📌 ดัชนีที่สำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ปรับตัวลงแรงตั้งแต่หลังเปิดตลาดไม่นาน สืบเนื่องจากความกังวลของนักลงทุนทั้งในเรื่องผลประกอบการหุ้นกลุ่ม Big Tech ที่เหลือจะเป็นอย่างไร ปัญหารัสเซียและยูเครนจะกลับมารุนแรงจนทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น และ Fed ต้องดำเนินนโยบานการเงินที่เข้มงวดขึ้นมากกว่าเดิมหรือไม่? นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีการขายทำกำไรหุ้น Tesla หลังจากที่ผลประกอบการออกมาดี ส่วนหนึ่งเนื่องจากกังวลว่าหากจีนมีการขยายล็อคดาวน์เพิ่มเติม อาจจะกระทบกับแนวโน้มการผลิตและยอดขายรถยนต์ได้
📌 เรามองว่า นักลงทุนบางส่วนมีการเร่งขายหุ้นกลุ่ม Tech เพราะเกรงว่าหากผลประกอบการและมุมมองออกมาไม่ดีแล้ว ราคาหุ้นอาจจจะปรับตัวลงแรงมากเหมือน Netflix หรือไม่? อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในอดีตตั้งแต่ปี 2020 พบว่าหุ้นกลุ่ม Information Technology อย่าง Microsoft และ Apple รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่อย่าง Alphabet และ Amazon ซึ่งเป็นหุ้นใน Top 5 Holding ของกองทุน TMBUSBLUECHIP ไม่มีการปรับตัวลงแรงในระดับมากกว่า 20% ต่อวัน แม้กระทั่งในช่วงที่เกิดการระบาดของ Covid ครั้งแรกก็ตาม รวมทั้งมีการฟื้นตัวจากการ Sell Off ที่ค่อนข้างเร็วอีกด้วย
📌 ด้านผลประกอบการกลุ่ม Big Tech ในช่วงข้ามคืนนั้น ออกมาผสม โดย
1. Microsoft ทั้งยอดขายและผลกำไร สูงกว่าที่ตลาดคาด และผู้บริหาร ยังมีมุมมองที่ดีต่อผลประกอบการในไตรมาสถัดไป ทำให้ราคาหุ้น Microsoft ในช่วงหลังปิดตลาดปรับขึ้นประมาณ +4.47% (CNBC)
2. Alphabet ทั้งยอดขายและผลกำไร ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ทาง YouTube ad และจากฝั่งยุโรป ที่เติบโตลดลง ทำให้ราคาหุ้น Alphabet ในช่วงหลังปิดตลาดปรับลงประมาณ -2% ถึง -3% (CNBC)
3. สำหรับหุ้น Big Tech อื่นๆ อย่าง Apple และ Tesla ราคาในช่วงหลังปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย ส่วน Amazon ปรับตัวเพิ่มขึ้น รอดูการประกาศผลประกอบการในวันพุธและพฤหัสฯ ต่อไป
📌 Outlook: แรงขายที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงข้ามคืนวันอังคารนั้นเกิดขึ้นเร็วและแรงเกินไป ซึ่งคาดว่ามาจากความวิตกของนักลงทุนเพียงชั่วขณะ ผลประกอบการของกลุ่ม Big Tech ยังออกมาผสม และยังออกมาไม่ครบอีกด้วย ดังนั้น เราจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขายหุ้นตามตลาด เพราะตลาดที่ปรับตัวลงมามากจาก Sentiment ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้แย่ ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัวเร็วเช่นกัน
📌 Strategy:
1. ถือครองการลงทุนในกองทุน TMBUSBLUECHIP ตาม Tactical Call ของเรา
2. กองทุนอื่นๆ ได้แก่ KT-ENERGY, KT-FINANCE, TMB-ES-CHILL, ONE-EUROEQ, TMBJPNAE, TMBINDAE และ KT-ASEAN เข้าทยอยสะสมกันได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาได้ปรับตัวลงมานี้
Source: ttb Investment Strategist Team, Tradingview, T. Rowe Price, CNBC, Bloomberg, Investing