5 นิสัยไม่ดีทางการเงิน เลิกได้ก็เลิกเถอะ

5 นิสัยไม่ดีทางการเงิน เลิกได้ควรเลิก เพื่อชีวิตการเงินที่ดีขึ้น

1. ใช้ชีวิตไม่คิดถึงวัยเกษียณ
2. รูดเก่งทั้งเดือน แต่จ่ายแค่ขั้นต่ำ
3. มีรายได้มาก แต่รายจ่ายดันมากกว่า
4. ใช้เงินก่อน ออมเงินทีหลัง
5. ทำงานหนักวันนี้ สวัสดีโรคใหม่

 

สิ้นปีแล้ว ตั้งใจว่าจะออมเงินเอาไว้เพื่อซื้อของขวัญปีใหม่ ซื้อหุ้นหรือกองทุน อยากลงทุนระยะยาว แต่ทำไมไม่เหลือเงินเก็บเลย เกิดอะไรขึ้นกับไลฟ์สไตล์การเงินในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาของเรา ลองสังเกตตัวเองว่าคุณเป็นแบบนี้หรือไม่ ทบทวนพฤติกรรมน่าสงสัยชวนให้เงินหมดและนี่คือ 5 นิสัยไม่ดีทางการเงิน ที่เลิกได้ก็ควรเลิก เพื่อชีวิตการเงินที่ดีขึ้น

1. ใช้ชีวิตไม่คิดถึงวัยเกษียณ

เพราะคนเราเกิดมามีเพียงหนึ่งชีวิต จะรู้ได้ยังไงว่าเราจะมีชีวิตได้ยืนยาวไปถึงเมื่อไร เพราะฉะนั้นก็สุดเหวี่ยง เต็มที่ไปเลย Live Your Life …แต่ช้าก่อน แล้วถ้าพรุ่งนี้เรายังต้องอยู่เล่า จำเป็นต้องหายใจต่อไปอีกยืนยาวหลายปี สิบปี สามสิบปี แบบนั้นคงจะเข้าข่าย Leave Your Life เอาจนได้ จะเทหมดหน้าตักเสียตั้งแต่ตอนก่อนอายุ 30-40 ปี แล้วค่อยมาคิดหนักทีหลังคงไม่ได้ ใช้ชีวิตทั้งที จะให้ดีคงต้องคิดหน้าคิดหลังอย่างรอบคอบ ไม่มีใครอยากสบายวันนี้ ลำบากวันหน้าหรอก จริงไหม?

สำหรับการวางแผนการเงินเพื่อเตรียมตัวเกษียณ พูดลอย ๆ ก็คล้ายกับจะเป็นเรื่องไกลตัว จริงอยู่ ณ ตอนนี้ เรามีศักยภาพและพละกำลังที่จะทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพได้มากพอ ทั้งยังสามารถนำมาแบ่งปันให้ครอบครัวและคนที่รักรอบข้างได้อีก แต่เมื่อถึงเวลาร่างกายอ่อนล้าชราภาพ ไม่มีเรี่ยวแรงกำลังวังชา จะว่ายังไงล่ะวัยรุ่น อิสระทางการเงินในวัยเกษียณไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดจากการวางแผนที่รอบคอบ และวินัยทางการเงินที่ดี

ไม่ใช่แค่การออมเงินไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือมองไกลไปถึงวันที่อายุมากขึ้นเท่านั้น ระหว่างทางอาจมีช่วงเวลาที่คาดไม่ถึง และเหตุการณ์ปุบปับรับเคราะห์ อย่างอุบัติเหตุหรือการเจ็บป่วยที่เราไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้น ดังนั้นการเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ คงจะดีกว่า ไม่ผิดเลยที่จะ Enjoy Your Life แต่ต้องไม่ลืมแบ่งเบาภาระในอนาคตของตัวเองเอาไว้บ้าง อยากให้ลองมองเรื่องเลือกฝากเงินไว้ในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูง ที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาว เผื่อตัวเองเอาไว้ด้วยก็ดีนะ ค่อย ๆ สะสม เพราะในระยะยาวเราได้ผลตอบแทนที่แน่นอน มีเงินนเก็บเป็นเงินก้อนแบบไม่รู้ตัวเลย

2. รูดเก่งทั้งเดือน แต่จ่ายแค่ขั้นต่ำ

เดี๋ยวนี้จะสมัครบัตรเครดิตก็ทำได้ง่าย ขอสินเชื่อครั้งหนึ่งก็สบาย รู้ตัวอีกทีก็เผลอไผล กลายเป็นคนมีหนี้ไปเสียแล้ว การใช้บัตรเครดิตนั้นช่วยอำนวยความสะดวก ทำให้เราไม่ต้องพกเงินสดก้อนโตไปไหนมาไหน ทั้งยังพ่วงสิทธิประโยชน์หลายด้าน เช่น ส่วนลด แต้มสะสม ที่จอดรถ จุดพักคอยในสนามบิน ฯลฯ แถมเพิ่มสภาพคล่องด้านการใช้จ่าย ด้วยสิทธิผ่อน 0% อย่างไรก็ตาม การใช้บัตรเครดิตจะทั้งคุ้ม ทั้งสะดวก หากเราใช้เป็น ย้ำ! หากเราใช้เป็น

แล้วจะไปยากอะไร มีบัตรเครดิตไว้ก็แค่รูด ๆ ไป สิ้นเดือนก็จ่ายแค่ยอดขั้นต่ำก็ได้ สบายจะตาย.. แต่จะได้ตายจริง ๆ แน่ ถ้ายังทำนิสัยแบบนี้อยู่ เพราะทันทีที่เราใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต นั่นคือตอนที่เราเปิดประตูกว้าง ยอมรับว่า “ฉันพร้อมแล้วสำหรับหนี้ก้อนใหม่” แม้ทางธนาคารจะให้ตัวเลือกในการจ่ายแบบยอดขั้นต่ำได้ แต่นั่นคือการจ่ายเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของเงินที่ยืมไป ยอดค้างชำระที่เหลือก็จะถูกนำมาคิดดอกเบี้ยจ่ายวนไปไม่จบสิ้น

การตัดสินใจจ่ายบัตรเครดิตแค่ยอดขั้นต่ำ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเรากำลังมีหนี้เกินตัว แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร การจ่ายยอดขั้นต่ำเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะนอกจากทำให้เราเพิ่มจำนวนหนี้โดยไม่จำเป็นแล้ว ยังส่งผลกระทบในระยะยาว ในการขอสินเชื่อ กู้ยืมได้ยาก เพราะประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ทางที่ดีควรใช้เท่าที่จ่ายไหว และจ่ายให้ตรงเวลา หรือ ลองทำตาม Tips ง่าย ๆ เช่น เมื่อเราใช้ก็แบ่งเงินใส่เข้าไปเก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ของเรา เมื่อครบดีลเราก็มีเงินจ่ายไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำแล้ว หากเราไม่ประมาณการใช้งานให้เหมาะสมกับรายได้หรือความสามารถในการจ่ายของตัวเอง คงต้องปวดหัวในอนาคตอย่างแน่นอน

3. มีรายได้มาก แต่รายจ่ายดันมากกว่า

ในยุคที่ไลฟ์สไตล์สำคัญกว่าปัจจัยสี่ เมื่อภาพลักษณ์สำคัญกว่าคุณภาพชีวิต ทำให้เราเข้าใจผิดไปหลายครั้งว่าดินเนอร์รูฟท็อปโรงแรมหรูเป็นสิ่งที่ต้องทำ โทรศัพท์มือถือและแกดเจ็ตออกใหม่เป็นของต้องมี เที่ยวต่างประเทศทุกไตรมาสเป็นเรื่องจำเป็น สิ่งเหล่านี้ล้วนทำได้ หากไม่ใช่การใช้จ่ายที่เกินตัว

ง.เงินนั้นหาง่าย ในช่วงวัยที่กำลังเฟื่องฟูในด้านการงานและการเงิน โอกาสสร้างรายได้ก็วิ่งเข้าใส่ไม่ว่างเว้น จนเผลอคิดไปว่า เรื่องแบบนี้จะคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป มีเท่าไรก็ใช้หมดจะทำให้เราไม่มีเงินออม แต่การมีน้อยแต่ใช้มาก จะทำให้เราเป็นหนี้ นี่แหละคืออีกหนึ่งสาเหตุ ว่าทำไมสิ้นปีแล้วไม่เหลือเงินเก็บเลย

ได้เวลาตั้งคำถามและตอบตัวเองให้ได้ ว่ารายจ่ายอะไรจำเป็นและไม่จำเป็น หากคุณยังคิดไม่ออกว่าจะวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของรายจ่ายที่มีอย่างไร Fintips มีทริคง่าย ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้ สามารถอ่านได้ที่บทความชีวิตการเงินดีขึ้นก่อนสิ้นปี แค่ “เริ่ม” ปรับรายจ่าย

4. ใช้เงินก่อน ออมเงินทีหลัง

ทุกคนคงมีแผนในการออมเงิน ไม่ว่าจะเพื่อซื้อของขวัญราคาแพงช่วงสิ้นปี หรือออมเพื่อการลงทุน แต่ก็ดันมาพลาดท่าเอากลางทาง เมื่อกิเลสย่อมระงับด้วยการ “ก็ซื้อไปเลยสิคะ” วลีเด็ดที่พูดกันขำ ๆ แต่ดันทำจริงทุกที ตอนซื้อก็รู้สึกดี แต่พอใบเสร็จส่งมาทีก็ปวดใจไปหลายวัน แผนการออมเงินที่ถูกคิดมาอย่างดิบดี ก็ถูกผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่มีวันมาถึง

เราประมาทกับการใช้เงินเกินไปหรือเปล่า แม้ว่าการออมเงิน เป็นการทำเพื่อเป้าหมายในอนาคต ไม่ว่าจะในระยะสั้นหรือระยะยาว การออมเงินที่ไม่ควรทำเลย คือ ใช้ก่อนออมทีหลัง เหลือเท่าไรเก็บออมเท่านั้น การทำแบบนั้นจะทำให้เราไม่เหลือเงินเก็บเลยสักบาท สิ่งที่ควรทำคือการแบ่งรายรับอย่างเป็นสัดส่วน เช่น เมื่อได้รับเงินเดือน ให้แบ่งอย่างชัดเจนว่าใช้จ่ายเท่าไร เก็บออมเท่าไร ไม่ให้ปะปนกัน

เมื่อรายได้ถูกจัดสรรปันส่วนเป็นอย่างดี ทีนี้เราก็จะรู้ขอบเขตของเงินที่เราสามารถใช้จ่ายได้ในช่วงเวลาหนึ่งเดือน ทั้งมีเงินเก็บ แถมหมดปัญหาการใช้เงินเกินตัวไปได้อีก มีแต่ได้กับได้

5. ทำงานหนักวันนี้ สวัสดีโรคใหม่

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น ว่าถึงจุดหนึ่งจะเป็นช่วงวัยแห่งการกอบโกย ทั้งโอกาสทางการเงินและการงานที่ดีมาก เหมือนโชคเข้าข้างแต่เรา บ่อยครั้งก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงานสร้างรายได้ จนหลงลืมดูแลทั้งสุขภาพกาย แม้แต่สุขภาพใจก็เริ่มทรุดโทรม แม้ร่างกายที่ถูกใช้งานหนักจนเกินไปจะเริ่มส่งสัญญาณเตือนหลายครั้ง แต่ก็ถูกมองข้ามไป สุดท้ายเงินจะหามาได้มากเท่าไร ก็เอาไปให้หมอทั้งหมด

“งานหนัก ไม่ทำให้ใครตาย” นั่นก็จริง การทุ่มเทให้การทำงานมากเกินไป โดยไม่คำนึงสมรรถภาพที่แท้จริงของตัวเองนั้นส่งผลเสียทั้งต่อร่ายกายและจิตใจอย่างแน่นอน ภาระความรับผิดชอบที่มากขึ้น มักพ่วงความเครียดที่สูงขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดังนั้น เราควรหาจุดกึ่งกลาง ที่ทำให้สามารถสร้าง “สมดุล” ในชีวิตประจำวันได้อย่างพอดี

สำรวจตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ อย่าให้ล่วงเลยไปถึงปีหน้า หรือปีต่อ ๆ ไป ถ้าคุณยังติดนิสัยทางการเงินไม่ดีเหล่านี้อยู่ ได้เวลาเปลี่ยนตัวเองส่งท้ายปี ให้กลายเป็นคน ฉลาดออม ฉลาดใช้ เพื่อสุขภาพการเงินที่ดีขึ้น เข้าใกล้เป้าหมายทางการเงินที่ตั้งไว้ได้อีกขั้น

ปรับเปลี่ยนนิสัยทางการเงินให้ดีขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถสนับสนุนให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในอนาคตได้ง่าย และไวยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องยืดหยุ่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ออมเงินก็ได้ดอกเบี้ยสูง ด้วยบัญชี ทีทีบี โนฟิกซ์ และใช้จ่ายก็ดี ใช้ฟรี คุ้มครบ และมีฟรีประกันคุ้มครอง ด้วย บัญชี ทีทีบี ออลล์ฟรี

ที่มา
ทำไมถึงไม่ควร “จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ” ? I POCKET MONEY EP18 (2564) FINNOMENA CHANNEL
5 #นิสัยเสียทางการเงิน ที่ควรเลิก (2563) aomMONEY
8 นิสัยไม่ดีทางการเงิน ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความร่ำรวยของคุณ (2564) Money Duck