external-popup-close

คุณกำลังออกจากเว็บไซต์ ทีทีบี
เพื่อเข้าสู่

https://www.ttbbank.com/

ตกลง

13 ค่าใช้จ่ายในการออกรถที่ต้องรู้ เพื่อวางแผนการเงินก่อนออกรถ

#fintips #รอบรู้เรื่องกู้ยืม #วางแผนก่อนซื้อรถ
2 พ.ย. 2564

การซื้อรถยนต์คือทางเลือกที่จะช่วยให้เราเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น แต่การซื้อรถยนต์ 1 คัน ไม่ได้มีแค่การผ่อนค่างวดเท่านั้น แต่ยังมีค่าใช้จ่ายในการออกรถอีกมากมายที่เจ้าของรถต้องรู้และเตรียมให้พร้อม

ดังนั้น ttb DRIVE จึงรวบรวมค่าใช้จ่ายในการออกรถมาให้อย่างละเอียด ทั้งค่าใช้จ่ายก่อนออกรถ ค่าใช้จ่ายวันออกรถ และค่าใช้จ่ายระหว่างการซื้อรถ ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า “คุณมีการเตรียมเงินไว้พร้อมจะจ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้แล้วหรือยัง?”

ค่าใช้จ่ายในการออกรถ


ค่าใช้จ่ายก่อนออกรถที่ต้องเตรียมให้พร้อม

มาเริ่มกันที่ค่าใช้จ่ายในการออกรถซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่สุด และต้องมีการเตรียมให้พร้อม จึงจะสามารถเป็นเจ้าของรถได้ โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมก่อนออกรถมีดังนี้

1. ค่าเงินดาวน์รถยนต์

เงินดาวน์รถยนต์ ถือเป็นด่านแรกของการซื้อรถยนต์ โดยปกติแล้วควรวางเงินดาวน์ประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์ของราคารถ ถ้าเลือกดาวน์น้อยกว่า 20% อาจต้องมีคนค้ำประกัน ค่าใช้จ่ายส่วนนี้สำคัญมาก เพราะยิ่งวางเงินดาวน์สูงเท่าไร ก็ยิ่งผ่อนจ่ายค่างวดได้สบายขึ้น


สมัครสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ttb DRIVE คลิก ที่นี่ เลย

สมัครสินเชื่อรถยนต์ใหม่ ttb DRIVE


ค่าใช้จ่ายวันรับรถ

การออกรถใหม่ ไม่ได้มีแค่การเตรียมค่าเงินดาวน์รถยนต์เท่านั้น แต่ในวันรับรถป้ายแดงยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องเตรียมให้พร้อมก่อนรับรถเช่นกัน โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมมีดังนี้

2. ค่าผ่อนรถงวดรถ

การผ่อนชำระค่างวดรถเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่ผู้ซื้อต้องวางแผนการเงินให้ดี โดยจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละงวดจะขึ้นอยู่กับราคารถ จำนวนเงินดาวน์ และระยะเวลาในการผ่อน ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ 48-84 งวด ผู้ซื้อควรพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระก่อนตัดสินใจ

3. ค่ามัดจำป้ายทะเบียน

ค่ามัดจำป้ายทะเบียนเป็นค่าใช้จ่ายชั่วคราวที่ผู้ซื้อต้องจ่ายในวันรับรถ โดยทั่วไปอยู่ที่ 2,000-3,000 บาท เงินจำนวนนี้จะได้รับคืนเมื่อนำรถไปเปลี่ยนจากป้ายแดงเป็นป้ายขาว ผู้ซื้อควรตรวจสอบความถูกต้องของป้ายทะเบียนที่ได้รับด้วย

4. ค่าน้ำมันรถ

แม้ว่ารถป้ายแดงจะมีน้ำมันติดมาเล็กน้อย แต่ผู้ซื้อควรเตรียมค่าน้ำมันสำหรับเติมให้เต็มถังในวันรับรถ เพื่อความสะดวกในการใช้งานและไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำมันหมดระหว่างทาง

5. ค่าอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ

อุปกรณ์เสริมเป็นค่าใช้จ่ายแยกต่างหากจากค่างวดรถ หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ฟิล์มกรองแสง กล้องติดรถยนต์ หรือระบบนำทาง ผู้ซื้อต้องชำระแยกต่างหากจากค่างวดปกติ ควรวางแผนงบประมาณส่วนนี้ล่วงหน้า


ค่าใช้จ่ายระหว่างใช้รถ

นอกจากค่าใช้จ่ายก่อนออกรถและค่าใช้จ่ายในวันรับรถที่ต้องเตรียมให้พร้อมแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายระหว่างใช้รถ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาวที่เจ้าของรถจะต้องมีการวางแผนการเงินและเตรียมไว้ให้พร้อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่องระหว่างใช้รถยนต์ โดยค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมมีดังนี้

6. ค่าผ่อนรถ

สำหรับค่างวดรถในแต่ละเดือน จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับราคารถยนต์ ดอกเบี้ย จำนวนเงินดาวน์ และจำนวนงวดที่ผ่อนชำระ แต่โดยเฉลี่ยแล้วเราจะผ่อนจ่ายรถเดือนละประมาณ 5,000-15,000 บาท

7. ค่าน้ำมัน/แก๊ส

โชคดีที่รถยนต์สมัยใหม่มีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น โดยปกติแล้วถ้าใช้รถยนต์ขับไปทำงานทุกวัน จะเสียค่าน้ำมัน/แก๊ส ประมาณ 4,000-8,000 บาท/เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ ระยะทาง และสภาพการจราจร

8. ค่าดูแลบำรุงรักษา ตรวจเช็กระยะ เช็กสภาพรถ

รถยนต์ที่ใช้งานไปนาน ๆ ก็ย่อมมีเสื่อมสภาพ จึงต้องมีการเช็กระยะ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยปกติแล้วจะทำปีละ 2 ครั้ง (ทุก ๆ 6 เดือน) มีค่าใช้จ่ายครั้งละประมาณ 3,000-4,000 บาท แต่ถ้าทางค่ายรถยนต์มีบริการบำรุงรักษาฟรีก็จะช่วยประหยัดส่วนนี้ไปได้ในระยะหนึ่ง

9. ค่าพ.ร.บ./ประกันภัย/ภาษีรถยนต์

ข้อนี้เหมือนเป็นภาคบังคับ ทั้งเรื่องของภาษีและ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่ต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของการทำประกันภัยรถยนต์นั้น หากคุณซื้อรถด้วยการจัดไฟแนนซ์ จะมีการกำหนดให้ทำประกันภัยไว้ในสัญญา ซึ่งการทำประกันรถยนต์เอาไว้ ก็เพื่อความอุ่นใจ ถ้าเป็นประกันภัยชั้น 1 ก็ยิ่งดี เพราะสามารถเคลมได้เกือบทุกกรณี ทั้งนี้เราอาจไม่ต้องจ่ายเอง เนื่องจากบางโชว์รูมอาจมีโปรโมชันฟรี 1 ปีแรก แต่หลังจากนั้นก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันเอง ราคาเบ็ดเสร็จแล้วอยู่ที่ราว 15,000-25,000 บาท

10. ค่าที่จอดรถ

ปัญหาระดับชาติของคนมีรถ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ คือ การหาที่จอดรถยากเหลือเกิน บางคอนโดฯ ก็คิดค่าที่จอดรถ บางออฟฟิศก็ไม่มีที่จอดให้พนักงาน เราก็ต้องไปหาเช่าที่จอดรถเอง อาจเหมาเป็นรายเดือน ราว 1,000-2,000 บาท หรืออาจจ่ายรายครั้งละ 20-50 บาท แต่พอรวมกันหลาย ๆ เดือน ก็เป็นจำนวนเงินไม่น้อย

11. ค่าทางด่วน

ถ้าอยากประหยัดเวลาเดินทาง ไม่ว่าจะในเมือง หรือไปต่างจังหวัดไกล ๆ การใช้ทางด่วนก็จะช่วยตอบโจทย์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการขึ้นทางด่วนแต่ละครั้งก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ 50-240 บาท

12. ค่าล้างรถ

บางคนไม่มีที่พักส่วนตัว ต้องจอดรถที่ส่วนกลางของคอนโดฯ หรืออพาร์ตเมนต์ อาจจะไม่สะดวกล้างรถเอง จึงต้องไปใช้บริการคาร์แคร์ ค่าล้างรถ-ดูดฝุ่นทั่วไปอยู่ที่ครั้งละ 100-200 บาท

13. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

ยังมีค่าใช้จ่ายที่เราไม่คาดคิดอีก เช่น ค่าปรับกรณีทำผิดกฎจราจร ค่าเรียกรถลากฉุกเฉิน ค่าซ่อมด่วน ค่ายางรถยนต์ และอีกหลายๆ ค่า ฯลฯ


ตัวอย่างแผนคำนวณค่าใช้จ่ายในการซื้อรถยนต์ 1 คัน

ถ้าเราต้องการซื้อรถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น City V AT ซึ่งตอนนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 609,000 บาท (คิดเป็นเลขกลม ๆ จะอยู่ที่ประมาณ 600,000 บาทถ้วน) จะต้องมีค่าใช้จ่ายดังนี้

  • วางเงินดาวน์ 30% ของราคารถ = 180,000 บาท
  • เหลือยอดจัดที่ต้องผ่อนชำระ = 600,000 - 180,000 = 420,000 บาท
  • เลือกผ่อนชำระ 48 เดือน (4 ปี) อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี จะมีวิธีคำนวณดังนี้
  • อัตราดอกเบี้ย x จำนวนเงินยอดจัด = 420,000 x 5% = 21,000 บาทต่อปี
  • รวม 4 ปีจะต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด = 84,000 บาท
  • ยอดเงินรวมที่จะต้องจ่าย (จำนวนเงินยอดจัด + ดอกเบี้ยทั้งหมด) = 420,000 + 84,000 = 504,000 บาท
  • คิดเป็นค่างวดรายเดือน = 504,000 ÷ 48 = 10,500 บาท

ดังนั้น ถ้าเราต้องการซื้อรถยนต์ Honda รุ่น City V AT โดยเลือกวางเงินดาวน์ 30% ผ่อนชำระ 48 เดือน อัตราดอกเบี้ย 5% จะต้องจ่ายค่างวดเดือนละ 10,500 บาท ซึ่งยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในเช็กลิสต์ด้านบน ได้แก่

  • ค่าน้ำมัน เดือนละ 4,000-8,000 บาท
  • ค่าดูแลบำรุงรักษา ตรวจเช็กระยะ (ปีละ 6,000-7,200 บาท) เดือนละ 500-600 บาท
  • ค่าพ.ร.บ./ประกันภัย/ภาษีรถยนต์ (ปีละ 14,400-24,000 บาท) เดือนละ 1,200-2,000 บาท
  • ค่าที่จอดรถ เดือนละ 1,000-2,000 บาท
  • ค่าทางด่วน ถ้าขึ้นทุกวันก็ขั้นต่ำ เดือนละ 1,500 บาท
  • ค่าแกดเจ็ต ค่าอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ค่าล้างรถ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา

สรุปว่านอกจากเงินดาวน์ 180,000 บาทในวันแรก และเงินสำหรับจ่ายค่างวดรถ เดือนละ 10,500 บาทแล้ว นอกจากนี้เรายังต้องเตรียมพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับรถ อย่างน้อยเดือนละ 8,200-14,100 บาทด้วย รวมค่าใช้จ่ายต่อเดือนของการใช้รถยนต์ Honda รุ่น City V AT 1 คัน อยู่ที่ เดือนละ 18,700-24,600 บาท


สรุปบทความ

และทั้งหมดนี้ก็คือค่าใช้จ่ายในการออกรถ 1 คันที่ ทีทีบีไดรฟ์รวบรวมมาให้ ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมก็มีตั้งแต่ค่าใช้จ่ายก่อนออกรถ ค่าใช้จ่ายในวันรับรถ และค่าใช้จ่ายระหว่างใช้รถ การวางแผนการเงินและเตรียมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้พร้อม จะช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์และใช้งานรถยนต์ได้อย่างสบายใจ


สมัครสินเชื่อรถยนต์ใช้เล้ว ttb DRIVE คลิก ที่นี่ เลย

สมัครสินเชื่อรถยนต์ใช้เล้ว ttb DRIVE

สุดท้ายนี้สำหรับคนที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อรถ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ใหม่ป้ายแดง หรือรถยนต์มือสอง ก็สามารถขอสินเชื่อกับ ttb DRIVE ได้ เพราะเรามีบริการสินเชื่อรถยนต์ใหม่ และสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว ที่ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินรถ รู้ผลอนุมัติเบื้องต้นไวภายใน 30 นาที (เมื่อเอกสารครบ) ดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่แบบคงที่ ชำระค่างวดเท่ากันตลอดอายุสัญญา ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 84 เดือน


สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อคลิก ที่นี่ เลย

สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE หรือคำนวณสินเชื่อรถแลกเงิน

นอกจากนี้สำหรับคนที่กำลังมองหาเงินก้อนแบบเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เรายังมีบริการสินเชื่อรถแลกเงิน ttb DRIVE ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของแต่ละคน

สำหรับผู้ที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือต้องการคำปรึกษาด้านสินเชื่อ ทีทีบีไดรฟ์มีผู้เชี่ยวชาญด้านสินเชื่อที่พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการ คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง

*กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
สินเชื่อรถยนต์ใหม่ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.21% - 10.00% ต่อปี
สินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 7.48% - 15.00% ต่อปี
สินเชื่อรถแลกเงิน อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 5.93% - 23.00% ต่อปี