เลี้ยงน้องหมา น้องแมวหนึ่งตัว มีค่าใช้จ่าย ค่ารักษาสัตว์อะไรบ้าง

สัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว ที่เราคอยมอบความรัก ความอบอุ่น และการดูแลเอาใจใส่ให้ ขณะที่น้อง ๆ ก็เฝ้ารอการกลับบ้านของเราในทุก ๆ วัน พร้อมมอบความอบอุ่นและรอยยิ้มให้กับเราเสมอ ในปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการเลี้ยงน้องหมา น้องแมวมากขึ้น พร้อมทั้งใส่ใจในเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ของพวกมันอย่างดี แต่หลายคนอาจยังกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะตามมา โดยเฉพาะค่ารักษาสัตว์ในยามเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ควรเตรียมไว้ เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินในการเลี้ยงสัตว์ได้อย่างเหมาะสม ในบทความนี้กัน

ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงน้องหมา-น้องแมว

การเลี้ยงสัตว์เป็นความรับผิดชอบระยะยาวที่เจ้าของต้องเตรียมพร้อมทั้งเรื่องเวลาและค่าใช้จ่าย นอกจากความรักและการดูแลเอาใจใส่แล้ว ค่ารักษาสัตว์และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มาดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่ต้องเตรียมไว้ ดังนี้

ค่าอาหาร

อาหารนับเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่สำคัญในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง ทั้งน้องหมาและน้องแมวจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่แตกต่างกันตามช่วงวัยและสายพันธุ์ โดยปกติแล้วค่าอาหารเฉลี่ยต่อเดือนสำหรับสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 3,000 บาท โดยแบ่งเป็นอาหารเม็ดคุณภาพดีราคาประมาณ 200 - 500 บาทต่อกิโลกรัม และอาหารเปียกราคาซองละ 25 - 45 บาท นอกจากนี้ยังต้องมีอาหารเสริมและขนมสำหรับฝึกหรือให้รางวัล ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามแบรนด์และคุณภาพที่เลือกซื้อ

Tips: ควรเลือกอาหารให้เหมาะกับวัยและสายพันธุ์ โดยเฉลี่ยเดือนละ 1,500 – 3,000 บาท ผสมอาหารเม็ดและอาหารเปียก เพิ่มขนมหรืออาหารเสริมสำหรับรางวัล และซื้อแพ็กใหญ่หรือโปรโมชันเพื่อลดค่าใช้จ่าย

ค่าของจิปาถะ

การเลี้ยงสัตว์ให้มีความสุขและสุขภาพดีนั้น นอกจากอาหารที่ดีแล้ว ก็จำเป็นต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานหลายอย่าง ซึ่งควรเตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไว้ประมาณ 2,000 - 5,000 บาท เช่น กระบะทราย ทรายแมว ที่ข่วนเล็บ ของเล่น ปลอกคอ สายจูง ชามอาหารและที่นอน โดยสิ่งของเหล่านี้เปรียบเสมือนสิ่งของในชีวิตประจำวันของทนุษย์นั่นเอง ซึ่งของใช้บางอย่างอาจต้องซื้อเพิ่มหรือเปลี่ยนใหม่เป็นระยะ เช่น ทรายแมวที่ต้องเปลี่ยนทุกเดือนหรือของเล่นที่อาจชำรุดจากการใช้งาน เป็นต้น

Tips: เลือกซื้อของเล่นหรืออุปกรณ์แบบ Multi-function เช่น ที่นอนรวมคอกกั้น ชามอาหารที่ใส่ได้ทั้งอาหารและน้ำ ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้

ค่าวัคซีน

การฉีดวัคซีนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันโรคที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสัตว์เลี้ยง เพราะช่วยป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจทำให้สัตว์เลี้ยงเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัขหรือลูกแมว ที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ การฉีดวัคซีนจึงเป็นเกราะป้องกันชั้นดีที่จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงของเราปลอดภัยจากโรคติดต่อร้ายแรง เช่น โรคไข้หัดสุนัข ไข้หวัดสุนัข และพิษสุนัขบ้า ซึ่งบางโรคสามารถติดต่อมาสู่คนได้ ข้อมูลจากโรงพยาลสัตว์ทองหล่อ ค่ารักษาสัตว์ในส่วนของวัคซีนพื้นฐานสำหรับน้องหมาและน้องแมวมีดังนี้

• วัคซีนรวมป้องกัน 5 โรค น้องหมาแมวอายุตั้งแต่ 8 สัปดาห์หรือตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป ราคาประมาณ 350 - 800 บาทต่อเข็ม และจำเป็นต้องทั้งหมดฉีด 3 เข็ม
• วัคซีนพิษสุนัขบ้า สำหรับน้อง ๆ ที่อายุ 14 สัปดาห์ และต้องฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง ราคาต่อเข็มอยู่ที่ประมาณ 150 - 500 บาท หลังจากนั้น จำเป็นต้องฉีดทุก ๆ 1 ปี
• วัคซีนรวมป้องกันโรคหัดแมว และหวัดแมว ราคาประมาณ 400 - 700 บาทต่อเข็ม สำหรับน้องแมวอายุ 2 เดือนขึ้นไป ฉีดทั้งหมด 3 เข็ม
• วัคซีนลิวคีเมีย สำหรับน้องแมวที่มีอายุ 16 สัปดาห์ขึ้นไป ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 600 - 800 บาทต่อเข็ม ต้องฉีดจำนวน 2 เข็ม

นอกจากนี้ ยังรวมถึงยาถ่ายพยาธิ และยาหยอดเห็บหมัดของแมว เพื่อสุขภาพที่ดีของน้อง ๆ ราคาจะเริ่นต้นอยู่ที่ประมาณ 100 บาท โดยทั่วไปจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนพื้นฐานปีละครั้ง และอาจต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติมตามความเสี่ยงของโรคในแต่ละพื้นที่ การลงทุนกับค่าวัคซีนถือเป็นการประหยัดในระยะยาว เพราะหากสัตว์เลี้ยงติดโรคร้ายแรงขึ้นมา ค่ารักษาสัตว์อาจสูงกว่าค่าวัคซีนหลายเท่าตัว และบางโรคอาจรักษาไม่ทันจนสูญเสียสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักไปได้

Tips: สัตวแพทย์แนะนำให้ฉีดวัคซีนครบตามโปรแกรม โดยทั่วไปลูกสุนัขหรือลูกแมวควรเริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 6 – 8 สัปดาห์ และฉีดซ้ำทุก 3 – 4 สัปดาห์จนครบชุดแรก จากนั้นควรทำวัคซีนบูสเตอร์ปีละครั้ง เพื่อคงภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคร้ายแรงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังแนะนำให้จองแพ็กเกจวัคซีนจากโรงพยาบาลสัตว์ เพื่อราคาที่คุ้มค่ากว่า

ค่าทำหมัน

การทำหมันเป็นการป้องกันโรคและควบคุมประชากรสัตว์เลี้ยงที่สำคัญ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปัญหาสัตว์จรจัดแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว เช่น ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมในเพศเมีย ลดพฤติกรรมก้าวร้าวและการหนีออกจากบ้านในเพศผู้ รวมถึงป้องกันโรคติดต่อทางเพศและมดลูกอักเสบได้อีกด้วย ทั้งนี้ค่ารักษาสัตว์ในส่วนของการทำหมันจะแตกต่างกันตามเพศและขนาดของสัตว์ โดยเราได้รวมรวบราคาค่ารักษาพยาบาลในการทำหมันมาให้เบื้องต้น ดังนี้

• ค่าทำหมันแมวเพศผู้ ประมาณ 800 - 1,500 บาท
• ค่าทำหมันแมวเพศเมีย ประมาณ 1,500 - 2,500 บาท
• ค่าทำหมันสุนัขเพศผู้ ประมาณ 1,500 - 3,000 บาท
• ค่าทำหมันสุนัขเพศเมีย ประมาณ 2,500 - 5,000 บาท

อย่างไรก็ตาม การทำหมันควรทำเมื่อสัตว์เลี้ยงมีอายุและน้ำหนักที่เหมาะสม โดยทั่วไปแนะนำให้ทำเมื่ออายุตั้งแต่ 1 ปีหรือน้อง ๆ ที่โตเต็มวัยและทำวัคซีนครบแล้ว ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์ ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด โดยเฉพาะตัวเมียที่จำเป็นต้องผ่าตัดช่องท้อง ทำให้จำเป็นต้องอยู่เฝ้าดูอาการ อาจมีค่าใช้จ่ายในการพักฟื้นเพิ่มเติม แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยประหยัดค่ารักษาสัตว์จากโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้สัตว์เลี้ยงของเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และอยู่กับเราไปได้นาน ๆ อีกด้วย

Tips: การทำหมันช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น หนีออกจากบ้าน หรือทะเลาะกับสัตว์อื่น ทำให้ประหยัดค่ารักษาฉุกเฉินได้ในอนาคต

ค่าใช้จ่ายรักษาโรคยอดฮิตที่พบในสัตว์เลี้ยง

ค่ารักษาสัตว์ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือเกิดอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก และอาจมีค่าใช้จ่ายสูง เช่น

• ค่ารักษาแมวในกรณีติดเชื้อทั่วไป เริ่มต้นประมาณ 500 - 1,500 บาท
• ค่ารักษาสุนัขที่มีอาการท้องเสียรุนแรง ประมาณ 1,000 - 3,000 บาท
• X-ray แมว ราคาประมาณ 800 - 1,500 บาท
• ค่าอัลตร้าซาวด์แมว ราคาประมาณ 1,500 - 2,500 บาท
• ค่าผ่าตัดเนื้องอกสุนัข ราคาอาจสูงถึง 15,000 - 30,000 บาท
• สุนัขขาหักค่ารักษา ราคาอาจสูงถึง 20,000 - 50,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีโรคร้ายแรงที่พบได้บ่อยในสุนัขและแมว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ควรทราบ ได้แก่

โรคหนอนพยาธิ

โรคที่มักพบในลูกสุนัขและลูกแมว โดยเฉพาะที่ยังไม่ได้รับการถ่ายพยาธิ ค่ารักษาสัตว์เริ่มต้นประมาณ 500 - 2,000 บาท รวมค่ายาถ่ายพยาธิและการรักษาอาการแทรกซ้อน เช่น อาการท้องเสีย ซีดหรือขาดสารอาหาร

โรคเชื้อรา

โรคผิวหนังที่พบบ่อยในสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ค่ารักษาประมาณ 1,000 - 3,000 บาทต่อครั้ง ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง 1 - 3 เดือน รวมค่ายาทาภายนอกและยารับประทาน

โรคไวรัสลำไส้อักเสบ

โรคติดเชื้อร้ายแรงที่พบได้ทั้งในสุนัขและแมว มักพบในสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ โดยเชื้อไวรัสสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสอุจจาระของสัตว์ที่ป่วย หรือการใช้ภาชนะร่วมกัน อาการที่พบได้บ่อยคือ อาเจียน ท้องเสียรุนแรง เบื่ออาหาร และขาดน้ำ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ค่ารักษาเริ่มต้นประมาณ 3,000 - 10,000 บาท กรณีที่มีอาการรุนแรงและต้องนอนโรงพยาบาลอาจสูงถึง 20,000 - 40,000 บาท ทั้งนี้ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการพาสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนตามกำหนด และรักษาความสะอาดของสภาพแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ

โรคไตวาย

โรคที่อาจเกิดขึ้นได้แบบไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และเมื่อแสดงอาการแล้วต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ สาเหตุมีได้หลายประการ ทั้งจากการกินอาหารที่มีสารพิษ การติดเชื้อในกระแสเลือดหรือแม้แต่ภาวะขาดน้ำรุนแรง โดยเฉพาะในสัตว์เลี้ยงอายุมาก ค่ารักษาเริ่มต้นประมาณ 3,000 - 8,000 บาทต่อครั้ง กรณีที่ต้องให้น้ำเกลือและนอนโรงพยาบาลอาจสูงถึง 15,000 - 30,000 บาท และยังต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อเนื่องเดือนละ 2,000 - 5,000 บาท นับว่าเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องการเงินก้อนในการรักษาทันที เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเรามีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด

โรคมะเร็ง

โรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงทุกตัว โดยไม่เลือกอายุหรือสายพันธุ์ และบางครั้งก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งตัว แม้จะดูแลเอาใจใส่อย่างดีก็ตาม เมื่อพบความผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้องอกที่ผิดปกติ หรืออาการซึมเศร้าผิดปกติ จำเป็นต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน เพราะการรักษาในระยะเริ่มต้นจะมีโอกาสรักษาให้หายได้มากกว่า การรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือการผ่าตัดอาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 30,000 - 100,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค และวิธีการรักษา เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่เราอาจต้องการเงินด่วนเพื่อช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงที่เรารักให้ทันท่วงที

Tips: ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับสัตว์เลี้ยงอย่างน้อย 20,000 – 50,000 บาท เพื่อรับมือเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุหรือผ่าตัด เป็นต้น นอกจากนี้ แนะนำให้ซื้อประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยง ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงของคุณเกิดโรคร้ายก็จะช่วยลดภาระค่ารักษาได้

เทคนิควางแผนการเงินน้อง ๆ สี่ขา ให้สบายใจทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยง

เพราะการวางแผนการเงินที่รอบคอบ คือหัวใจสำคัญของการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเริ่มต้น เช่น ค่าอุปกรณ์ของใช้ที่จำเป็น และค่าตรวจสุขภาพเบื้องต้น ไปจนถึงค่าใช้จ่ายต่อเนื่องรายเดือนและรายปี เช่น ค่าอาหารคุณภาพดี ค่าวัคซีนตามกำหนด ค่าป้องกันเห็บหมัดและพยาธิหนอนหัวใจ ค่าดูแลทำความสะอาด และค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ การจัดทำงบประมาณรายรับรายจ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะจะช่วยให้เห็นภาพรวมและสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยการจัดสรรเงินออมส่วนหนึ่งเป็นกองทุนฉุกเฉินสำหรับค่ารักษาพยาบาลยามเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูง การพิจารณาทำประกันภัยสัตว์เลี้ยงก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินในระยะยาวได้ การวางแผนที่ดีไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับเจ้าของ แต่ยังรับประกันว่าสัตว์เลี้ยงจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีที่สุดตลอดชีวิตของพวกเขานั่นเอง ทั้งนี้หากเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องการเงินก้อนสำหรับค่ารักษาสัตว์ บัตรกดเงินสด ทีทีบี แฟลช วงเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายเร่งด่วน ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้และสามารถเบิกถอนได้ทันทีผ่านตู้ ATM หรือแอป ttb touch ตลอด 24 ชั่วโมง

สรุปบทความ

การเลี้ยงสัตว์เป็นความรับผิดชอบระยะยาวที่ต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านการเงินและการดูแล โดยเฉพาะค่ารักษาสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด ควรวางแผนการเงินและเตรียมเงินสำรองไว้อย่างน้อย 20,000 - 50,000 บาท จึงเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึง เพื่อให้พร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงของเราได้ และที่สำคัญที่สุดคือการดูแลสุขภาพของน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงตั้งแต่เริ่ม เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคและอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระไหว
บัตรกดเงินสดทีทีบี แฟลช อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 18% - 25% ต่อปี
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.ttbbank.com

อ้างอิงจากข้อมูล
https://thonglorpet.com/promotion/tl-petvaccinationpackage-2024
https://www.hospetal.co.th/content/5022/dog-vaccine
https://www.purina.co.th/articles/cats/health/special-needs/cats-vaccination