทกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

บัตร ATM

บัตร ATM เป็นบัตรที่ออกให้โดยธนาคาร เพื่อใช้สำหรับเบิกเงินสดจากตู้ ATM ได้โดยตรง ข้อดีคือสะดวก และรวดเร็วในการเบิกเงินสด แต่มีข้อจำกัดคือสามารถใช้เบิกเงินสดได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้รูดซื้อสินค้าได้ โดยปกติมักจะมีวันหมดอายุระบุไว้บนบัตร ซึ่งสามารถดูได้ที่ด้านหน้าของบัตร ในกรณีที่บัตร ATM หมดอายุ ผู้ถือบัตรจะต้องไปที่ธนาคารเพื่อทำการเปลี่ยนบัตรใหม่

วิธีใช้งานบัตร ATM

  • เบิกเงินสด : นำบัตร ATM ไปสอดเข้าที่ตู้ ATM แล้วป้อนรหัสผ่านเพื่อเบิกเงินสดได้ตามต้องการ
  • เตรวจสอบยอดเงิน : สามารถตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัญชีผ่านตู้ ATM ได้

บัตรเดบิต

บัตร ATM กับบัตรเดบิตเหมือนกันไหม? หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าบัตรเดบิตคือบัตรเอทีเอ็ม แต่จริง ๆ แล้วบัตรเดบิตไม่ใช่บัตร ATM เสียทีเดียว โดยบัตรเดบิตเป็นบัตรที่เชื่อมโยงกับบัญชีเงินฝากของเรา เมื่อเราใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต เงินจะถูกหักออกจากบัญชีทันที ข้อดีคือสะดวก เบิกเงินได้ สามารถใช้จ่ายผ่านหลากหลายช่องทาง ส่วนข้อจำกัดคือสามารถใช้จ่ายได้เท่ากับจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น

วิธีใช้งานบัตรเดบิต

  • รูดซื้อสินค้า : สามารถนำบัตรเดบิตไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการได้ตามปกติ
  • เบิกเงินสด : นำบัตรเดบิตไปเบิกเงินสดจากตู้ ATM ได้
  • ชำระค่าบริการ : ใช้ชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์ได้


บัตรเครดิต

บัตรเครดิตเป็นบัตรที่ธนาคารให้เรานำเงินมาใช้ก่อน แล้วค่อยชำระคืนในภายหลัง โดยสะดวกในการใช้จ่าย สามารถผ่อนชำระได้ และมีโปรโมชันมากมาย แต่ต้องชำระค่าใช้จ่ายคืนตามกำหนด หากชำระไม่ตรงเวลาจะมีดอกเบี้ยเกิดขึ้น

วิธีใช้งานบัตรเครดิต

  • รูดซื้อสินค้า : สามารถนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้าหรือบริการได้
  • ผ่อนชำระสินค้า : มีร้านค้ามากมายที่สามารถใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระสินค้า ดอกเบี้ย 0%
  • เบิกเงินสด : สามารถเบิกเงินสดได้ แต่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘บัตร Visa’ กันมาก่อน แล้วบัตร Visa คืออะไร? Visa เป็นหนึ่งในเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก โดยบัตร Visa มีหลายประเภท เช่น บัตรเดบิต Visa, บัตรเครดิต Visa และบัตรเติมเงิน Visa ซึ่งแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน

บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร


บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใคร?

หลังจากที่ทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของบัตรแต่ละประเภทกันไปแล้ว หลายคนอาจจะยังสับสนอยู่ว่าบัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร และบัตรเครดิตกับบัตร ATM เหมือนกันไหม? หากสรุปโดยรวมแล้ว ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตร ATM มีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้

การใช้งาน

  • บัตรเครดิต : ใช้ซื้อสินค้าและบริการทั้งในร้านค้าและออนไลน์ โดยการใช้วงเงินจากธนาคาร แล้วค่อยชำระคืนในภายหลัง
  • บัตรเดบิต : ใช้ซื้อสินค้าและบริการหรือถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม โดยเงินจะถูกหักจากบัญชีเงินฝากทันที อีกทั้งปัจจุบันยังมีวิธีการใช้บัตรเดบิตออนไลน์ที่ทำให้เราสะดวกมากยิ่งขึ้น
  • บัตร ATM : ใช้ถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม และตรวจสอบยอดเงินในบัญชี

การชำระเงิน

  • บัตรเครดิต : ชำระเงินคืนตามรอบบิลที่กำหนด ซึ่งอาจมีการผ่อนชำระตามความสะดวก
  • บัตรเดบิต : สำหรับคนที่สงสัยว่าบัตรเดบิตผ่อนได้ไหม? บัตรเดบิตไม่มีการผ่อนชำระ เนื่องจากเป็นการใช้เงินที่มีในบัญชีเพียงเท่านั้น
  • บัตร ATM : บัตรเครดิตกับบัตร ATM ไม่เหมือนกัน เนื่องจากไม่สามารถใช้ในการชำระสินค้าและบริการได้

การคิดดอกเบี้ย

  • บัตรเครดิต : หากไม่ชำระเต็มจำนวนในช่วงเวลาที่กำหนด จะมีการคิดดอกเบี้ยตามอัตราที่กำหนด
  • บัตรเดบิต : ถ้าถามว่าบัตรเดบิตและบัตรเครดิตต่างกันยังไง หนึ่งในความต่างก็คือดอกเบี้ย เนื่องจากบัตรเดบิตไม่มีการคิดดอกเบี้ยเพราะไม่ใช่การยืมเงิน
  • บัตร ATM : ไม่มีการคิดดอกเบี้ยเนื่องจากเป็นการใช้เงินที่มีในบัญชีเพื่อการถอนเงินเท่านั้น

สิทธิประโยชน์

  • บัตรเครดิต : มักมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น คะแนนสะสม ส่วนลดพิเศษ และประกันการเดินทาง
  • บัตรเดบิต : สิทธิประโยชน์ของบัตรเดบิตสามารถรูดใช้จ่ายได้เช่นกัน และในปัจจุบันสิทธิประโยชน์นั้นเทียบเท่ากับบัตรเครดิตแล้ว
  • บัตร ATM : ไม่มีสิทธิประโยชน์พิเศษ และไม่สามารถใช้สำหรับการซื้อของหรือการทำธุรกรรมออนไลน์


เอกสารที่ต้องใช้สมัครบัตรต่าง ๆ มีอะไรบ้าง

การสมัครบัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือบัตร ATM ล้วนต้องการเอกสารประกอบการสมัครเพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครบัตรแต่ละประเภทอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับธนาคารและประเภทของบัตรที่คุณต้องการสมัคร การสมัครบัตรเครดิต บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร ตามมาหาคำตอบกัน

1. บัตรเครดิต
บัตรเครดิตกับบัตรเดบิตใช้เอกสารในการสมัครไม่เหมือนกัน บัตรเครดิตต้องการเอกสารที่ครอบคลุมเพื่อตรวจสอบประวัติทางการเงินและยืนยันตัวตน จึงใช้เอกสารมากกว่าบัตรอื่น นอกจากนี้ ทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิตยังมี CVC คือ Card Verification Value เป็นรหัสความปลอดภัยที่ปรากฏอยู่บนบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของ เพื่อยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมออนไลน์ โดยบัตรเครดิตใช้เอกสารดังนี้

  • บัตรประชาชน : สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน : เพื่อยืนยันที่อยู่
  • สลิปเงินเดือน : อย่างน้อย 3 เดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  • รายการเดินบัญชีธนาคาร : ย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • เอกสารยืนยันรายได้อื่น ๆ : เช่น รายได้จากการเช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือการลงทุน

2. บัตรเดบิต
บัตรเดบิตต้องการเอกสารที่น้อยกว่าบัตรเครดิต เนื่องจากใช้หลักฐานเป็นเงินที่มีอยู่ในบัญชีโดยตรง สำหรับคนที่เพิ่งเคยสมัครบัตรเดบิตครั้งแรกอาจจะสงสัยว่า ชื่อบนบัตรเดบิตอยู่ตรงไหน? โดยชื่อมักจะอยู่ด้านหน้าของบัตร บริเวณเหนือหมายเลขบัตร โดยส่วนใหญ่จะเป็นชื่อที่คุณใช้ในการเปิดบัญชีธนาคาร สำหรับการสมัครบัตรเดบิตจะใช้เอกสาร ได้แก่

  • บัตรประชาชน : สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ
  • สมุดบัญชีธนาคาร : หน้าบัญชีที่แสดงรายละเอียดเลขบัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี

3. บัตรเอทีเอ็ม
บัตรเอทีเอ็มมีขั้นตอนการสมัครที่คล้ายกับบัตรเดบิต แต่จะเน้นไปที่การเข้าถึงบัญชีเงินฝากเพื่อถอนเงินหรือทำธุรกรรมอื่น ๆ

  • บัตรประชาชน : สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ
  • สมุดบัญชีธนาคาร : หน้าบัญชีที่แสดงรายละเอียดเลขบัญชีและชื่อเจ้าของบัญชี


บัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันอย่างไร แบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ?

หลายคนอาจสงสัยว่าบัตรเดบิตกับบัตรเอทีเอ็มต่างกันยังไง บัตรเดบิตคือบัตร ATM หรือไม่? ความจริงแล้ว ทั้งสองบัตรมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกัน ถ้าคุณต้องการบัตรที่ใช้สำหรับกดเงินสดเป็นหลัก เลือกใช้บัตรเอทีเอ็มก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าคุณต้องการบัตรที่ใช้จ่ายได้หลากหลายและควบคุมการเงินได้ดี บัตรเดบิตจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะสมัครบัตรเดบิตธนาคารไหนดี บัตรเดบิต ttb all free เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เนื่องจากไม่เสียค่าธรรมเนียมทุกการกด โอน จ่าย เติม ทุกตู้ ATM สามารถใช้จ่ายได้สะดวกทุกที่ ทุกเวลาทั่วโลก และมีสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายของคุณ ไม่ว่าจะเป็น

  • ใช้จ่ายต่างประเทศ ฟรี FX Rate 2.5% ใช้จ่ายได้ทุกสกุลเงิน ทั่วโลก
  • ส่วนลดสูงสุด 20% จากร้านอาหาร และจองที่พัก ชั้นนำทั่วประเทศ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด)
  • ฟรี DCC 1% ค่าธรรมเนียมเปลี่ยนแปลงสกุลเงินไทย

บัตรเดบิต ttb all free อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ

เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด สมัครบัตรเดบิตและอ่านสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของบัตรเดบิต ttb all free ได้ที่ ลิงก์นี้

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเดบิต ttb all free สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428