external-popup-close

You are being redirected to

https://www.ttbbank.com/

Proceed

Flash Market Update

ผลการประชุม กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50%

10 Apr 2024



  • ผลการประชุม กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% โดย 2 เสียงมองว่าควรลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25 bps จากเศรษฐกิจไทย ที่ขยายตัวได้ต่ำ จากภาคการส่งออกไทยที่ขยายตัวช้า และความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ประกอบกับการลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะช่วยบรรเทาภาระของลูกหนี้ได้


  • ขณะที่กรรมการส่วนใหญ่มองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันถือว่าสอดคล้องกับการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและการเงิน รวมถึงเห็นว่านโยบายการเงินมีประสิทธิผลจำกัดในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง (ภาคการส่งออก การแข่งขันสินค้าของไทย และการผลิต) ทั้งนี้ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนของปัจจัยที่จะเข้ามากระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า


  • ในด้านของเศรษฐกิจไทย มองว่าปี 2567 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 โดยมาจากภาคการบริโภคของเอกชน และการท่องเที่ยว ซึ่งตัวเลขการท่องเที่ยว ธนาคารแห่งประเทศไทย มองจะดีขึ้นทั้งในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยว และรายจ่ายต่อหัว อีกทั้งในช่วงหลังจากนี้ การใช้จ่ายจากภาครัฐ จะเข้ามามีบทบาทที่ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี และจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.6% ในปี 2567 และ 3.0% ในปี 2568

 

  • ในแง่ของเงินเฟ้อ มองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำส่วนนึงมาจากมาตรการของภาครัฐ (เช่นการลดราคาพลังงาน) ซึ่งถ้าหักปัจจัยนี้ออก พบว่าเงินเฟ้อไทยยังคงเป็นบวกอยู่ ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี จะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นกลับเข้ากรอบเป้าหมายภายในปลายปีนี้ โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.6% ในปี 2567 และ 1.3% ในปี 2568

 

มุมมองต่อการลงทุนในระยะต่อไป


  • การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BOT ที่ 2.5% เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ขณะที่ในระยะข้างหน้า BOT มีโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น โดยเฉพาะหาก Fed เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยไปก่อน ด้านตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตอบรับเชิงลบกับประเด็นดังกล่าว โดยช่วงเวลาประมาณ 15.00 . ดัชนี SET +8.61 จุด (+0.61%) ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อยมาที่ 36.33 THB/USD


  • ทำให้ในเชิงของการลงทุน ตลาดหุ้นไทยจึงยังดูน่าสนใจทั้งในด้านของ Valuation ในมิติของ Earnings Yield Gap (EYG) และ Forward P/E ratio ขณะที่ปัจจัยลบต่างๆ ราคาหุ้นได้ตอบรับไปค่อนข้างมากแล้ว นอกจากนี้เองในช่วงที่เหลือของปี เราอาจได้เห็นมาตรการจากภาครัฐ มากขึ้น หาก พรบ. งบฯ ปี 67 ถูกบังคับใช้เป็นกฎหมาย (คาดภายในเดือน เม..) ประกอบกับ หน่วยงานกำกับดูแลทั้ง ก... และ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พยายามออกมาตรการต่างๆ เรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ซึ่งเราเริ่มเห็นผลลัพธ์เชิงบวกจากมาตรการดังกล่าวมากขึ้น



คำแนะนำการลงทุน

หากดัชนี SET อยู่ต่ำกว่าระดับ 1,400 จุด เป็นจังหวะที่สามารถทยอยสะสมตลาดหุ้นไทยได้ โดยกองทุนที่เราแนะนำคือ TSF-A, TISCOHD-A ทั้งนี้เราแนะนำจำกัดสัดส่วนการลงทุนตลาดหุ้นไทยไม่เกิน 10% ของพอร์ตการลงทุน ด้านกองตราสารหนี้เราแนะนำกองทุน KFAFIX-A




Source: ttb Investment Product Strategist, BOT





หมายเหตุ : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด ที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่าน่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด รายงานฉบับนี้ไม่ถือว่าเป็นคำเสนอหรือคำชี้ชวนให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์และจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเท่านั้น มิให้นำไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชน หรือโดยทางอื่นใด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือเป็นผลจากการใช้เนื้อหาหรือรายงานฉบับนี้ การนำไปซึ่งข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมาย ทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว