สิ่งที่เกิดขึ้น

-         China Vanke บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของจีน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบริษัทอสังหาฯ จีนที่ใหญ่ที่สุดในแง่ของยอดขาย อีกทั้งหุ้นประมาณ 30% ของ China Vanke ถูกถือโดย Shenzhen Metro Group รัฐวิสาหกิจของจีน กำลังประสบปัญหาด้านสภาพคล่องอย่างรุนแรง

-         หุ้นกู้จำนวน 2 พันล้านหยวนของ China Vanke ครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2025 โดย China Vanke ไม่สามารถชำระเงินคืนให้กับผู้ถือหุ้นกู้ดังกล่าวได้ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ หากผ่านพ้น grace period 5 วันทำการ ในวันที่ 22 ธ.ค. 2025

-         การประชุมผู้ถือหน่วยหุ้นกู้ในวันที่ 22 ธ.ค. ที่ครบกำหนด grace period 5 วัน ผู้ถือหุ้นกู้มีมติขยายระยะเวลา grace period ออกไปเป็นครบกำหนดวันที่ 28 ม.ค. 2026 ส่งผลให้ China Vanke รอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้ (default) อย่างเป็นทางการได้อย่างหวุดหวิด อย่างไรก็ตาม ผู้ถือหุ้นกู้ไม่ผ่านมติให้ยืดระยะเวลาชำระคืนเงินต้นออกไปอีก 12 เดือน

มุมมองการลงทุน

-         สถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของ China Vanke ยังมีความเสี่ยง จากการที่ China Vanke ยังมีหุ้นกู้จำนวน 3.7 พันล้านเหรียญ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 28 ธ.ค. 2025 อีกทั้งยังมีความหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ ทำให้ยังมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ได้อยู่

-         ขณะที่ปัญหาสภาพคล่อง และความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ของ China Vanke เกิดจากความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่จีนประกาศใช้นโยบาย “3Red Lines” ในช่วงปลายปี 2020 ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่ายังต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปี ก่อนที่ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนจะฟื้นตัว

-         แม้รัฐบาลจีนจะพยายามออกมาตรการช่วยเหลือในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังคงไม่เพียงพอที่จะส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอมากฟื้นตัวได้ อีกทั้งรัฐบาลจีนยังมีท่าทีที่ระมัดระวังในการออกมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาฯ โดยพยายามยึดแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืน (sustainability)

คำแนะนำจาก ttb investment office

-         การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตทั้งกับ Evergrande และ Country Garden ซึ่งต่างก็ส่งผลให้ดัชนี HSCEI ปรับตัวลงได้มากทั้งในช่วงก่อนและหลังที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้

-         แม้ China Vanke จะรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ไปได้อย่างหวุดหวิด แต่หากพิจารณาจากกำหนดการชำระหนี้ในอนาคต ประกอบกับความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังคงอยู่ ส่งผลให้ยังไม่อาจวางใจในสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของ China Vanke ได้

-         นักลงทุนที่มีกำไรจากการลงทุนในหุ้นจีน H-Share อาจพิจารณาขายทำกำไรออกไปก่อน ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการตัดขาดทุน อาจพิจารณาถือครองการลงทุนต่อไปได้ จากองค์ประกอบของ H-SHARE ที่มีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง ช่วยพยุงไว้ และยังมีลุ้นจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีนในช่วงต้นปีหน้า

Source: ttb investment office, Bloomberg, CNB