ใช้บัตรเครดิตให้เป็น ต้องรู้จักรอบบิลและใช้จ่ายให้ถูกต้อง

ในยุคที่การใช้ บัตรเครดิต กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การรู้วิธีใช้อย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ อย่างดี ไม่ใช่เพียงช่วยให้ใช้จ่ายได้สะดวก ได้เงินคืนหรือสะสมเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะเมื่อเข้าใจเรื่อง “รอบบิล” และรู้จักการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความเข้าใจ “รอบบิล” บัตรเครดิต
รอบบิลของ บัตรเครดิต คือช่วงเวลาที่ธนาคารใช้คำนวณยอดใช้จ่ายเพื่อเรียกเก็บเงินในแต่ละเดือน โดยทั่วไปจะมีระยะเวลา 30 วัน เช่น หากรอบบิลเริ่มต้นในวันที่ 1 และสิ้นสุดในวันที่ 30 ของเดือน จะมีการสรุปยอดและส่งใบแจ้งหนี้ในวันถัดไป และมีกำหนดชำระภายในประมาณ 15-20 วันหลังจากนั้น

กล่าวคือ ผู้ถือบัตรเครดิตสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ก่อนและชำระเงินภายหลังได้สูงสุดถึงประมาณ 45-50 วัน โดยไม่เสียดอกเบี้ยหากชำระเต็มจำนวนตามรอบบัญชี มาดูเทคนิคการรูดบัตรเครดิตยังไงให้คุ้มที่สุด ว่าสามารถทำอย่างไรได้บ้าง

เลือกวันรูดใช้จ่ายให้ใกล้วันเริ่มรอบบิลมากที่สุด
เพื่อยืดเวลาชำระเงินให้นานที่สุด ควรเลือกใช้ บัตรเครดิต ในวันถัดไปจากวันเริ่มรอบบิล เช่น หากรอบบิลเริ่มวันที่ 1 ควรใช้จ่ายวันที่ 2 หรือ 3 เพราะจะได้เวลารอชำระเงินอีกเกือบ 50 วัน

ตัวอย่างเช่น ถ้ารอบบิลเริ่มวันที่ 1 มิถุนายน – 30 มิถุนายน และกำหนดชำระเงินคือ 15 กรกฎาคม เมื่อใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าวันที่ 2 มิถุนายน กำหนดชำระเงินวันที่ 15 กรกฎาคม จะมีระยะเวลารอการชำระเงิน 43 วัน แต่ถ้ารูดวันที่ 29 มิถุนายน และต้องชำระวันที่ 15 กรกฎาคมเช่นกัน จะเหลือเพียง 16 วัน

นำเงินสดระหว่างรอจ่าย ไปลงทุนหรือฝากรับดอกเบี้ยเพิ่ม
ช่วงที่ใช้จ่ายผ่าน บัตรเครดิต แต่ยังไม่ถึงวันชำระเงิน เป็นช่วงเวลาที่สามารถนำเงินสดซึ่งยังไม่ได้ใช้ไปสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมได้ เช่น ฝากในบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยพิเศษ ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีทั่วไป หรือลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงิน ที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง และสามารถรับซื้อคืนได้ทุกวันทำการ

แม้ผลตอบแทนจากการฝากเงินหรือลงทุนในระยะเวลาเพียง 1 เดือนอาจดูไม่มาก แต่หากทำอย่างต่อเนื่องทุกเดือนตลอดปี ก็เป็นเม็ดเงินจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

ชำระเต็มจำนวน ไม่ผ่อนขั้นต่ำ
เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการใช้ บัตรเครดิต ควรชำระยอดเต็มจำนวนตามใบแจ้งหนี้ทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียดอกเบี้ย ซึ่งอาจมีอัตราสูงถึง 16% ต่อปีโดยไม่จำเป็น และยังช่วยให้เครดิตดี สะท้อนความสามารถในการบริหารการเงินอย่างมีวินัย

การใช้ บัตรเครดิต ให้คุ้มค่า ไม่ใช่แค่การสะสมแต้ม หรือใช้โปรโมชั่นลดราคาเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการบริหารสภาพคล่องเงินสดอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการรู้จัก “รอบบิล” และการวางแผนใช้เงินช่วงก่อนชำระหนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการฝากในบัญชีดอกเบี้ยสูง หรือการลงทุนในกองทุนตลาดเงิน

หากสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ บัตรเครดิต กลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ไม่เพียงแค่สร้างความสะดวก แต่ยังเพิ่มความมั่งคั่งในระยะยาวได้อีกด้วย

และเพื่อความคุ้มค่าที่มากขึ้น แนะนำบัตรเครดิต ttb so smart (ทีทีบี โซ สมาร์ท) บัตรเครดิตสาย cashback รับเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่ายเข้าบัญชีเงินฝาก ทีทีบี โนฟิกซ์ และมาพร้อมสิทธิประโยชน์ ttb so goood ผ่อนชำระบัตรเครดิตด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ทุกรายการ ขั้นต่ำ 1,000 บาท/เซลล์สลิป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ /th/personal/credit-cards/card-type/ttb-so-smart

*เงื่อนไขและการพิจารณาบัตรเครดิตเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิต สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428
ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

แหล่งอ้างอิงบทความ:

• อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (P-Loan) สินเชื่อรายย่อย เพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano Finance) และบัตรเครดิต (Credit Card), ธนาคารแห่งประเทศไทย