เครดิตเงินคืนคืออะไร มีขั้นตอนการสมัครและวิธีเลือกอย่างไรบ้าง

• เครดิตเงินคืนคืออะไร ? คุ้มค่าจริงไหม ? จะได้รับตอนไหน ?
• บัตรเครดิต Cash Back คืออะไร ?
• บัตรเครดิตเงินคืนเหมาะกับใคร ?
• แนะนำบัตรเครดิตเงินคืนใช้งานง่าย ttb so smart
• บัตรเครดิตเงินคืน ตัวช่วยวางแผนออมเงินของคนยุคใหม่

การจะเลือกใช้บัตรเครดิตสักใบ แน่นอนว่าสิทธิประโยชน์คงเป็นปัจจัยแรก และปัจจัยใจสำคัญที่ใครหลาย ๆ คนเลือกพิจารณา หากพูดถึงหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คงหนีไม่พ้น Cash Back หรือเครดิตเงินคืน โปรโมชันบัตรเครดิตที่จะมอบเงินให้กับผู้ใช้บัตรหากมีการใช้จ่ายเกิดขึ้น
สำหรับใครที่กำลังสนใจจะทำบัตรเครดิตใบแรก และยังไม่มั่นใจว่าสิทธิประโยชน์จากเครดิตเงินคืนทำงานยังไง มีข้อจำกัดไหม และใช้ยังไง บทความนี้ได้รวบรวมทุกคำตอบเอาไว้ให้คุณแล้ว

เครดิตเงินคืนคืออะไร?

เครดิตเงินคืน คือ สิทธิประโยชน์ที่ผู้ทำบัตรเครดิตเงินคืนจะได้รับกลับมาเมื่อใช้จ่ายบัตรเครดิตตามยอดที่กำหนด ตัวอย่างเช่น บัตรเครดิตเงินคืนธนาคาร ttb ที่ให้เงินคืน 1% ทุกการใช้จ่าย หมายความว่าหากคุณใช้จ่าย 1,000 บาทร่วมกับสินค้าตามที่กำหนด ก็จะได้รับเงินคืน 10 บาท เข้าบัญชีทีทีบี โน ฟิกซ์ เป็นต้น

บัตรเครดิต Cash Back คืออะไร?

บัตรเครดิตเงินคืน หรือ บัตร Cash Back มีจุดเด่นคือ ให้เครดิตเงินคืนเมื่อซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ทำให้เหมาะแก่การวางแผนการเงินลดค่าใช้จ่ายในกรณีที่ซื้อสินค้าและบริการที่เข้าร่วมรายการบัตรเครดิตเป็นประจำ นอกจากนี้บัตรเครดิตเงินคืนยังมาพร้อมกับโปรโมชันที่น่าสนใจอื่นๆ อีกด้วย เช่น ให้เครดิตเงินคืนพิเศษในกรณีที่ชำระค่าน้ำมันในช่วงเวลาจัดโปรโมชัน เป็นต้น

เครดิตเงินคืนได้รับตอนไหน?

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมถึงไม่ได้รับเครดิตเงินคืนในทันทีหลังจากใช้บัตรเครดิตรูดซื้อของ เหตุผลคือ ธนาคารจะคำนวณยอดการใช้จ่ายในงวดนั้นทั้งหมดก่อนว่าได้ใช้จ่ายรายการใดไปบ้าง และการใช้จ่ายบัตร Cash Back แต่ละรายการก็ให้เครดิตเงินคืนไม่เท่ากัน ซึ่งมีทั้งเครดิตเงินคืนในกรณีการซื้อสินค้าปกติ และเครดิตเงินคืนกรณีซื้อสินค้าที่เข้าร่วมรายการ ทำให้ใช้เวลานานในการคำนวณสรุปยอดการใช้จ่าย ส่งผลให้เจ้าของบัตรจะได้รับเครดิตเงินคืนในงวดถัดไป

เครดิตเงินคืน คุ้มค่าจริงไหม?

การใช้บัตรเครดิตเงินคืน หรือบัตรเครดิต Cash Back ซื้อสินค้าย่อมดีกว่าการใช้เงินสดแน่นอน เพราะเมื่อจ่ายเงินซื้อสินค้ายิ่งมากเท่าไหร่ก็จะได้รับเครดิตเงินคืนกลับมามากขึ้นเท่านั้น ทำให้มีเงินเหลือไปซื้อของต่าง ๆ ในขณะที่เมื่อจ่ายเงินสดออกไปแล้วก็จ่ายออกไปเลย ไม่ได้รับส่วนลดใด ๆ กลับคืนมา และจะยิ่งได้เงินคืนบัตรเครดิตมากขึ้น เมื่อซื้อสินค้าที่อยู่ในรายการที่ให้ Cash Back อัตราพิเศษ เพราะโดยปกติแล้วเมื่อใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าทั่วไปจะให้เครดิตเงินคืน 1% แต่เมื่อชำระสินค้าที่เข้าร่วมรายการ เช่น ใช้บัตรเครดิต ttb เติมน้ำมันกับปั๊มที่เข้าร่วมโปรโมชันตามที่ธนาคารกำหนด ก็จะได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5%* เป็นต้น

*ระยะเวลาโปรโมชันเติมน้ำมันบัตรเครดิตที่อ้างอิงมา เฉพาะระหว่างวันที่ 1 ม.ค. 68 - 31 ธ.ค. 68 เท่านั้น

บัตรเครดิตเงินคืน (Cash back) เหมาะกับใครบ้าง?

ผู้ที่เหมาะกับการสมัครบัตรเครดิตเงินคืนคือ ผู้ที่วางแผนลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะเครดิตเงินคืนให้ส่วนลดจำนวนมากเมื่อซื้อของที่เข้าร่วมรายการ ทำให้มนุษย์เงินเดือนที่ประสบปัญหาเก็บเงินไม่อยู่ เมื่อใช้บัตรเครดิต Cash Back ในระยะยาวก็จะมีเงินเก็บมากขึ้น และซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง

นอกจากบัตรเครดิต Cash back จะเหมาะกับบุคคลข้างต้นแล้ว ผู้ที่จะใช้บัตรเครดิตเงินคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแลกเครดิตเงินคืนได้อย่างคุ้มค่าคือ ต้องมีที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้กับสถานที่ใช้บัตรเครดิตเงินคืนที่กำหนด เพื่อมีโอกาสใช้บัตรเครดิต Cash Back เป็นประจำ เช่น บัตรเครดิตเงินคืนธนาคาร A กำหนดให้ต้องซื้อของจากร้านค้า B เท่านั้น ถึงจะได้รับเครดิตเงินคืน 15% ของยอดการใช้จ่าย หากเห็นแล้วว่าบ้านของคุณอยู่ใกล้กับร้านค้าดังกล่าว ก็ควรสมัครบัตรเครดิตเงินคืนของธนาคาร A

บัตรเครดิตเงินคืนที่ดีควรมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

เมื่อทราบกันไปแล้วว่าบัตรเครดิตเงินคืนเหมาะกับใครบ้าง ดังนั้น หากเห็นว่าบัตรเครดิตเงินคืนเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคุณ และต้องการบัตรเครดิตเงินคืนที่ดีสักใบ ควรพิจารณาลักษณะของบัตรเครดิตเงินคืนที่ดี ซึ่งมีคุณสมบัติคือ

1. ใช้จ่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ
   ถ้าสังเกตให้ดีบัตรเครดิตจะมีตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ระบุว่า Visa หรือ Mastercard ซึ่งสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นเครือข่ายของบัตรเครดิตที่สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่อยู่ในเครือ ด้วยเหตุนี้ เราควรเลือกเครือข่ายบัตรเครดิตที่มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก เพื่อความสะดวกในการใช้จ่ายเวลาไปต่างประเทศ
2. เสนอสิทธิพิเศษเป็นประจำำ
   บัตรเครดิตเงินคืนของธนาคารที่เสนอสิทธิพิเศษเป็นประจำ จะช่วยให้เจ้าของบัตรได้รับผลประโยชน์เพิ่มเติมจากบัตรเครดิตใบนั้น เช่น จากเดิมบัตรเครดิตให้ Cash Back 1% เมื่อใช้จ่ายกับสินค้าทั่วไป แต่ต่อมาให้เครดิตเงินคืนพิเศษ 5% เมื่อซื้อสินค้าจากแบรนด์ B ทำให้เจ้าของบัตรมีโอกาสซื้อของราคาสูงในราคาประหยัด จากโปรโมชันของบัตรเครดิตได้ (ซึ่งบางกรณีที่ทางธนาคารมีโปรโมชันบัตรเครดิตที่ใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมรายการแล้วได้เครดิตเงินคืนเพิ่มจากโปรโมชันนั้นๆ อาจจะไม่ได้เงินคืน 1% ตามสิทธิประโยชน์เดิมที่มากับบัตรเครดิต cash back ควรศึกษาเงื่อนไขของธนาคารก่อนใช้จ่ายทุกครั้ง)
3. มาพร้อมกับระบบบริหารค่าใช้จ่าย
   บัตรเครดิตเงินคืนที่ดี นอกจากต้องมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย ควรมีระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้บัตรเครดิตเงินคืนวางแผนประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วย เช่น ระบบแอปพลิเคชันควรแสดงรายการใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งแสดงข้อมูลเกี่ยวกับวงเงินที่ได้ใช้ไป และวงเงินคงเหลือ
4. ไม่คิดค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมรายปี
   บัตรเครดิตที่คิดค่าธรรมเนียมแรกเข้าจะทำให้เจ้าของบัตรต้องเสียค่าใช้จ่ายทันทีเมื่อสมัครบัตรเครดิต คล้ายกับการสมัครบัตรเดบิต ส่วนบัตรเครดิตที่คิดค่าธรรมเนียมรายปีมีลักษณะการใช้ยุ่งยากกว่าบัตรเครดิตที่ไม่เสียค่าธรรมเนียม เพราะหากคุณใช้จ่ายรายปีไม่ถึงยอดตามที่ธนาคารกำหนดก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ทำให้การใช้บัตรเครดิตดังกล่าวต้องวางแผนการเงินอยู่ตลอดเวลาว่าใช้จ่ายถึงยอดที่ธนาคารกำหนดแล้วหรือไม่?
5. บัตรเครดิตที่ให้เงินคืนตรงกับลักษณะการใช้จ่าย
   หลายคนคิดว่าควรเลือกบัตรเครดิตเงินคืนที่ให้ Cash Back สูง เพราะจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายครั้งละมาก ๆ แต่การเลือกบัตรเครดิตเงินคืนที่ดี ควรพิจารณาถึงลักษณะการใช้จ่ายของตัวเราเองด้วย มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่าสมัครบัตรเครดิตเงินคืนมาแล้ว ไม่ได้รูดบัตรเครดิตให้ตรงกับรายการสินค้าที่ธนาคารกำหนด ทำให้ไม่ได้รับเครดิตเงินคืนเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น หากต้องการบัตรเครดิตเงินคืนที่ดีก็ควรเปรียบเทียบบัตรเครดิตเงินคืนของแต่ละธนาคารให้ครบถ้วนว่า แบบใดตรงกับลักษณะการใช้จ่ายของเรามากที่สุด

แนะนำบัตรเครดิตเงินคืนใช้งานง่ายจาก ttb

หากทำงานมาได้สักพักและกำลังมองหาบัตรเครดิตเงินคืนที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ปีห้ามพลาดกับบัตรเครดิต ttb so smart ซึ่งรายละเอียดมีดังต่อไปนี้

บัตรเครดิต ttb so smart

บัตรเครดิตเงินคืน ttb so smart มีจุดเด่นโดยให้ทุกการใช้จ่าย ได้รับเงินคืน 1% สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท/บัญชีบัตร/รอบบัญชี โดยจะได้รับเงินคืนเข้าทางบัญชีเงินฝาก ttb no fixed อีกทั้งบัตรเครดิต ttb so smart เหมาะกับผู้ทำบัตรเครดิตที่ใช้ซื้อของทั่วไป ไม่ได้เน้นซื้อของจากแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง หรือจากแพลตฟอร์ม E-commerce แบบเฉพาะเจาะจง และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมของบัตรเครดิต ttb so smart จะมีเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

• ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี
• ฟรีความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง วงเงิน 6 ล้านบาท เมื่อชําระค่าโดยสารยานพาหนะสาธารณะผ่านบัตรเครดิต
• ผ่อนชำระ ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนทุกรายการที่มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาท/เซลล์สลิป กับบริการ ttb so good

เงื่อนไขการใช้จ่ายที่จะไม่ได้รับเงินคืน 1% จากบัตรเครดิต ttb so smart มีรายการที่ยกเว้นดังต่อไปนี้

• ประกันชีวิตที่พ่วง Unit Linked
• รายการซื้อและชำระค่าเบี้ยประกันทุกประเภท
• รายการซื้อกองทุนรวมทุกประเภท
• (cash advance)
• รายการใช้จ่ายที่มีการยกเลิก
• รายการชำระค่าดอกเบี้ย
• รายการชำระค่าปรับ และค่าธรรมเนียมต่างๆ
• รายการแบ่งจ่าย ttb so goood
• รายการผ่อนชำระ pay plan ณ ร้านค้า
• รายการเบิกเงินสดผ่อนชิลล์ๆ (cash chill chill)
• รายการโอนเงิน (cash transfer)
• รายการแลกเงินตราต่างประเทศ
• รายการใช้จ่ายเชิงธุรกิจ
• รายการชำระค่าภาษี
• รายการใช้จ่าย ณ ร้านค้าที่จดทะเบียนในสาธารณรัฐประชาชนจีน (ไม่รวมเขตปกครองพิเศษ เช่น ฮ่องกง มาเก๊า) และเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) 31 ประเทศรวมสหราชอาณาจักร ทุกสกุลเงิน
• รายการใช้จ่ายที่ 7-Eleven
• รายการใช้จ่ายกับร้านค้าจดทะเบียนในต่างประเทศ แต่ทำรายการเป็นสกุลเงินบาท
• รายการใช้จ่ายในสถานีบริการน้ำมันทุกประเภท
• รายการใช้จ่ายที่เกี่ยวกับระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท

บัตรเครดิตเงินคืน ผู้ช่วยวางแผนออมเงินของคนยุคใหม่

บัตรเครดิต ttb so smart บัตรเครดิตเงินคืน (Cash back) คือ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ผู้วางแผนประหยัดค่าใช้จ่ายไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะให้เงินคืนแล้ว ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ มากมาย ทั้งให้ผ่อนชำระสินค้าด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือนทุกรายการที่มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 1,000 บาท/เซลล์สลิป กับบริการ ttb so goood (กรณีเลือกใช้บริการ ttb so goood จะไม่ได้รับเงินคืน 1% ตามเงื่อนไขของบัตรเครดิต ttb so smart), ฟรีความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง เมื่อชําระค่าโดยสารยานพาหนะสาธารณะผ่านบัตรเครดิต และอย่าลืมว่าเมื่อสมัครบัตรเครดิตแล้วควรจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้ตรงเวลา เพราะหากจ่ายบัตรเครดิตช้าจะทำให้ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น จนอาจหาทางชำระเงินคืนไม่ไหว

หากต้องการบัตรเครดิต Cash back ที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี ห้ามพลาดกับบัตรเครดิตเงินคืนจาก ttb บัตรเครดิตที่จะช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้ทุกเดือน!

เงื่อนไข และการพิจารณาบัตรเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิต สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428

*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี