สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่กำลังวางแผนซื้อรถยนต์คันแรก การเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากเงินดาวน์และค่าผ่อนรายเดือนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายและปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง ในบทความนี้ ttb DRIVE จึงรวบรวม 9 สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณเตรียมตัวและวางแผนการเงินเพื่อกู้ไฟแนนซ์ซื้อรถยนต์คันแรก สำหรับพนักงานออฟฟิศเงินเดือน 20,000
9 สิ่งที่ต้องเตรียม ก่อนวางแผนซื้อรถยนต์คันแรก สำหรับพนักงานออฟฟิศ เงินเดือน 20,000
สำหรับเหล่าพนักงานออฟฟิศที่มีเงินเดือน 20,000 บาทและต้องการซื้อรถยนต์คันแรก การเตรียมตัวและวางแผนให้พร้อม นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเป็นเจ้าของรถคันแรกเป็นความสุขที่วางแผนได้ ไม่ใช่ภาระทางการเงินที่ต้องแบกรับในอนาคต โดย 9 สิ่งที่ต้องเตรียมให้พร้อมมีดังนี้
1. เลือกประเภทรถที่ตอบโจทย์
สิ่งแรกที่ควรทำก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์คันแรกก็คือ การพิจารณาวัตถุประสงค์การใช้งานเป็นหลัก สำหรับคนทำงานในเมืองที่ต้องการรถสำหรับเดินทางในชีวิตประจำวัน รถอีโคคาร์หรือรถไฟฟ้าอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะราคาไม่สูงมาก ประหยัดน้ำมัน และคล่องตัวในการขับขี่ แต่หากต้องใช้งานในพื้นที่ขรุขระหรือต้องขนของบ่อย ๆ รถกระบะหรือรถอเนกประสงค์ PPV อาจจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มากกว่า
2. คำนวณเงินดาวน์และดอกเบี้ย
เงินดาวน์เป็นเงินก้อนแรกที่ต้องจ่ายในการซื้อรถ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 15-25% ของราคารถ หลักการง่าย ๆ คือ "ดาวน์เยอะผ่อนน้อย ดาวน์น้อยผ่อนเยอะ" แม้ว่าบางโชว์รูมจะมีโปรโมชันดาวน์ 0% ที่ทำให้คุณสามารถออกรถได้เลยโดยไม่ต้องวางเงินดาวน์ แต่ต้องระวังเรื่องดอกเบี้ยและค่างวดที่จะสูงกว่าปกติ ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบและคำนวณยอดรวมที่ต้องจ่ายตลอดสัญญาให้ดี
3. วางแผนเก็บเงินดาวน์เพื่อซื้อรถ
การวางเงินดาวน์รถ เปรียบเสมือนการวางเงินมัดจำเพื่อยืนยันว่าคุณมีวินัยทางการเงินและมีความพร้อมในการผ่อนชำระรถยนต์คันดังกล่าวในอนาคต โดยปกติควรมีเงินดาวน์ประมาณ 25-40% ของราคารถ เช่น หากต้องการซื้อรถยนต์ราคา 500,000 บาท ควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 125,000 บาท เพื่อลดภาระการผ่อนต่อเดือนและเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
4. ค่าใช้จ่ายระหว่างใช้รถ
ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ไม่ได้มีเพียงค่าผ่อนรายเดือนเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อม เพื่อให้การใช้รถเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่กระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า ค่าใช้จ่ายระหว่างใช้รถยนต์มีอะไรบ้าง
ค่ามัดจำป้ายแดง
สำหรับคนที่ซื้อรถยนต์คันแรกอาจจะยังไม่รู้ว่า การซื้อรถยนต์ใหม่ป้ายแดง ทางโชว์รูมจะให้ป้ายแดงมาใช้เป็นการชั่วคราว และจะต้องมีการวางเงินมัดจำประมาณ 2,000-3,000 บาท (แล้วแต่โชว์รูม) ซึ่งจะได้คืนเมื่อนำป้ายแดงมาเปลี่ยนเป็นป้ายขาว
ค่างวดรายเดือนพร้อมดอกเบี้ย
หลังจากวางเงินดาวน์ ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ที่คุณจะต้องเตรียมไว้ในแต่ละเดือนก็คือ ค่างวดรายเดือน ซึ่งจะมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับราคาของรถยนต์ เงินดาวน์ และระยะเวลาผ่อนที่คุณเลือก โดยสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะให้ระยะเวลาผ่อนเริ่มต้น 48 เดือน และบางแห่งอาจยาวถึง 72-84 เดือน
หากคุณเลือกผ่อนนานขึ้น ภาระค่างวดต่อเดือนก็จะน้อยลง แต่จะเสียดอกเบี้ยรวมมากกว่า แต่หากเลือกระยะเวลาผ่อนสั้น ค่างวดต่อเดือนก็จะสูงกว่า แต่ดอกเบี้ยรวมก็จะต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการวางแผนเรื่องระยะเวลาในการผ่อนชำระ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาให้ถี่ถ้วน ทีทีบีไดรฟ์แนะนำว่า ควรเลือกระยะเวลาผ่อนชำระที่ทำให้ค่างวดไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือนจะดีที่สุด
ค่าภาษีและ พ.ร.บ. รถยนต์รายปี
ค่าใช้จ่ายภาคบังคับประจำปีที่ต้องชำระตามกฎหมาย ประกอบด้วย พ.ร.บ. ซึ่งประกันภัยภาคบังคับที่คุ้มครองตัวบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุจราจร ชดเชยค่ารักษาพยาบาลและค่าสินไหมทดแทน หากไม่ทำ พ.ร.บ. รถยนต์ให้ถูกต้อง จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท และทำให้เสียภาษีรถยนต์ประจำปีไม่ได้
อีกส่วนคือ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ซึ่งค่าใช้จ่ายในการต่อภาษีจะคิดคำนวณตามขนาดเครื่องยนต์ หากไม่ต่อภาษีรถยนต์ให้ถูกต้อง ก็อาจจะถูกระงับป้ายทะเบียน แจ้งจอด และเสียค่าปรับเมื่อถูกเรียกตรวจโดยเจ้าหน้าที่ได้
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ
นอกเหนือจากการทำประกันรถยนต์ภาคบังคับหรือ พ.ร.บ.รถยนต์แล้ว การทำประกันรถยนต์ภาคสมัครใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด เพราะประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าซ่อมรถของคุณเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี โดยเบี้ยประกันก็จะขึ้นอยู่ประเภทประกันที่คุณเลือก เริ่มต้นตั้งแต่ 4,000 - 20,000 บาทต่อปี อย่างไรก็ตาม โชว์รูมบางแห่งอาจมีโปรโมชันแถมประกันรถยนต์ให้ในช่วงปีแรก ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ลงได้
ค่าน้ำมันที่ต้องเสียต่อเดือน
ค่าน้ำมันเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่สำคัญ ควรประเมินระยะทางการใช้งานและอัตราสิ้นเปลืองของรถให้ดี เพื่อวางแผนค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาน้ำมันผันผวน การเลือกรถที่ประหยัดน้ำมันจะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ดี
ค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ
รถยนต์ต้องได้รับการดูแลตามระยะทางหรือระยะเวลา โดยทั่วไปกำหนดที่ทุก 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6-12 เดือน โดยศูนย์บริการจะตรวจสอบอะไหล่และของเหลวต่าง ๆ ที่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมบำรุงตามระยะ โดยค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับที่ศูนย์บริการแต่ละแห่งกำหนด
สมัครสินเชื่อรถยนต์ใช้เล้ว ttb DRIVE คลิก ที่นี่ เลย
5. ตัดสินใจว่าจะซื้อรถยนต์มือหนึ่ง หรือมือสอง
การเลือกระหว่างรถใหม่ป้ายแดงกับรถมือสองเป็นการตัดสินใจสำคัญที่ต้องพิจารณาให้รอบด้าน โดยรถมือสองจะมีราคาถูกกว่ารถป้ายแดง แต่ก็จะต้องระวังเรื่องสภาพรถและประวัติการใช้งาน หรือการเกิดอุบัติเหตุเป็นพิเศษ ส่วนรถป้ายแดงแม้จะราคาสูงกว่า แต่มั่นใจได้ในเรื่องสภาพรถ การรับประกัน และไม่ต้องกังวลเรื่องประวัติการใช้งาน
6. ตรวจสอบประวัติรถยนต์ (กรณีซื้อรถยนต์มือสอง)
หากเลือกซื้อรถมือสอง การตรวจสอบประวัติรถอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนที่ห้ามมองข้ามอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากถามว่า วิธีเช็กประวัติรถมือสองมีขั้นตอนอย่างไร อันดับแรกควรตรวจสอบประวัติการชน การเคลมประกัน ประวัติการซ่อมบำรุง และการผ่อนชำระ นอกจากนี้ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และช่วงล่าง เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
7. มองหาศูนย์ที่มีโปรโมชันดี ๆ
การเปรียบเทียบโปรโมชันจากศูนย์บริการหลาย ๆ แห่ง จะช่วยให้คุณได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดเพิ่มเติม อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ฟรีประกันภัย หรือแพ็กเกจบำรุงรักษา ซึ่งศูนย์บริการส่วนใหญ่ มักจะมีข้อเสนอพิเศษในช่วงปลายเดือนหรือปลายปี ดังนั้นการติดตามข่าวสารและรอจังหวะที่เหมาะสมก็จะช่วยให้คุณสามารถซื้อรถยนต์คันแรกในราคาที่ประหยัดมากขึ้นได้
8. ทดลองขับรถยนต์ด้วยตัวเอง
เมื่อได้รถยนต์ที่ต้องการแล้ว การทดลองขับเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นว่า รถยนต์คันที่เลือกเหมาะกับไลฟ์สไตล์การขับขี่ และการใช้งานของคุณจริง โดยควรจะทดลองขับในสภาพการจราจรที่หลากหลาย สังเกตความนุ่มนวลของการขับขี่ ระบบเบรก การตอบสนองของเครื่องยนต์ และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร รวมถึงทดสอบฟังก์ชันต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งานประจำวัน
สมัครสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ttb DRIVE คลิก ที่นี่ เลย
9. เตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่
เมื่อเลือกรุ่นรถยนต์ที่ต้องการได้แล้ว ก็จะต้องมีการเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการยื่นขอสินเชื่อรถยนต์ให้เรียบร้อย เพื่อให้กระบวนการขอสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่น โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน และรายละเอียดการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาจดทะเบียนพาณิชย์ (กรณีเจ้าของกิจการ)
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท พร้อมวัตถุประสงค์ (กรณีนิติบุคคล)
- สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีนิติบุคคล)
- สำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีนิติบุคคล)
สรุปบทความ
การตัดสินใจซื้อรถยนต์คันแรกสำหรับพนักงานออฟฟิศที่มีเงินเดือน 20,000 บาท ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันหากมีการวางแผนที่ดี คำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมในทุกด้าน สิ่งสำคัญคือต้องประเมินความสามารถในการผ่อนชำระอย่างตรงไปตรงมา เลือกรถที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณ รวมถึงมีวินัยในการออมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้การเป็นเจ้าของรถคันแรกเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความสุขและความสะดวกสบายในชีวิต ไม่ใช่ภาระทางการเงินที่ต้องแบกรับ
และสำหรับพนักงานออฟฟิศที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถยนต์คันแรก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์มือสอง ก็สามารถขอสินเชื่อกับ ttb DRIVE ได้ เพราะเรามีบริการสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ที่ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินรถ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวภายใน 30 นาที (เมื่อเอกสารครบ) ดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่แบบคงที่ ชำระค่างวดเท่ากันตลอดอายุสัญญา ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน
นอกจากนี้สำหรับคนที่มีรถยนต์ที่ผ่อนชำระหมดแล้ว และกำลังมองหาเงินก้อนแบบเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เรายังมีบริการสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของแต่ละคน
สำหรับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาด้านสินเชื่อ ทีทีบีไดรฟ์มีผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อที่พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
สินเชื่อรถยนต์ใหม่ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.21% - 10.00% ต่อปี
สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 7.48% - 15.00% ต่อปี
สินเชื่อรถแลกเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.93% - 23.00% ต่อปี