เตรียมความพร้อม ส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกในวันที่โลกไม่มั่นคง

• เมื่ออนาคตยังไม่น่าไว้วางใจ การเตรียมความพร้อมให้ลูกใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคง นับเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่สามารถวางแผนไว้ล่วงหน้าได้
• การส่งต่ออนาคตที่มั่นคงให้ลูก ทำได้หลายวิธี ทั้งส่งเสริมในแง่ทัศนคติ วิธีการบริหาร รวมถึงการส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูก เพื่อมั่นใจได้ว่าเขาจะอยู่สบาย ไม่ลำบาก
• ทีทีบี มอบทางเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ด้วย โซลูชันมั่งคั่งดอกสูงสมัครผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ทีทีบี เดอะ เทรเชอร์ ได้รับสิทธิ์เปิดบัญชี “ทีทีบี ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ ออมทรัพย์พิเศษ” พักเงินค่าเบี้ยประกันฯ ที่ต้องชำระอีก 7 ปีข้างหน้า ไว้ในบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูง ลงทุนครั้งเดียวเพื่อส่งมอบอนาคตที่มั่นคงให้ลูกในทุกช่วงวัย

 

ความสุขในชีวิตสำหรับคนเป็นพ่อแม่ คือการได้ดูแลชีวิตลูกให้เติบโตมาด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุขในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะทุกวันนี้ที่โลกหมุนเร็ว เปลี่ยนแปลงเร็ว แต่ก็มาพร้อมความผันผวนจากหลายทาง ไม่ว่าจะโรคระบาด หรือเศรษฐกิจที่ยังวางใจไม่ได้

ทีทีบี เข้าใจในความต้องการของคุณ จึงคิดโซลูชันให้คุณวางแผนเตรียมพร้อมส่งต่ออนาคตที่มั่งคั่งให้ลูกและคนที่คุณรักได้เติบโตอย่างมั่นคง

 

ให้ทัศนคติที่เปิดกว้าง เพื่อให้ลูกตระหนักในความเป็น Global Citizen

ในวันที่โลกใบเดิมกลายเป็นโลกไร้พรมแดน ที่ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โอกาสโยกย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่ประเทศอื่นก็เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะเป็นพลเมืองคุณภาพในสังคมระดับประเทศอาจไม่เพียงพอ

การเตรียมความพร้อมให้ลูกมีความยืดหยุ่นพร้อมปรับตัวไปตามโลกไร้พรมแดนได้อย่างรวดเร็ว และเสริมทัศนคติให้ลูกตระหนักว่าตนเองก็เป็น ‘พลเมืองโลก’ ที่สามารถคว้าโอกาส แสดงความสามารถ เพื่อสร้างประโยชน์ให้ตนเองและสังคมได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของโลก เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมความพร้อมให้ลูกได้ด้วย 2 วิธีคิดนี้

1. Growth Mindset สร้างแนวคิดเพื่อการเติบโตที่ไม่สิ้นสุด

แนวคิด Growth Mindset คือการเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถพัฒนาได้ตลอดเวลา และคิดหาวิธีที่จะพัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด วิธีคิดแบบนี้จะช่วยให้ลูกไม่กลัวเมื่อต้องเผชิญกับความแปลกใหม่ ความท้าทายในชีวิต เพราะมั่นใจว่าในที่สุดตนเองจะสามารถไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด

คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝัง Growth Mindset ให้ลูกได้ง่าย ๆ ด้วยการชื่นชมลูกในด้านความพยายามของเขามากกว่าแค่ชื่นชมในความสำเร็จ ทำให้ลูกรู้ว่าการพยายามนั้นมีคุณค่าและน่ายกย่อง สนับสนุนให้เขารับมือกับปัญหาอย่างเปิดกว้าง ช่วยคิดหาแนวทางไปสู่เป้าหมาย และปลูกฝังให้พวกเขามองความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดาที่วันหนึ่งจะลุกขึ้นมาได้

2. ก้าวผ่านทุกปัญหา ด้วย Design Thinking

Design Thinking คือกระบวนการคิดแก้ปัญหาหรือบรรลุเป้าหมายอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้กับปัญหาและสถานการณ์ทุกรูปแบบ ประกอบไปด้วย 5 ขั้นตอน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับลูกได้ โดยอาจจะฝึกตั้งโจทย์และชวนลูกคิดแก้ไขปัญหา เช่น หากเพื่อนไม่ยอมรับความคิดของลูก จะรับมือยังไง พร้อมแก้ไขปัญหาด้วยวิธีดังต่อไปนี้

1. ทำความเข้าใจปัญหา พร้อมวิเคราะห์ทุกมุมของปัญหาว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร
2. กำหนดเป้าหมายของเราให้ชัดเจน ว่าจะแก้ปัญหาอะไร
3. ระดมความคิดอย่างไม่มีกรอบเพื่อหาไอเดียที่ดีที่สุด
4. ทดลองทำตามไอเดียที่เลือกมา พร้อมเรียนรู้ผ่านการลงมือทำจริง

 

ให้ความรู้และฝึกวินัยทางการเงินให้ลูก

การให้ความรู้ด้านการเงินกับลูกเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ลูก เติบโตมาได้ด้วยความมั่นคง โดยเฉพาะการฝึกให้ลูกมีวินัยด้านการออมติดตัวไว้ ก็จะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้เขาสามารถเติบโตใช้ชีวิตได้อย่างไม่สะดุด เมื่อเจอกับเรื่องไม่คาดฝันก็มีเงินที่พร้อมให้ชีวิตขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างไม่กังวล

“รายได้เยอะ ไม่สำคัญเท่า เงินเหลือเก็บเยอะ” ข้อคิดสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังลูกได้ตั้งแต่ยังเด็ก ให้เขาเห็นคุณค่าของเงิน คุณค่าของการออม โดยสามารถฝึกการออมเงินให้เขาด้วยวิธีสนุก ๆ เช่น

1. ตั้งเป้าหมายให้ลูก โดยใช้ของรางวัลเป็นแรงจูงใจในการออม

ชวนลูกเก็บเงินให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดร่วมกัน เช่น 1 เดือน ถ้าลูกไปโรงเรียนกลับมาแล้วสามารถออมเงินได้ทุกวัน คุณจะให้สิ่งของหรือสิ่งที่เขาอยากได้เป็นรางวัล หากทำได้สำเร็จ

2. ชวนเก็บแบงก์ 50 บาท

ในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หากลูกได้แบงก์ 50 บาท มาครอบครอง ให้มาหยอดกระปุกไว้โดยไม่มีข้อแม้ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะช่วยให้เงินเขาจำนวน 50 บาทเป็นการทดแทน แต่การตั้งกฎเหล็กขึ้นมาแบบนี้ก็สามารถสร้างวินัยในการออมให้ลูกได้ เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี ลองเปิดกระปุกมาดูแล้วนับจำนวนเงินไปพร้อม ๆ กับลูกก็จะช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้เขาได้

นอกจากฝึกวินัยในการออมแล้ว การให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการเงินในสัดส่วนที่เหมาะสมก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน โดยควรฝึกให้ลูกแบ่งเงินที่ได้จากค่าขนมประจำวันเป็น 3 ส่วน

วางแผนส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูก เพื่อปูทางสู่ความมั่นคงในทุกก้าวของชีวิต

เมื่อส่งมอบทัศนคติในการใช้ชีวิตให้ลูก เพื่อสร้างเกราะป้องกันทางความคิดให้ลูกเติบโตอย่างมั่นใจ พร้อมปลูกฝังวินัยและให้ความรู้ในการบริหารจัดการด้านการเงินแล้ว การวางแผนด้านการเงินเพื่อเตรียมพร้อมรองรับและสนับสนุนลูกในทุกช่วงวัย เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน

ทีทีบี จึงให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสการวางแผนความมั่งคั่งของคุณพ่อคุณแม่เพื่อลูก ด้วย โซลูชัน “มั่งคั่งดอกสูง” เมื่อสมัครผลิตภัณฑ์ “ประกันชีวิต ทีทีบี เดอะ เทรเชอร์” ได้รับสิทธิพิเศษเปิดบัญชี “ทีทีบี ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ ออมทรัพย์พิเศษ” พักเงินค่าเบี้ยประกันฯ ที่ต้องชำระอีก 7 ปีข้างหน้า ไว้ในบัญชีเงินฝากที่ได้ดอกเบี้ยสูง ลงทุนครั้งเดียวเพื่อส่งมอบอนาคตมั่งคั่งให้ลูกในทุกช่วงวัย พร้อมรับเงินคืน 8% ของทุนประกันชีวิตทุกปี พร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ

โซลูชันมั่งคั่งดอกสูง ช่วยสร้างความมั่นใจให้คุณพ่อคุณแม่ได้ว่า หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับตัวเอง ก็ไม่ต้องกังวล ว่าลูกจะลำบากในการรับภาระจ่ายเบี้ยประกันที่เหลือ และสบายใจได้ว่าแผนที่วางไว้ให้ลูกจะสามารถดูแลเขาได้ทุกย่างก้าวของชีวิต ตั้งแต่รากฐานการศึกษา เติมเต็มสิ่งที่ลูกสนใจในช่วงมหาวิทยาลัย เมื่อเติบโตไปมีครอบครัวของตนก็มีเงินก้อนสำหรับการแต่งงาน ซื้อบ้าน เงินจากลงทุนเพียงครั้งเดียว ยังสามารถส่งต่อและดูแลไปยังทายาทรุ่นที่ 2 และในวันที่เราไม่อยู่แล้วแต่เงินที่ได้จากประกันยังช่วยดูแลลูกในวัยที่เขาเกษียณ เขายังมีเงินในการใช้จ่าย ไม่ลำบากแม้ยามแก่ตัวลง

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สนใจวางแผนส่งต่ออนาคตที่มั่งคั่งให้ลูก สามารถอ่านรายละเอียด โซลูชัน “มั่งคั่งดอกสูง” เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการรับดอกเบี้ยสูงจากทีทีบี และพิเศษ ! เมื่อสมัครประกันชีวิต ทีทีบี เดอะ เทรเชอร์ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 2565 รับสิทธิพิเศษถึง 5 ต่อ รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก

หมายเหตุ
ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง รับประกันชีวิตโดยบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิตและรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น